รีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น AUTOBOT Smart Robot Vacuum ราคาถูก วิ่งกลับแท่นชาร์จเองได้

หลังจากที่เราได้รีวิว หุ่นยนต์ทำความสะอาด AUTOBOT Mini Robot Vacuum หรือเจ้าตัวน้อยกันไปก็ได้มีกระแสตอบรับกันมามากมาย จนทำให้เราได้นำรุ่นพี่อีก 1 ตัวมารีวิวกันซึ่งเจ้าเครื่องทำความสะอาดเครื่องนี้เป็นรุ่น AUTOBOT Smart Robot Vacuum มาพร้อมรูปลักษณ์ที่มองครั้งแรกแล้วรู้สึกได้ถึงความเท่กันเลยทีเดียว ด้วยการดีไซน์ให้เครื่องดูดีมีมิติ จึงทำให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดเครื่องนี้ดูน่าหลงไหลเป็นอย่างยิ่ง เพียงมองภายนอกเราอาจจะยังไม่รู้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ทำอะไรได้บ้าง งั้นเรามาดูรายละเอียดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ไปพร้อมๆ กันเลย

คุณสมบัติของเครื่องดูดฝุ่น Autobot Smart Robot Vacuum

• ราคาประหยัด
• ทำความสะอาดได้ทั่วถึง เพราะมีขนาดเล็ก
• สามารถควบคุมด้วยรีโมทได้
• มีฟังก์ชั่นการทำงานอัตโนมัติ
• ตั้งเวลาหรือกำหนดได้ว่าต้องการให้เริ่มทำความสะอาดเวลาไหน โดยตั้งได้สองแบบคือ ภายใน 24 ชั่วโมงหรือเมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม
• เครื่องเดียวสามารถทำได้ 2 ขั้นตอน (ดูดฝุ่นและถูพื้น)
• ระบบเซ็นเซอร์ด้านหน้าเพื่อตรวจจับสิ่งสกปรก
• ทำความสะอาดพื้นที่ไต่ระดับสูงถึง 17 มิลลิเมตร (17mm)
• มีระบบเซ็นเซอร์ใต้เครื่อง ตรวจสอบพื้นที่ต่างระดับเพื่อป้องกันการตกจากที่สูง โดยสามารถปรับระดับแสงได้ 4 ระดับ
• เครื่องมีเสียงเบาจึงไม่รบกวนหรือเป็นอันตรายต่อระบบการรับเสียงของหู
• ขนแปรงที่ยาวขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• หุ่นยนต์ดูดฝุ่น AUTOBOT Smart Robot Vacuum จำนวน 1 เครื่อง
• แท่นชาร์จอัตโนมัติ จำนวน 1 เครื่อง
• รีโมทควบคุมเครื่องดูดฝุ่น จำนวน 1 อัน
• แปรงทำความสะอาด จำนวน 2 อัน
• แบตเตอร์รี่ จำนวน 1 ก้อน
• สายชาร์จ จำนวน 1 อัน
• คู่มือ จำนวน 1 เล่ม
• เอกสารรับประกัน จำนวน 1 เล่ม
• ถ่านรีโมท AA จำนวน 2 ก้อน
• แผ่นทำความสะอาดแบบแห้ง จำนวน 3 แผ่น
• ฟิลเตอร์ (แผ่นกรองฝุ่น) จำนวน 2 อัน (รวมที่อยู่ในเครื่อง)

รูปลักษณ์ภายนอก

ถ้ามองดูจากด้านบนจะเห็นว่าเครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้มีด้วยกันถึง 4 ชั้นด้วย เพราะการดีไซน์ที่ทำให้เครื่องนั้นดูมีมิตินั้นเอง

