ปัจจุบันนี้ หลายบ้านนิยมซื้อหุ่นยนต์ทำความสะอาดมาใช้งาน เพื่อช่วยผ่อนแรงภาระงานบ้าน ซึ่งในท้องตลาดก็มีให้เลือกใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยหุ่นยนต์ทำความสะอาดในสมัยนี้ ต้องบอกว่าพัฒนามาไกลจากอดีตมาก จากที่เคยดูดฝุ่นได้เพียงอย่างเดียว มันก็ถูกเพิ่มความสามารถในการถูพื้นเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ทำความสะอาดในอดีตก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่เราต้องคอยเทขยะออกจากตัวหุ่นยนต์ด้วยตนเอง และหากจะใช้ฟังก์ชันถูพื้น ก็ต้องมาคอยเติมน้ำ ถูเสร็จแล้วก็ต้องอดผ้าม็อบเอาไปทำความสะอาดอีก ทำให้ผู้ใช้บางรายที่ขี้เกียจ (เช่นผู้เขียน) แม้หุ่นยนต์ทำความสะอาดที่มีอยู่จะสามารถทำได้ทั้งการดูดฝุ่น และการถูพื้น แต่เอาจริง ๆ ก็ใช้งานแค่การดูดฝุ่นเท่านั้น ร้อยวันพันปีที่มีรุ้งกินน้ำจึงจะถูพื้นสักครั้ง
แต่เทคโนโลยีล่าสุดในหุ่นยนต์ทำความสะอาดนั้น บอกเลยว่า ผู้ใช้แทบไม่ต้องไปดูแลมันเลย มันเทขยะออกจากตัวฝุ่นได้เอง เติมน้ำ และซักผ้าถูพื้นอัตโนมัติ ผู้ใช้แค่ต้องคอยเปลี่ยนถุงขยะ และเติมน้ำลงในถังเก็บน้ำเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ และไม่ต้องทำบ่อย อาจจะเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง ขึ้นอยู่กับความถี่ในการทำความสะอาดของผู้ใช้งานแต่ละคน
ในรีวิวนี้ เราก็มีหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่อยากมาป้ายยา นั่นก็คือ Dreame Bot L10s Ultra หุ่นยนต์ที่สามารถทำความสะอาด และดูแลตัวเองได้อัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้แทบไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันเลย จะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้ในรีวิวนี้เลย
Dreame Bot L10s Ultra เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่สามารถทำได้ทั้งการดูดฝุ่น และถูพื้น ในหัวข้อนี้เราขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือหุ่นยนต์ และแท่นชาร์จ
Dreame Bot L10s Ultra ออกแบบตัวเครื่องมาเป็นทรงกลม ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ช่วยให้การเคลื่อนที่ของตัวหุ่นยนต์มีความคล่องตัวสูง สามารถเคลื่อนตัวลัดเลาะได้ง่าย ด้านบนของตัวหุ่นยนต์ที่ยกสูงขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย เป็นเซ็นเซอร์ Laser Detect System (LDS) ของระบบนำทาง
ด้านหน้าของตัวหุ่นยนต์มีกล้อง และเซ็นเซอร์หลบหลีกอุปสรรคแบบ 3 มิติ (3D Obstacle Avoidance) โดยชุดเซ็นเซอร์ด้านหน้านี้ จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ด้านข้าง (Edge Sensor) และ LDS ที่ด้านบน ทำให้ตัวหุ่นยนต์ Dreame Bot L10s Ultra สามารถสร้างแผนที่นำทาง และหลบหลีกอุปสรรคกีดขวางได้อย่างยอดเยี่ยม
