หากใครยังจำกันได้ กับหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อระดับโปรอย่าง Sony VEGAS แต่วันนี้โปรแกรมเปลี่ยนชื่อเป็น MAGIX VEGAS Pro 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย แต่ทางไทยแวร์ของหยิบยก โปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 ในเวอร์ชันทดลอง (Trial Version) มารีวิวการใช้งานเบื้องต้นกัน
โดยโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจาก MAGIX VEGAS มีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่
สั่งซื้อหรือทดลองใช้งาน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ VEGAS Post 19
สั่งซื้อหรือทดลองใช้งาน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ MAGIX VEGAS Edit 19
สั่งซื้อหรือทดลองใช้งาน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ MAGIX VEGAS Pro 19
ก่อนอื่น ให้ไปดาวน์โหลด โปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 กันก่อน เมื่อทำการติดตั้ง จะพบกับรายชื่อ โปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 และโปรแกรมอื่น ๆ ซึ่งสามารถติ๊กเลือกได้ว่าจะรับโปรแกรมอื่นอีกไหม เมื่อเลือกได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็กดติดตั้งตามขั้นตอนทันที
หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะพบกับหน้าตาแบบนี้ ประกอบไปด้วย
เมื่อเปิด โปรแกรมตัดต่อ MAGIX VEGAS Pro 19 จะพบกับหน้าตาแบบในรูปด้านล่างนี้ ซึ่งใครที่คุ้นเคยกับโปรแกรมตัดต่ออื่น ๆ ก็จะรู้สึกว่าไม่มีอะไรแตกต่างมากมายเท่าไหร่ แต่สำหรับนักตัดมือใหม่ ลองมาทำความรู้จักหน้าตาโปรแกรมกันก่อน
หลังจากที่ได้ตัดต่อวิดีโอบน โปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 แบบคร่าว ๆ พบว่าโปรแกรมนี้รองรับทุกการใช้งานไม่ว่าจะมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อ หรือมือใหม่ที่อยากจะหาโปรแกรมฝึกฝีมือ จะลองใช้งานแล้วค่อยซื้อโปรแกรมภายหลังก็ทำได้ มาดูกันว่าฟีเจอร์ใดที่น่าสนใจใน MAGIX VEGAS Pro 19 กันบ้าง
ไม่ว่าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจะเป็นอย่างไร การใช้งานเบื้องต้นก็เริ่มที่การ Import File และเรียงไฟล์ ซึ่งขั้นตอนนี้ทำได้ง่าย ๆ ตามมาตรฐานโปรแกรม เพียงเลือก File → Import แล้วเลือกไฟล์ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง วิดีโอ
หรือว่าจะเลือกนำเข้าโปรเจค (Import Project) จากโปรแกรมอื่น MAGIX VEGAS Pro 19 ก็รองรับ ไม่ว่าจะเป็น .prproj จาก โปรแกรม Adobe Premiere Pro, .xml จาก โปรแกรม Final Cut Pro 7 และ Davinci Resolve หรือจะ นำเข้าไฟล์ Text (.txt) ก็ทำได้
เพราะคลิปวิดีโอบางประเภท คำบรรยายใต้ภาพ (Subtitle) ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางการได้ยิน ช่วยแปลภาษาต่างชาติหรือภาษาท้องถิ่นให้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการใส่ Subtitle บนโปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 มีวิธีการให้เลือกดังนี้
ในภาพนี้ เป็นการใส่ Subtitles ด้วยวิธี Insert Text ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่รวมกับไฟล์ที่ Import เข้ามาในโปรแกรม สามารถเปลี่ยนตำแหน่ง เพิ่มเอฟเฟคต์ต่าง ๆ ได้ตามชอบ
การปรับแต่งเสียงผ่าน โปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 นอกเหนือจากการปรับความดัง-เบาของเสียงในโปรแกรมแล้ว ยังเลือกปิดเสียง (Mute) จากไฟล์ฟุตเทจและเสียงได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ด้านเสียงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น Extract File from CD หรือดึงเพลงจากแผ่น CD (แต่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ๆ ก็ต้องมีช่องใส่ CD ด้วยนะ), Audio Event Fx ที่เป็นการใส่ปลั๊กอิน ของลูกเล่นเสียง (Sound Effect) เป็นต้น