เรามาดูปุ่มที่เห็นอยู่ด้านหน้าของเครื่องกันบ้าง ว่าแต่ละปุ่มทำหน้าที่อะไร

1. เริ่มแรกเลยปุ่ม MODE เป็นปุ่มที่เราใช้ควบคุมหรือเลือกว่าต้องการให้เครื่องดูดฝุ่นของเรานั้นทำงานอยู่ในโหมดไหน
2. ปุ่มที่อยู่ตรงกลางด้านล่าง เป็นปุ่มเปิดเครื่องมีสัญลักษณ์เป็นวงกลมแล้วมีขีดตรงกลาง
3. ถัดมาทางด้านซ้ายที่เห็นเป็นรูปใบพัดคือสัญลักษณ์สถานะการทำงานของเครื่องแบบอัตโนมัติ (จะมีไฟสีส้มขึ้นเมื่อเราใช้งานโหมดนี้)
4. สัญลักษณ์ MOP เป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะเมื่อเราต้องการจะถูพื้น (จะมีไฟสีส้มขึ้นเมื่อเราใช้งานโหมดนี้)
5. กากบาททางด้านขวาเมื่อมีสีแดงขึ้นที่ลัญลักษณ์แสดงว่าเครื่องของเรากำลังทำงานผิดปกติ
6. เมื่อมีสีแดงขึ้นที่สัญลักษณ์รูปถังขยะแสดงว่าเครื่องของเรานั้นมีสิ่งสกปรกเก็บที่ถังกรองด้านในจนเต็ม ควรรีบนำไปเททิ้งก่อนแล้วค่อยเริ่มทำความสะอาดใหม่

สำหรับด้านหน้าดูเหมือนเจ้าเครื่องนี้จะใส่แว่นเหมือนตัวละคร ไซคลอปส์ (Cyclops) ในหนัง X-Men แต่แว่นของเจ้าเครื่องนี้เป็นแว่นที่ใช้เป็นเซ็นเซอร์ในการตรวจจับสิ่งสกปรกและยังใช้เป็นกันชนเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้นเอง

ด้านหลังเป็นที่ชาร์จสำหรับแท่นชาร์จ Docking Station จะมีลักษณะเป็นลูกเหล็ก 2 อัน

ส่วนปุ่มสวิตช์ที่เห็นอยู่เป็นสวิตช์เปิด - ปิดการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ช่องเล็กๆ ถัดมากจากปุ่มสวิตช์คือช่องสำหรับเสียบสายชาร์จแบบ Adaptor

สำหรับปุ่มนี้เป็นปุ่มที่อยู่ใต้เครื่องดูดฝุ่น แล้วมันมีไว้ทำอะไรละ คำตอบคือเป็นปุ่มที่เอาไว้ใช้สำหรับวัดแสงของพื้น หากพื้นมีความสว่างหรือมองดูแล้วสว่าง ให้เลื่อนปุ่มนี้ไปทางด้านซ้ายหรือเลื่อนไปด้านที่มีสัญลักษณ์จุดวงกลมนูนเล็กๆ ถ้าคุณปรับช่องรับแสงไม่ตรงกับความสว่างของพื้นเครื่องอาจจะตกจากที่สูงได้ อาทิเช่น ถ้าพื้นของคุณสว่างแล้วคุณยังปรับช่องรับแสงให้มีขนาดกว้างตัวเซ็นเซอร์ข้างในก็จะวัดค่าของพื้นผิดพลาดทำให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดของคุณตกจากโต๊ะหรือบันไดได้

ปุ่มที่เห็นเราวงกลมสีแดงไว้นั้นเป็นปุ่มสำหรับเปิดฝาถังกรอง

เปิดฝาออกมาจะเจอกล่องใส่ขยะและฟิลเตอร์ (แผ่นกรองฝุ่น) พอเอากล่องใส่ขยะออกด้านในจะเป็นดังรูปข้างล่าง

ถาดรองกระดาษทำความสะอาดหรือถาดใส่กระดาษเช็ดพื้น สำหรับถาดใส่กระดาษนี้มีการติดตั้งมาให้ด้านใต้ของตัวเครื่องอยู่แล้ว หากใครที่ต้องการดูดฝุ่น บนพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ปาร์เก้ ไม้ยาง ต่างๆ จะต้องติดถาดรองกระดาษทำความสะอาดเอาไว้ หากต้องการที่จะดูดฝุ่นบนพรม จะต้องแกะถาดรองกระดาษทำความสะอาดออกไปก่อนการใช้งาน

หากเราไม่ใช้รีโมทในการควบคุมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ จะมีรูปแบบในการทำงานเริ่มจากการหมุนแบบอิสระ > หมุนแบบวงกลมหรือก้นหอย > หมุนแบบพื้นที่กว้าง > หมุนแบบวงกลมหรือก้นหอย > หมุนแบบซิกแซก > หมุนแบบวงกลมหรือก้นหอย ตามลำดับดังกล่าว

อย่างที่เห็นหากเราไม่ได้เจาะจงว่าให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานแบบไหนก็จะทำงานอัตโนมัติ โดยมีรูปแบบตามด้านบน หากเราเห็นว่ายังทำตรงจุดนี้ไม่โอเค ก็สามารถควบคุมด้วยรีโมทได้เลย สามารถสั่งให้หุ่นยนต์เครื่องนี้ทำเฉพาะเจาะจงแค่แบบเดียวได้  โดยรูปแบบนั้นก็จะมีตามที่เห็นบนรีโมทเลย อาทิเช่น หมุนแบบอัตโนมัติ, หมุนเป็นแบบก้นหอย, หมุนแบบสุ่มทิศทาง, หมุนแบบพื้นที่กว้าง และหมุนแบบซิกแซก เป็นต้น ส่วนปุ่มที่อยู่ด้านใต้ตัวหนังสือ VACUUM นั้นเป็นปุ่ม ที่ใช้สำหรับบังคับให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดไปชาร์จแบตที่แท่นชาร์จ (Docking) นั้นเอง มาที่ปุ่ม VACUUM เป็นปุ่มสำหรับปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้กับเครื่องดูดฝุ่น เช่น กด 1 ครั้งเปลี่ยนเป็นโหมดการทำความสะอาดแบบถูพื้น กดอีกครั้งเป็นการเปลี่ยนไปเป็นโหมดกวาดพื้น (สังเกตได้ที่ไฟสีส้มบนเครื่องดูดฝุ่น) ปุ่มในวงกลมด้านบนเป็นการบังคับทิศทางหน้า, หลัง, ซ้ายและขวาตามปกติ วงกลมเล็กๆ ตรงกลางเป็นปุ่มหยุด (Stop)

รีโมทที่ใช้สำหรับควบคุมหุ่นยนต์ทำความสะอาด

มาดูวิดีโอการประกอบและใช้งานกันเลย

สรุปการใช้งาน

จากที่เราได้ลองใช้งานเจ้าเครื่องดูดฝุ่นรุ่นพี่ของ AUTOBOT mini Robot Vacuum สำหรับเครื่องนี้ชื่อเต็มๆ ของมันคือ AUTOBOT Smart Robot Vacuum ซึ่งการทำงานของเครื่องนี้ดีกว่ารุ่นน้องอย่าง mini อยู่พอสมควร เพราะอย่างแรกเลย เราสามารถควบคุมเครื่องได้อย่างอิสระ และมาพร้อมคำสั่งถูพื้นอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าเราอยู่ในห้อง, ในบ้านหรือในคอนโดที่มีโต๊ะ, เก้าอี้หรือตู้ต่างๆ เจ้าเครื่องนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี หากเจอผนังหรือกำแพงห้องก็ไม่ต้องห่วง เพราะตัวเครื่องมีระบบกั้นชนและบางครั้งเซ็นเซอร์ที่หน้าเครื่องก็จะตรวจพบสิ่งกีดขวางและทำการหลบก่อนที่เครื่องจะชนด้วยซ้ำ หากใครกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาเบาๆ ไม่ถึง 8,000 เจ้า Smart เครื่องนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยแหละ

ข้อดี

• ใช้งานง่าย
• สามารถใช้รีโมทบังคับทิศทางได้ตามใจเรา หากคิดว่าตรงไหนไม่สะอาดก็จัดไปอีกรอบ หรือสองรอบก็ตามใจเลย
• ราคาไม่แพง
• เสียงเบาพอๆ กับเครื่องรุ่นน้องอย่าง mini เลย
• ทำความสะอาดได้สะดวกมากขึ้น เพราะสามารถตั้งเวลาในการทำความสะอาดได้
• ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ทั้งที่เครื่องและที่รีโมท
• กล่องใส่ขยะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นน้องอย่าง AUTOBOT mini

ข้อสังเกต

• ไฟบอกสถานะการชาร์จ หากไม่สังเกตดีๆ อาจจะมองไม่ออก
• เมื่อแบตเตอร์รี่เหลือน้อยเกินไปตัวเครื่องจะสับสนกับเส้นทางกลับแท่นชาร์จ