ฝาด้านบนสามารถเปิดออกมา เพื่อนำถังเก็บฝุ่นออกมาเทขยะได้ แต่เนื่องจาก Dreame Bot L10s Ultra ก็สามารถดูดขยะออกจากตัวหุ่นยนต์ไปเก็บไว้ที่ถุงขยะในตัวแท่นชาร์จให้อัตโนมัติอยู่แล้ว ในการใช้งานจริง เราจึงแทบไม่จำเป็นต้องเปิดฝาออกมาเลย นอกเสียจากว่า เราต้องการที่จะทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นของตัวถังเก็บฝุ่นเท่านั้นเอง
มาดูด้านล่างของตัว Dreame Bot L10s Ultra กันบ้าง จะมีล้อนำทางขนาดเล็กที่ด้านหน้าอยู่หนึ่งล้อ และล้อเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ 2 ล้อ
หุ่นยนต์ตัวนี้มีแปรงปัดฝุ่นอยู่ฝั่งเดียว ตรงกลางมีแปรงปัดขนาดใหญ่ที่จะคอยดักฝุ่นเข้าไป และด้านล่างที่เป็นเบ้าวงกลมคล้ายกับแว่นตา จะเป็นจุดสำหรับติดตั้งม็อบถูพื้น ส่วนตัวเราค่อนข้างชื่นชอบการออกแบบวิธีติดตั้งนะ เพราะแปรงทุกจุดสามารถถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลยในการแกะ
ตัวแท่นชาร์จของ Dreame Bot L10s Ultra จะค่อนข้างสูงนะ เพราะนอกจากจะทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวหุ่นยนต์แล้ว ตัวแท่นยังต้องทำหน้าที่เป็นถังเก็บขยะ และถังซักผ้าม็อบถูพื้นอีกด้วย
ด้านบนของตัวแท่นชาร์จจะมีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสที่ดูเรียบหรู ฝาด้านบนเมื่อเปิดออกมาจะเป็นช่องเก็บถังน้ำ โดยจะมีถังเก็บน้ำดี (ถังสีขาว), ถังเก็บน้ำเสีย (ถังสีดำ) และช่องเสียบตลับน้ำยาทำความสะอาด
ฝาสีเงินสะท้อนแสงตรงกลาง สามารถดึงออกมาได้ โดยภายในนั้นจะเป็นที่ซ่อนถุงขยะขนาดใหญ่ 3 ลิตร ซึ่งถุงนี้ก็ใช้ได้นานอยู่นะ ถ้าไม่ได้ใช้งานแบบพิสดารน่าจะใช้งานได้ 2-3 เดือนต่อถุงเลยทีเดียว
ด้านล่าง เป็นส่วนสำคัญมาก เพราะจะเป็นจุดที่หุ่นยนต์เข้ามาจอดเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ และดูดเศษฝุ่น เศษขยะออกจากตัวหุ่นยนต์ และดูแลผ้าม็อบด้วย
สังเกตว่าตรงพื้นด้านล่างจะมีความเป็นหลุมลึกลงไป และมีแผงซักผ้าที่ออกแบบคล้ายกับกังหันที่มีตุ่มตะปุ่มตะป่ำอยู่ด้วย จุดนี้จะเป็นจุดที่แท่นชาร์จจะปล่อยน้ำ และน้ำยาทำความสะอาดออกมาชุบผ้าม็อบ และเมื่อถูเสร็จก็จะกลับมาทำความสะอาดผ้าม็อบด้วยการปั่นลงบนแผงซักผ้าเพื่อขัดเอาสิ่งสกปรกออกไป
แน่นอนว่า เมื่อเราใช้งานไปสักพักจุดนี้จะเกิดคราบสกปรกสะสมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางผู้ผลิตเค้าก็คิดไว้แล้ว จึงออกแบบให้ตัวแผงซักผ้าสามารถถอด เพื่อเอาออกมาล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดจะมีลูกเล่นน่าสนใจให้มามากเพียงไรก็ตาม แต่ถ้ามันไม่สามารถทำความสะอาดได้ดี ทุกอย่างก็จบ แต่จากการทดลองใช้งาน Dreame Bot L10s Ultra ของเรามาเกือบสัปดาห์ ก็ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของมัน อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมทีเดียว
หากเรามองดูสเปกของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ส่วนใหญ่แล้วจะมีแรงดูดอยู่ที่ประมาณ 3,000 - 4,000 Pa แต่ว่า Dreame Bot L10s Ultra นั้นมีแรงดูดสูง 5,300 Pa ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถือว่าสูงมากสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพในการดูดฝุ่น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพในการดูดฝุ่น, เศษผม หรือขนสัตว์เลย