สำหรับ Motion Tracking คือฟีเจอร์สำหรับเน้นตัวแบบที่ต้องการให้โดดเด่นและคมชัด เหมาะสำหรับวิดีโอที่มีการแพนกล้องมุมกว้าง มีการเคลื่อนไหวของตัวแบบที่เสี่ยงต่อการสั่นไหว วิธีใช้งานก็ไม่ยาก เพียงคลิกขวาที่ไฟล์ฟุตเทจที่ต้องการ แล้วเลือก Motion Tracking แล้วกางกรอบบริเวณจุดที่ต้องการ
หากใครเป็นมือตัดต่อระดับสูง จะต้องคุ้นเคยกับการเกรดดิ้งสี (Color Grading) ไม่ว่าจะเป็นการแก้สีวิดีโอที่ผิดเพี้ยนบ้าง ไฟล์วิดีโอที่ใช้ตัดต่อเป็นแบบ S-Log บ้าง ซึ่งขั้นตอนการเกรดดิ้งสีบนโปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 นั้นมีอินเตอร์เฟซที่ใช้ง่าย ใครที่หัดเกรดดิ้งสี สามารถใช้โปรแกรมนี้ฝึกฝีมือได้เลย โดยประเภทของการเกรดดิ้งสีบนโปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 มีดังนี้
ตัวอย่างการเกรดดิ้งสีรูปแบบต่าง ๆ
สำหรับปลั๊กอิน (Plug-In) ในโปรแกรมตัดต่อ MAGIX VEGAS Pro 19 มีอีกชื่อหนึ่งว่า "Media FX" เปรียบเสมือนเอฟเฟคต์ โหมดสีต่าง ๆ ไปจนถึงการเพิ่มหรือลดจุดสี (Noise) บนวิดีโอ การปรับ White Balance ฯลฯ จะทำให้ภาพมีขอบดำ มีเงาสะท้อนแบบการส่องกระจกก็ได้ ของให้ลองเล่นไปเรื่อย ๆ จะพบว่า Media FX ใช้งานสนุกมาก แต่ถ้าปลั๊กอิน ที่มียังไม่ครอบคลุมความต้องการ ก็สามารถเพิ่มส่วนขยาย (Extension) อื่น ๆ ในภายหลังก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นโปรแกรม Trial Version ก็ต้องมีเงื่อนไขบางประการที่บีบให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ จ่ายเงินซื้อโปรแกรมซะ ซึ่งเงื่อนไขนั้นก็คือ ลายน้ำ VEGAS บ่งบอกถึงชื่อโปรแกรมตัดต่อชัดเจน และไม่สามารถเรนเดอร์คลิปออกมาใช้งานได้ หากคลิปนั้นมีความยาวเกิน 2 นาที งานนี้ก็ต้องชั่งใจแล้วล่ะว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วนการทดลองเรนเดอร์คลิป ความละเอียดแบบ Full HD (1080p) แบบ 60 เฟรมเรตต่อวินาที (fpm) (แต่จริงๆ แล้วสามารถเลือก ความละเอียดคลิปได้สูงสุดถึง 8K รวมถึงเฟรมเรตได้) ความยาวประมาณ 1.45 นาที จะได้ขนาดของไฟล์วิดีโอประมาณ 161 MB. โปรแกรมจะคำนวณให้เห็นเลยว่าใช้เวลาเรนเดอร์ประมาณกี่นาที ซึ่งคลิปตัวอย่างใช้เวลาเรนเดอร์ประมาณ 5 นาที
นอกจากการเรนเดอร์คลิปแล้ว ยังสามารถส่งอออกไฟล์ (Export) ออกมาเป็นไฟล์ Project เพื่อนำไปทำงานกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้ด้วย ทั้ง .veg สกุลไฟล์ของโปรแกรม MAGIX VEGAS Pro 19 เอง, .prproj จาก Adobe Premiere Pro, .xml จากโปรแกรม Final Cut Pro 7 และ Davinci Resolve, .fcpxml สำหรับทำงานบนโปรแกรม Final Cut Pro X
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ MAGIX VEGAS Pro 19 นับว่าเป็นโปรแกรมตัดต่อชั้นดีที่ใช้ฝึกปรือฝีมือสำหรับผู้ที่หัดตัดต่อวิดีโอได้ หรือมือตัดต่อระดับโปรก็ยังใช้งานได้คล่อง ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายทั้งด้านภาพและเสียง มีเอฟเฟคต์และ ปลั๊กอิน ให้เลือกมากมาย และแน่นอนว่ามีเงื่อนไขเฉพาะเวอร์ชันทดลอง (Trial Version) ที่จำกัดการใช้งานพอสมควร หลังจากครบอายุทดสอบโปรแกรม จะซื้อมาใช้งานภายหลังก็ได้ หรือจะลองโปรแกรม VEGAS Post 19 และ MAGIX VEGAS Edit 19 ก็ได้เช่นกัน
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |