หากพูดถึง Gadgets ไฮเทค ที่เป็น Wearable device ที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมี Google Glass แน่ๆ แต่คำถามแรกที่หลายคนคงอยากถามด้วยเช่นกัน คือ มันคืออะไร และ ทำอะไรได้บ้าง
Google Glass เป็นแว่นตาที่คอมพิวเตอร์และหน้าจอติดตั้งอยู่กับตัวแว่น และมีกล้องติดอยู่ ขาแว่นรองรับการใช้งานระบบสัมผัส และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ปัญหาคือด้วยพื้นที่การแสดงผลที่มีจำกัด มันจะทำอะไรได้บ้าง คงเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย เพราะราคาของมันในตอนนี้วางจำหน่ายอยู่ที่ $1,500 คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 49,000 บาท เราคงไม่เสียเงินครึ่งแสนกับแว่นตาที่ทำได้แค่ถ่ายรูปแน่ๆ ใช่ไหมล่ะครับ
คำตอบก็คือ Google Glass ถ้าพูดไปมันก็ทำให้เราเหมือนมี Google ติดตัวเราตลอดเวลา มันสามารถแสดงข้อมูลจากสมาร์ทโฟนหรือ Google accounts บนหน้าจอของ Google Glass, รับสายที่โทรเข้ามา, ส่งข้อความ, ถ่ายรูปและวิดีโอ, แสดงแผนที่, แสดงผลการค้นหา และทีเด็ดที่สุด คือ รองรับ Google Now ด้วย
การจะเป็นเจ้าของ Google Glass ในปัจจุบันก็ยังเป็นเรื่องยากทีเดียว เราต้องลงทะเบียนเป็น Google Glass Explorer เสียก่อน จากนั้นหากเราได้รับเลือกจาก Google เราก็จะได้สิทธิ์ซื้อ แน่นอนว่าในราคา $1,500 นั่นแหละ งานนี้ต้องบุคคลผู้มีเงินเหลือเท่านั้น หุหุ
คุณสมบัติของ Google Glass
แกะกล่อง Google Glass
กูเกิล กลาสไม่ได้ให้แว่นมาด้วย คุณต้องซื้อตัวเลนส์อีกต่างหาก ซึ่งมีราคาประมาณ $225 เดี๋ยวมาลองแกะกล่องกันว่าข้างในจะมีให้เราบ้าง
ตัวเลนส์มีกรอบพร้อมเลนส์ และซองใส่ ในกล่องนี้มีแค่นี้แหละ = ="
ข้างกล่องระบุว่าออกแบบโดยกูเกิล ผลิตในจีนนะ
มาดูกล่อง Google Glass บ้าง เปิดมาก็เป็นแว่นเลย บนพื้นกล่องจะมีบอกว่าปุ่มอะไรใช้ทำอะไร
ใต้ฝากล่องมีคำแนะนำ เริ่มต้นใช้งานแบบย่อๆ ให้อ่าน
ในกล่อง Google Glass มีสายชาร์จมาให้ กับหูฟัง
สาย USB ที่ให้มาสวยทีเดียว
มาดูตัวแว่น Google Glass กัน
ตัวเครื่องกูเกิลกลาสจะอยู่ที่มุมขวาของแว่นตา จะมีจอกับกล้อง
ดูเหมือนมันเล็กและไม่น่าจะสังเกตเห้นเวลาใส่นะ แต่จากการทดลองใส่ออกไปเดินสยามพบว่า
ทุกคนสังเกตและมองผมเหมือนตัวประหลาดเลย
ด้านบนมีปุ่มสำหรับถ่ายรูป แต่จะใช้คำสั่งเสียง Take a picture, หรือขยิบตาขวาก็ได้นะ
(แอบถ่ายชาวบ้านง่ายเลย)
กล้องมีความละเอียดประมาณ 5MP คุณภาพพอใช้ มันไม่ได้เน้นกล้องอยู่แล้ว คุณภาพก็ประมาณมือถือทั่วไปครับ
ส่วนเจ้าก้านสีดำด้านข้างนั่นเป็นทัชแพดด้วยนะ เราสามารถเลื่อนซ้าย-ขวาไปตามขาแว่นเพื่อเลื่อนเมนูได้
และหากเลื่อนนิ้วลากลงก็จะเป็นการถอยหลัง (Back) เหมือนในแอนดรอยส์นั่นเอง
ตัวนี้เป็นปุ่มที่เวลาเราใส่ มันจะถูกกดอัตโนมัติเพื่อควบคุมสปีกเกอร์
ช่องเสียบสายชาร์จจะอยุ่ด้านล่างของตัวแว่น
เวลาชาร์จจะมีไฟสีขาวแสดงสถานะขึ้นมาแบบนี้ครับ
เมื่อมองจากด้านหน้า
เมื่อมองจากด้านหลัง
หน้าตาเมนูของ Google Glass
กูเกิล กลาส ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบกับ Android Phone เท่านั้น การใช้งานกับ iOS ยังมีข้อจำกัด เพราะว่าทาง Apple ไม่อนุญาติให้แอปฯภายนอกใช้งานการรับส่งข้อความ, อีเมล, Google Hangouts อะไรพวกนี้ได้ ซึ่ง Android สามารถทำได้ไม่มีปัญหา
เมนูที่เราเห็นบนจอ Google Glass จะหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ใช้คำว่า Ok Glass เป็นประโยคเริ่มต้นในการสั่งงาน
สมมติเราอยากรู้ว่าประชากรในจีนมีจำนวนเท่าไหร่
เราก็พูดว่า "Okay Glass, what's the population of China?"
เราก็จะได้รับคำตอบบนจอแบบนี้
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่า Apple มีข้อจำกัดในการให้แอปฯภายนอกเข้าถึงไฟล์ระบบของเครื่อง
การนำทางด้วยก็เช่นกัน หากต้องการให้ Google Glass นำทางได้ตลอดเวลา ตัว iPhone จะต้อง Awake ตลอดเวลา
ไม่สามารถใช้งานในโหมด Sleep ได้
ในตอนนี้แอปฯสำหรับ Google Glass ยังมีอยู่น้อยมาก (ประมาณ 42 แอปฯ) แต่ว่าแอปฯที่มีอยู่น่าสนใจทีเดียว
อย่างเช่นแอปฯ World Lens ที่แค่มองก็แปลภาษาให้
ในอนาคตน่าจะมีแอปฯมากกว่านี้แน่นอน
ภาพเมนู Google Glass เครดิต https://www.techradar.com/reviews/gadgets/google-glass-1152283
ความเห็นจากไทยแวร์
จุดเด่น
จดด้อย
ในตอนนี้ Google Glass คงยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ด้วยราคาที่แพงมากและความสามารถที่ยังจำกัดอยู่ ผมมองว่าต้องให้เวลาในการพัฒนามากกว่านี้ เมื่อมีแอปฯมากขึ้น กล้องที่ดีขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เต็มวันสบายๆ และมีราคาที่ลดต่ำลงกว่านี้ มันน่าจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างไม่ยาก
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |