รีวิว External HDD Canvio มิติใหม่แห่งการสำรองข้อมูล

เดี๋ยวนี้หมดยุคของการทำงานเอกสารด้วยกระดาษจริงๆ ไปนานแล้วครับ ทุกอย่างกลายเป็นดิจิตอล การรับส่งงานก็เป็นไฟล์ดิจิตอลกันหมดแล้ว ทำให้สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพากลายเป็นที่นิยมและมีการเติบโตในตลาดสูงขึ้นมาก เท่าที่ผมเห็นตลาดบ้านเราในขณะนี้การแข่งขันอยู่ที่ราคาและดีไซน์เป็นหลัก แต่วันนี้ผมได้ External Harddisk ที่น่าสนใจมาทดสอบ ซึ่งความน่าสนใจของมันอยู่ที่ซอฟท์แวร์ที่มีมาพร้อมกับตัว External Harddisk ครับ แต่ก่อนอื่นเรามาดูกับรูปลักษณ์กันก่อนดีกว่า ก่อนที่จะเข้าไปในส่วนของ Software

ซึ่งจุดเด่นของ  External HDD Canvio จะมีดังนี้ครับ

• เทคโนโลยีตรวจจับแรงกระแทกภายในและการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันไดร์ฟของคุณ (Shock Sensor & Ramp Loading)
• การเข้ารหัสการสำรองข้อมูลได้ (Password Protection)
• สำรองและเรียกคืนได้อย่างสมบูรณ์ทั้งระบบ* (Auto Backup Software) กำหนดตารางเวลาการสำรอง/เรียกคืนไฟล์และโฟล์เดอร์ *Windows เท่านั้น
• การแจ้งเตือนเนื้อที่คงเหลือ (Drive Space Alert)
• NTI Backup NowEZ software for Windows
• อัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุด 5Gb/s
• สามารถใช้กับ USB 2.0 ได้

PACKAGE

แพ็คเกจมาแบบเรียบๆ ด้านหน้ามีบอกว่ารองรับทั้งการเชื่อมต่อ USB แบบ 3.0 และ 2.0 ด้านข้างมีบอกคุณสมบัติที่โดดเด่นของรุ่นนี้

ในกล่องมีคู่มือกับสาย USB ให้มา 1 เส้นครับ

ตัวไดร์ฟที่ผมได้มาทดสอบเป็นสีแดงครับ ทำจากพลาสติกทั้งตัวเลย ด้านหน้ามีลวดลายกราฟฟิค และโลโก้ของ TOSHIBA 

ตรงฝาหน้ากับฝาหลังจะเป็นพลาสติกเงา แต่ว่าด้านข้างโดยรอบทั้งสี่ทิศทางจะเป็นพลาสติกสีเทาด้านครับ

ด้านล่างจะมีปุ่มยางทั้ง 4 มุม เพื่อกันลื่นครับ เหนียวใช้ได้เลยครับ รับรองว่าไม่มีไหลสไลด์ตกโต๊ะง่ายๆ แน่นอน

ด้านบนมีช่องเสียบ USB ครับ

มีไฟแสดงการทำงานด้วยเมื่อทำการเชื่อมต่อ

สาย USB ที่ให้มาครับ

เริ่มต้นใช้งาน

เราจะไม่พูดถึงการเก็บไฟล์นะครับ นั่นเป็นเรื่องพื้นๆ ที่ทุกคนทำกันได้อยู่แล้ว แต่ผมจะมารีวิวตัวโปรแกรมที่ทาง TOSHIBA เค้าแถมมาให้ จะดีแค่ไหนต้องลองครับ

เมื่อเราเชื่อมต่อ CANVIO 3.0 เข้ากับคอมพิวเตอร์ จะพบว่าในตัวฮาร์ดดิสค์จะมีไฟล์ให้มาด้วย 2 ไฟล์ครับ เป็นไฟล์คู่มือแมนนวล กับ ไฟล์ setup

เรามาดูกันดีกว่าครับว่า TOSHIBA ให้โปรแกรมอะไรเรามาด้วย มาเริ่มติดตั้งกันก่อน

พอเรากด   Continue    โปรแกรมจะเช็คเวอร์ชัน ถ้ามีเวอร์ชันใหม่กว่าจะทำการดาวน์โหลดไฟล์เวอร์ชันล่าสุดให้อัตโนมัติครับ