สำหรับบ้านที่มีพรม น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า แม้พรมจะทำให้คุณเดินสบายรู้สึกนุ่มสบายเท้า แต่ข้อเสียของมันก็คือขนนุ่ม ๆ ของพรมนั้นเป็นแหล่งเก็บฝุ่นชั้นดีเลย แถมฝุ่นยังสามารถเกาะกับพรมได้ดีกว่าพื้นเรียบ ๆ อีกด้วย
แต่ Dreame Bot L10s Ultra นั้นสามารถตรวจจับได้ด้วยว่า มันกำลังทำงานอยู่บนพื้นพรม โดยหากมันวิ่งขึ้นบนพรมเมื่อไหร่ก็ตาม มันจะเพิ่มกำลังของแรงดูดให้อัตโนมัติ เพื่อให้สามารถดูดฝุ่นออกจากพรมได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ ตัวผ้าถูพื้นด้านหลังก็จะหยุดหมุน และยกตัวขึ้น ซึ่งสามารถายกตัวได้สูงถึง 7 มิลลิเมตร ทำให้เวลาเคลื่อนตัวผ่านพรม ไม่ทำให้พรมเปียก ช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อพรมเกิดความเสียหาย
ในส่วนของการถูพื้น วิธีถูพื้นของหุ่นยนต์รุ่นนี้จะเป็นการใช้หัวผ้าหมุนขัดลงไปบนพื้น ซึ่งต้องบอกเลยว่า มันเช็ดคราบสกปรกออกจากพื้นได้ดีกว่าการแรงกดเพียงอย่างเดียว
Dreame Bot L10s Ultra มีแทงค์น้ำอยู่ในตัวหุ่นยนต์ขนาด 80 มิลลิลิตร เพื่อใช้ในการถูทำความสะอาดพื้น ซึ่งไม่ใช่ปริมาณที่เยอะมาก ทำให้หากผู้ใช้งานสั่งให้มันถูพื้นในบ้านที่มีพื้นที่กว้างมาก ๆ ตัวหุ่นยนต์ต้องกลับแท่นชาร์จเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นกรณีเติมน้ำสะอาดเพราะแทงค์น้ำสะอาดที่ใช้ในการถูหมด หรือเข้าแท่นในกรณีที่ไปเก็บฝุ่นหรือว่าซักม๊อบให้สะอาด
ฟังดูเป็นเรื่องแย่ ที่หุ่นยนต์ต้องเสียเวลาวิ่งกลับฐานบ่อย ๆ แต่จากการสังเกตของเราพบว่ามันเป็นเรื่องดีนะ เพราะการถูพื้นให้สะอาด เราก็ควรจะซักผ้าม็อบถูพื้นเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว ลองคิดดูสิ ถ้าเราถูพื้นด้วยผ้าที่สกปรก แล้วพื้นมันจะสะอาดได้อย่างไร ? ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดผ่านตัวแอปพลิเคชันได้เลยว่า จะให้ถูพื้นด้วยความเปียกระดับไหน จะให้กลับมาซักผ้าม็อบใหม่อีกครั้งเมื่อทำความสะอาดไปแล้วกี่ตารางเมตร
ในส่วนของการข้ามสิ่งกีดขวาง และหลบหลีกอุปสรรคนั้นไม่ต้องห่วงเลย จากการที่เราเคยทดสอบหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาหลายรุ่น Dreame Bot L10s Ultra นั้นมีระบบนำทางที่ยอดเยี่ยม และแม่นยำเป็นอย่างมาก เรื่องพื้นฐานอย่างการวิ่งขึ้นพรม, วิ่งข้ามสายไฟ หรือข้ามพวกธรณีประตูนั้น สามารถวิ่งผ่านได้สบาย ๆ อย่างง่ายดาย
เรื่องการหลบหลีกในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง คุณผู้อ่านน่าจะเคยเห็นคลิปวิดีโอหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่วิ่งไถอุจจาระของสัตว์เลี้ยงไปตามพื้น จนเกิดเป็นภาพศิลปะแกงกะหรี่สุดสะพรึง นั่นก็เพราะว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นดังกล่าว มองไม่เห็นอุจจาระของน้องหน้าขนที่เราเลี้ยงไว้
