รีวิว Xperia XZ สมาร์ทโฟนกล้องเทพ โฟกัสเร็วกว่านรก พร้อมระบบกันสั่น 5 แกน รุ่นแรกในโลก

Sony ประเทศไทยในไตรมาสนี้ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนออกมาหลายรุ่นทีเดียว ซึ่งเราก็ได้รีวิวไปแล้วทั้ง Xperia X และ Xperia X Performance และมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Xperia XZ แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดเช่นกัน

Xperia XZ เรือธงรุ่นล่าสุดจากค่าย Sony ตั้งราคาไว้ต่ำกว่าตอน Xperia X Performance เปิดตัวเสียอีก ทั้งๆ ที่สเปคดีกว่า ไม่รู้ว่าเป็นผลมาจากเสียงบ่นจากสาวกที่ลงความเห็นกันว่าแพงเกินไปรึเปล่า Xperia XZ นั้น จะบอกว่าเป็นการนำรุ่น X Performance มาปรับปรุงด้านกล้องให้เทพขึ้นและปรับราคาลงก็ว่าได้ จะน่าสนใจขนาดไหนมาชมไปพร้อมกันครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• อะแดปเตอร์ 5V, 1.5A (7.5-watt) 
• สายชาร์จ USB-C
• คู่มือการใช้งาน

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Xperia XZ

จะเห็นได้ว่า ฮาร์ดแวร์ของ Xperia XZ อยู่ในระดับเรือธง วัสดุตัวเครื่องค่อนข้างหรูหราผสมผสานกระจกด้านหน้าเข้ากับฝาหลังโลหะ ALKALEIDO ได้อย่างลงตัว, กันน้ำได้ที่ระดับ IP68, มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์, ระบบเสียงระดับ Hi-Res และกล้องสุดเทพ

ซีพียู Snapdragon 820 (MSM8996) แบบปรับแต่ง (Custom) Kryo processors (2x 2.15GHz and 2x 1.6GHz), การ์ดจอ Adreno 530 ความเร็ว 624MHz, แรม 3GB แอบน้อยกว่าคู่แข่งเล็กน้อยที่เริ่มขยับไป 4-6GB กันแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเหลือเฟือต่อการใช้งานในปัจจุบัน, หน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080p (424ppi) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการแสดงผล TRILUMINOS และ X-Reality for mobile

สัมผัสแรกกับ Xperia XZ

Xperia XZ ยังคงออกแบบมาในสไตล์ Iconic ของ Sony อย่างชัดเจน ดีไซน์ไม่แตกต่างจากรุ่น X Performance มากนัก มาในทรงสี่เหลี่ยมเรียบๆ มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ Mineral Black, สีเงิน Platinum และสีใหม่ล่าสุด สีน้ำเงิน Forest Blue 

ตัวเครื่องทำจากวัสดุหลัก 3 อย่าง รวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งทาง Sony ตั้งชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า "Loop Design" ด้านหน้าเป็นกระจก Gorilla Glass, กรอบทำจาก Polycarbonate และด้านหลังทำจาก ALKALEIDO ALLOY งานประกอบดีมากครับ แน่นหนา ทุกเหลี่ยมมุมดูประณีตมาก

ALKALEIDO ALLOY  คือ  เครื่องหมายการค้าของ  Kobe Steel  เป็นโลหะชนิดพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ในอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน จุดเด่นอยู่ที่ความแวววาวของเนื้อโลหะที่สูงเป็นพิเศษ และเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง

ตัวเครื่อง Xperia XZ มีขนาด 146.00 x 72.00 x 8.10 มม. บางกว่า Xperia X Performance เล็กน้อย (143.70 x 70.40 x 8.70 มม.) น้ำหนักก็มีความเบากว่าเล็กน้อยด้วยเช่นกัน แต่บอกตามตรงว่าแยกไม่ออกเลยล่ะ 161 กรัม กับ 164 กรัม มันต่างกันแค่ 3 กรัม เท่านั้น 

ตำแหน่งของการจัดวางปุ่มต่างๆ ไม่แตกต่างจาก X Performance มีปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายรูปโดยเฉพาะ และเอาปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงวางไว้ใกล้ๆ ปุ่มชัตเตอร์ ใช้สำหรับกดซูมภาพขณะใช้งานโหมดกล้องได้

ข้อดีของการจัดวางแบบนี้ คือ ช่วยให้การถ่ายรูปสะดวกขึ้นมาก แต่ว่าในการใช้งานปกติ เวลาจะเพิ่ม/ลด เสียงเพลง จะกดยากพอสมควร ถือว่าได้อย่างเสียอย่าง

ถาดใส่ซิมสามารถถอดได้โดยไม่ต้องใช้เข็มในการจิ้ม เราชอบจุดนี้มาก คนที่เดินทางต่างประเทศบ่อยๆ น่าจะเข้าใจความน่าเบื่อของปัญหานี้ดี

แบตเตอรี่ของ Xperia XZ ไม่สามารถถอดฝาหลังออกมาเพื่อเปลี่ยนได้ ความจุ 2,900 mAh พร้อมเทคโนโลยีถนอมแบตเตอรี่ Qnovo ชาร์จผ่านพอร์ท USB-C ตามสมัยนิยม

Qnovo Adaptive Charging เข้ามาใน Xperia X ด้วย อันนี้เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ช่วยปรับกระแสไฟฟ้าในการชาร์จให้สม่ำเสมอ เพื่อให้แบตเตอรี่ของมีอายุการใช้งานสูงสุด ยาวนานกว่าเดิมถึง 2 เท่า

กล้อง Triple Image Sensing technology ของ Xperia XZ

กล้องหลังของ Xperia XZ มีความละเอียด 23MP f/2.0 ใช้เซ็นเซอร์  Sony Exmor RS รุ่น IMX300 แบบเดียวกับที่อยู่บน Xperia Z5 และ Xperia X Performance แต่อย่าเพิ่งคิดว่าคุณภาพของกล้องจะเหมือนกันนะครับ

อันที่จริงเซ็นเซอร์  IMX300 นั้นมีความละเอียด  24.8MP นะครับ  แต่เวลาเราถ่ายจะมีสัดส่วนภาพ คือ 16:9 และ 4:3 ซึ่งจะมีการครอปภาพบนเซ็นเซอร์  ใช้เพียง 22.8MP หรือ 20.1MP เท่านั้น ทำให้ Sony ตัดสินใจระบุความละเอียดของกล้องไว้แค่ 23MP เท่านั้น

Sony ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Triple Image Sensing เป็นครั้งแรกบน Xperia XZ ประกอบไปด้วย

1. Image sensing (CMOS sensor พร้อม PDAF) Predictive Hybrid Autofocus เป็นระบบคาดเดาการเคลื่อนที่ของวัตถุ เพื่อจับภาพเป้าหมายอย่างแม่นยำ ไม่ให้หลุดโฟกัส มันจะแทรคการเคลื่อนที่ของวัตถุได้อย่างแม่นยำเลยล่ะ ซึ่งทาง Sony บอกว่าใช้เวลาเพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น ในการจับโฟกัส 
   
   
   (ภาพตัวอย่างจาก  Xperia X)
2. Distance sensing (Laser AF sensor) ที่จะวิเคราะห์ระยะของวัตถุเพื่อการจับโฟกัสอย่างคมชัด แม่นยำ แม้ในที่แสงน้อย
3. RGBC-IR (RedGreenBlueClear-InfraRed)  ช่วยตรวจจับวิเคราะห์สีเพื่อปรับสมดุลแสงขาว (White Balance) ตามสภาพแสงในขณะถ่ายภาพ เพื่อให้ได้สีสันที่สวยสมจริงที่สุด

อีกอย่างที่ต้องชมเลย ซอฟต์แวร์กล้องของ Xperia XZ สามารถถ่ายโหมดแมนนวลได้อย่างแท้จริงแล้ว (ก่อนหน้านี้ได้ก็จริง แต่ปรับอะไรแทบไม่ได้) เราสามารถปรับได้ทั้งสปีดชัตเตอร์, WB และ Focus

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Xperia XZ

โหมดออโต้กล้องหลัง

โหมดออโต้กล้องหน้า

สามารถถ่ายวิดีโอแบบสโลว์ๆ เพิ่มความเท่ได้ด้วยนะ ถ่ายได้ 720p ที่ 120fps น้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสมัยนี้ ที่ขยับไป 240fps กันแล้ว

นอกเหนือจากเซนเซอร์ทั้ง 3 ตัวนี้แล้ว Xperia XZ สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ระดับ 4K และยังมีระบบกันสั่นแบบ 5 แกนภายในตัวอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ลดอาการสั่นของมือเวลาถ่ายภาพและวิดีโอได้ครับ จากคลิปด้านบนจะเห็นได้ชัดว่า แม้เราจะเดินไปถ่ายไปด้วย แต่ภาพก็มีอาการสั่นน้อยกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

ระบบ Tracking Focus บนภาพนิ่งเรารู้สึกว่าไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ แต่บนวิดีโอนี่แม่นยำมากครับ ลองดูได้จากคลิปวิดีโอนี้ด้านบนเลย ผมตั้งให้ติดตามลูกเทนนิส

ระบบเสียง ของ Xperia XZ

อีกหนึ่งทีเด็ดที่เป็นจุดขายของ Sony คือ เครื่องเล่นเพลง Walkman นั่นเอง ซึ่งตัวแอปฯ เล่นเพลง ก็จัดเต็มรองรับการเล่นไฟล์ Flac และไฟล์เพลงระดับ Hi-res ด้วย เวลาเล่นเพลงระดับ Hi-res จะมีสัญลักษณ์ HR แสดงผลที่ปกอัลบัมด้วยครับ

คุณภาพเสียงมีระบบ DSEE HX ที่จะช่วยชดเชยสัญญาณให้ไฟล์เพลงธรรมดา มีคุณภาพที่สูงขึ้นใกล้เคียงกับการฟังไฟล์ระดับ Hi-res แต่ถ้าหากชอบฟังไฟล์เดิมแบบดิบๆ ก็ยังมี EQ ให้เราปรับเองแบบแมนนวลได้ด้วยล่ะ

ผล Benchmark ของ Xperia XZ

คะแนนความแรงจากการทดสอบด้วย ANTUTU benchmark

คะแนนความแรงจากการทดสอบด้วย 3DMark

User Interface ของ Xperia XZ

Xperia XZ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ตั้งแต่แกะกล่อง ส่วนใครที่อยากใช้ Android 7.0 Nougat อดใจรอไปก่อน ทาง Sony ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา ในอนาคตน่าจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน

หน้าตาของ Xperia UI ยังคงแนวทางออกแบบไว้เหมือนเดิม หน้าตาโดยรวมใกล้เคียงกับ Android เดิมๆ ที่ Google พัฒนาไว้ แต่มีแอปฯเฉพาะค่ายติดตัวมาบ้าง อย่างเช่น Walkman หรือ PlayStation เป็นต้น

หน้า Homescreen ยังคงเหมือนเดิมเช่นเดียวกับรุ่น Xperia X และ Xperia X Performance ที่เราเคยรีวิวมาก่อนหน้านี้

หน้า App drawer มีลูกเล่นเล็กๆ ที่ใช้ได้ดีอย่าง เรียแอปฯ ตามความบ่อยครั้งที่ใช้งาน, ตามชื่อ, ตามระยะเวลาที่ติดตั้ง มีโหมดจัดการที่ช่วยให้เราสามารถลบทีละหลายๆ แอปฯ พร้อมกันได้ โดยไม่ต้องลากใส่ถังขยะทีละแอปฯ

หน้าตาแจ้งเตือนเรียบๆ สามารถเรียงทางลัดได้ตามใจชอบ 

ระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ทำงานได้ไวและแม่นยำมาก แตะปุ๊ปเปิดเข้า Homescreen ทันที การเพิ่มลายนิ้วมือก็ทำได้ง่ายดีครับ 

รองรับเทคโนโลยี Smart Lock ของ Google ที่ทำให้เราไม่ต้องใส่รหัสผ่านในการเข้าเครื่อง หากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด เช่น เชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธส่วนตัวอยู่, อยู่ในตำแหน่งที่เลือกไว้ เป็นต้น

มีธีมให้ดาวน์โหลดมาติดตั้ง โดยจะเปลี่ยนทั้งการแสดงผลและเสียง มีธีมที่สามารถ Interactive กับหน้าจอเวลาที่เราแตะหน้าจอด้วยนะ ธีมมีทั้งแบบฟรีและแบบที่ต้องเสียเงินซื้อ

มีระบบ Smart Cleaner ที่ช่วยลบไฟล์แคชในแอปฯ ที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน เพื่อให้เครื่องโล่งอยู่เสมอ สามารถปิดการใช้งานได้ หากไม่อยากให้มันลบแคชอัตโนมัติ

รูปแบบการสำรองข้อมูลบนคลาวด์คล้ายๆ กับฝั่ง iOS เราสามารถตั้งได้ว่าให้ทำการอัพโหลดไฟล์ Backup เมื่อกำลังเชื่อมต่อไวไฟ และในขณะชาร์จแบตเตอรี่อยู่ได้

Sony มีเพิ่ม Xperia Companion ระบบจัดการไฟล์ในเครื่อง และสำรองข้อมูลเข้ามาใน Xperia XZ ด้วย ทำงานอัตโนมัติเมื่อเราทำการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ใช้งานสะดวกดีครับ สามารถสำรองข้อมูลเอาไว้บนคลาวด์ผ่านบัญชี Sony Online ด้วยล่ะ หรือจะเซฟลงในฮาร์ดดิสก์ก็ได้

ความเห็นจากไทยแวร์

เราค่อนข้างพอใจกับการใช้งาน Xperia XZ มากทีเดียว ตัวเครื่องสวยมาก งานประกอบดีงาม รอมทำมาค่อนข้างดี ลื่นมากทีเดียว กล้องมีระบบโฟกัสที่ไวมาก ยิ่งแสงเยอะๆ นี่จับไม่มีหลุดเลยล่ะ ด้านราคาคราวนี้ทาง Sony ก็ตั้งราคามาได้น่าสนใจทีเดียวไม่แพงจนเกินไปเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้