รอจนเสร็จแล้วจะปรากฏหน้าตาแบบนี้ครับ เราไปที่ NTI Backup Now EZ กัน (โปรแกรมนี้ไม่ฟรีนะครับราคาแพงทีเดียวแต่ TOSHIBA แถมมาให้เลย)

กดติดตั้งแล้วจะมีให้เลือกภาษาที่เราต้องการใช้งานครับ มีภาษาไทยด้วย แต่ผมขอใช้ภาษาอังกฤษดีกว่าครับ

กดติดตั้งไปตามขั้นตอนให้เรียบร้อยครับ  หลังจากติดตั้งเสร็จสิ้นจะต้อง Restart คอมพิวเตอร์ด้วยหนึ่งครั้งครับ

การ Backup และ Recovery

หลังจาก Restart เราต้องลงทะเบียนด้วยครับ มันจะขึ้นมาให้เราลงทะเบียนเองอัตโนมัติครับหลังจากลงทะเบียนแล้ว เรามาลอง Backup กันดูครับ

จะเห็นว่ามีตัวเลือกในการ Backup ให้เรา 3 แบบครับ แต่ทุกแบบมีขั้นตอนเหมือนกัน เคสนี้ผมจะสาธิตการ Backup Computer File System ลง Harddisk ละกันนะครับ

ก่อนจะเริ่ม Backup กด Modify ก่อนครับ จะแสดงรายละเอียดของไดร์ฟที่เราเชื่อมต่ออยู่ และสามารถเลือกการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยของไฟล์ที่เราต้องการด้วยก็ได้

สังเกตว่ามีให้แจ้งเตือนด้วยครับ หากข้อมูลใกล้เต็มพื้นที่แล้ว หลังจากตั้งค่าจนพอใจแล้วกด Finish ออกมาครับ

กดที่ปุ่มสีเขียวขวาล่างเพื่อเริ่มต้นครับ หลังจาก Backup เสร็จแล้ว ที่ Harddisk ของเราจะมีไฟล์ปรากฏขึ้นมาพร้อมมีแจ้งเตือนด้วยว่่าห้ามแก้ไขไฟล์ Backup เด็ดขาด

แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ ถ้าคอมเรามีปัญหาก็แค่เลือก Boot Option ผ่าน Harddisk เพื่อแก้ไขทุกอย่างให้เป็นดังเดิม ง่ายดายมากครับ

หรือการ Backup File สำคัญๆ ก็สามารถจัดเก็บให้เป็นระบบอย่างเป็นระเบียบได้อย่างงายดายครับ ด้วยการใช้ตัวเลือกที่ 2  File and Folder Backup

ประสิทธิภาพในการทำงานของ TOSHIBA CANVIO 3.0

สรุป

สำหรับคนที่มองหา Harddisk มาใช้สำรองไฟล์ เจ้า CANVIO 3.0 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ ด้วยซอฟท์แวท์ที่ใช้จัดการไฟล์ทำงานได้เป็นอย่างดี และความคงทน ที่ผมบอกว่าทนเพราะว่ารุ่นมี Shock Sensor ด้วยครับ ซึ่งตัว Shock Sensor จะทำการดึงเข็มอ่านออกจากจานแม่เหล็กทันทีที่มันสัมผัสถึงการหล่นวูบภายในชั่วพริบตา พร้อมกับหยุดจานแม่เหล็กที่กำลังหมุนอยู่  เพื่อไม่ให้ตัวจานเกิดความเสียหายได้ ซึ่งถ้าไม่มีเซนเซอร์ตัวนี้ แล้วเราทำตกหัวอ่านอาจจะสะดุดกับจานแม่เหล้ก อย่างดีก็แค่ Bad Sector แต่อย่างแย่นี่คือพังเลยนะครับ

ที่ทำให้น่าสนใจอีกอย่างคือรับประกันถึง 3 ปี แน่ะ เยอะกว่าเจ้าอื่นหลายรายในท้องตลาดด้วยครับ ทิ้งท้ายด้วยคลิปโฆษณาจาก TOSHIBA ละกันครับ แล้วครั้งหน้าเราจะรีวิวอะไรมาคอยติดตามกันได้ที่ไทยแวร์นะครับ