แต่ Dreame Bot L10s Ultra นี่ต้องบอกเลยว่ามีระบบนำทางที่เทพมาก การเดินของมันแทบจะไม่มีการชนเฟอร์นิเจอร์เลยแม้แต่นิดเดียว คือมันจะเบรคตัวเองเอาไว้ในระยะเกือบประชิด แล้วหลบทันที ดังนั้น หากเรามีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง และกลัวว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมาวิ่งขูดทำให้เกิดรอยขีดข่วน ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ยากมากกับ Dreame Bot L10s Ultra
เราลองทดสอบแบบโหด ๆ ด้วยการนำรถของเล่นขนาดเล็กมาวางขวางการวิ่งของมัน ก็พบว่ามันสามารถมองเห็น และหลบหลีกได้อย่างแม่นยำ
การควบคุมหุ่นยนต์ทำความสะอาด Dreame Bot L10s Ultra นั้นจะทำผ่านแอปพลิเคชัน โดยสามารถเลือกใช้งานได้ 2 ตัว คือ จะใช้แอป Mi Home หรือแอป Dreamehome ก็ได้ เราทดสอบแล้วพบว่า UI ของตัวแอปพลิเคชันเหมือนกันแทบทุกประการ ต่างกันแค่นิดเดียว โดยหากเราต้องการเปิดดูกล้องที่ติดมากับตัวหุ่นยนต์ จะต้องใช้ผ่านแอป Dreamehome เท่านั้น
ในการใช้งานครั้งแรก ตัวหุ่นยนต์ทำความสะอาดก็จะวิ่งสำรวจพื้นที่ภายในที่อยู่อาศัยของคุณ เพื่อสร้างแผนที่ขึ้นมา หลังจากที่มันสร้างแผนผที่เสร็จแล้ว เราก็สามารถมาตั้งค่าแผนที่ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้อง, กำหนดโซนพื้นที่พิเศษ และสร้างกำแพงจำลองเพื่อกั้นไม่ให้หุ่นยนต์วิ่งผ่าน
เราสามารถตั้งค่าการทำความสะอาดให้แต่ละพื้นที่แยกกันได้อย่างอิสระ เช่น ห้อง A จะดูดฝุ่นอย่างเดียวที่ระดับความแรงในการดูดสูงสุด ส่วนห้อง B ก็อาจจะตั้งเป็นแรงดูดต่ำสุดเพื่อลดเสียงรบกวน พร้อมกับถูพื้นด้วยความเปียกระดับน้อยสุด
|
|
ความพิเศษของระบบแผนที่ใน Dreame Bot L10s Ultra คือจะมีแผนที่แบบ 3 มิติ ด้วย โดยมันจะสร้างขึ้นมาให้อัตโนมัติตั้งแต่ตอนที่วิ่งสแกนพื้นที่อยู่ แต่ถ้ามีตกหล่นอะไรไป หรือมีการเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่เข้ามาในภายหลัง ตัวผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มมันเข้าไปในแผนที่ด้วยตนเองได้เช่นกัน
แผนที่ 3 มิติ มีประโยชน์ในการนำทางของตัวหุ่นยนต์ ช่วยให้มันรู้ข้อมูลความสูง และความลึกได้ จุดไหนเดินเข้าไปไม่ได้ มันก็จะไม่ฝืนวิ่งฝ่าเข้าไปให้เสียเวลา เสี่ยงติดคาที่อยู่ในนั้น หรือถ้าด้านหน้ามีบันได มันก็สามารถรู้ล่วงหน้าได้ทันที แต่เซ็นเซอร์กันตกก็ยังมีอยู่นะ เรียกได้ว่าเป็นการตรวจสอบพื้นที่ในการวิ่งล่วงหน้า เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำทาง และลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวหุ่นยนต์ได้เป็นอย่างดี
|
|
ในแอปพลิเคชันยังมีการตั้งค่าที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาให้ทำงานล่วงหน้าอัตโนมัติ, เปิดปิดระบบตรวจสอบเมื่อเจอพรม หรือแม้แต่จะให้วิ่งหลบก็กำหนดค่าการทำงานได้เช่นกัน, ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ว่าแต่ละส่วนยังพร้อมใช้งานอยู่หรือไม่, เปิดโหมดห้ามรบกวนในเวลาที่ต้องการ ฯลฯ
กล้องที่อยู่ด้านหน้าของตัวหุ่นยนต์ นอกจากจะเป็นกล้อง AI ที่ใช้วิเคราะห์อุปสรรคแล้ว ในยามที่ไม่ได้ทำความสะอาด เรายังสามารถใช้มันเป็นกล้องเคลื่อนที่เพื่อดูความเคลื่อนไหวภายในบ้าน แถมยังเปิดไมค์เพื่อพูดคุยได้ด้วย จะใช้พูดคุยกับสัตว์เลี้ยง หรือตะโกนไล่ผู้ร้ายให้เกิดความตกใจกลัวได้ด้วย รวมถึงการกดถ่ายภาพ เพื่อเก็บหลักฐานเอาไว้ ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งจากการทดสอบใช้งานของเรา กล้องมีความคมชัดมากเกินคาด แม้แต่ในที่มืดก็ยังมองเห็นได้ในระดับที่ดูรู้เรื่อง
การบังคับทิศทาง สามารถใช้จอยสติ๊กที่ด้านข้าง หรือจะจิ้มตำแหน่งในแผนที่ (ด้านซ้ายบน) ได้เลย สะดวกมาก
หลังจากที่อยู่กับมันมาได้เกือบ 1 อาทิตย์ เราก็ตกหลุมรักกับเจ้า Dreame Bot L10s Ultra หุ่นยนต์ทำความสะอาดตัวนี้อย่างรวดเร็ว มันฉลาด มันทำความสะอาดได้ดี แถมมันยังดูแลตัวเองได้ เราแค่ต้องนำถุงขยะออกจากแท่นชาร์จไปทิ้งเองสักเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง และนำน้ำเสียไปเททิ้ง เติมน้ำดีลงในถังประมาณเดือนละครั้งเท่านั้นเอง ได้เวลาในชีวิตกลับคืนมาเยอะเลย
ใครที่ยังไม่มีหุ่นยนต์ไว้ใช้งาน และไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เราคิดว่า Dreame Bot L10s Ultra จะไม่ทำให้คุณรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อมาใช้งานได้ผ่าน Dreame Official Store ตัวเครื่องรับประกันศูนย์ไทย 3 ปี (สำหรับแบตเตอรี่ 1 ปี)
สามารถติดตามโปรโมชั่น และกิจกรรมดี ๆ ได้ที่ Facebook Dreame Official : https://bit.ly/3CIzK7i
Dreame Bot L10s Ultra | |
ระบบนำทาง | Laser Detect System (LDS) + 3D |
การหลบหลีกอุปสรรค | Dual Lasers + AI |
แรงดูด | 5,300 Pascal (Pa) |
ถังน้ำในตัว | 80 มิลลิลิตร, ระบบเติมน้ำอัตโนมัติ |
ขนาดกล่องเก็บฝุ่น | 350 มิลลิลิตร |
ระบบดูดฝุ่น และม็อบ | Brushless Rubber Brush และ 180RPM Dual |
การยกตัวของม็อบ | ได้ (สูงสุด 7 มิลลิเมตร) |
การตรวจจับพรม | ได้ |
ความจุของแบตเตอรี่ | 5200 mAh |
ฟังก์ชันของแท่นชาร์จ | ดูดขยะจากหุ่นยนต์อัตโนมัติ, เติมน้ำให้หุ่นยนต์อัตโนมัติ |
ความจุถังน้ำในแท่นชาร์จ | 2.5 ลิตร |
ระบบทำแห้งของผ้าม็อบ | เป่าลมร้อน (2 ชั่วโมง) |
ความจุถุงขยะในแท่นชาร์จ | 3 ลิตร |
เติมน้ำยาทำความสะอาดอัตโนมัติ | ได้ |
ตัวหุ่นยนต์ | แท่นชาร์จ | |||
ขนาด | 350 x 350 x 97 มิลลิเมตร | 423 x 340 x 5 | ขนาด | |
น้ำหนัก | 3.7 กิโลกรัม | 8.9 กิโลกรัม | น้ำหนัก | |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,200 mAh | 3 ลิตร | ความจุถุงขยะ | |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 350 มิลลิลิตร | 2.5 ลิตร | ความจุถังเก็บน้ำสะอาด | |
ความจุถังเก็บน้ำ | 80 มิลลิลิตร | 2.4 ลิตร | ความจุถังเก็บน้ำเสีย | |
แรงดูดสูงสุด | 5,300 ปาสคาล (Pa) | |||
เสียงรบกวนต่ำสุด | 59 dB (ขณะถูพื้น) |
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |