อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ต้องมีในทุกห้องประชุมหรือในทุกสำนักงาน คือเครื่องโปรเจคเตอร์ระดับคุณภาพสำหรับการเปิดฉายงานนำเสนอออกหน้าจอขนาดใหญ่ จริงอยู่ที่สมัยนี้มีจอภาพแบบ LCD ขนาดใหญ่ให้เลือกใช้ แต่ต้นทุนของจอ LCD ก็ยังสูงกว่าโปรเจคเตอร์อยู่ค่อนข้างมาก แถมการขนย้ายไปใช้งานยังห้องต่างๆ ก็ยังไม่สะดวกเท่าเครื่องโปรเจคเตอร์ โดยจอ LCD ขนาด 60 นิ้วในตอนนี้มีราคาขายอยู่ที่เกิน 30,000 บาท ในขณะที่โปรเจคเตอร์ที่เราจะทำการรีวิวในครั้งนี้ อย่าง Casio XJ-V2 นั้นให้ขนาดการฉายตั้งแต่ 60 นิ้วจนถึงเกิน 100 นิ้วขึ้นไป ในราคาขายเพียง 20,000 บาทต้นๆ เท่านั้น ให้ความสว่างสูงถึงระดับ 3,000 Lumens ให้การฉายภาพที่สวยงาม และให้ผลลัพธ์การฉายภาพขึ้นกำแพงห้องสีขาวได้เป็นอย่างดีเลย ไม่จำเป็นต้องใช้จอฉายโปรเจคเตอร์
Casio เป็นแบรนด์ที่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์และผลิตเครื่องโปรเจคเตอร์มาอย่างยาวนาน โดยมีซีรี่ย์เครื่องโปรเจคเตอร์ที่หลากหลายสำหรับความต้องการแต่ละรูปแบบ อาทิ โปรเจคเตอร์ในซีรี่ย์ Advanced โปรเจคเตอร์ประสิทธิภาพเยี่ยมสำหรับการใช้งานทั่วไป และมีต้นทุนการเป็นเจ้าของ หรือ TCO (Total Cost of Ownership) ที่ต่ำ คุ้มค่าการลงทุน, โปรเจคเตอร์ในซีรี่ย์ Ultra Short Throw ที่ให้การฉายภาพขนาดใหญ่สำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด, โปรเจคเตอร์ในซีรี่ย์ Green slim ขนาดกะทัดรัดแบนบางขนย้ายสะดวก ประสิทธิภาพการฉายเยี่ยม, โปรเจคเตอร์ในซีรี่ย์ Pro ความสว่าง 4,000 Lumens เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องประชุมขนาดกลาง, โปรเจคเตอร์ซีรี่ย์ 4K รองรับงานทางด้านความบันเทิง และโปรเจคเตอร์ในซีรี่ย์ Core ที่เราได้รับมาทดสอบในครั้งนี้ โดยที่ Casio XJ-V2 เป็นโปรเจคเตอร์ที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่เรียบง่าย ใช้งานไม่ยาก และมี TCO ต่ำ
สามารถคลิกเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เครื่องโปรเจคเตอร์ Casio XJ-V2 ได้รับการผลิตจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น โดยที่ทางด้านใต้ตัวเครื่องมีการแปะสติกเกอร์เอาไว้ตัวโตๆ ว่า Made in japan ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานการผลิต และอายุการใช้งานที่ยาวนาน บอกเลยว่าเป็นโปรเจคเตอร์ที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย จะเป็นอย่างไรติดตามอ่านกันได้ในรีวิวเลยครับ
โปรเจคเตอร์ของ Casio มีความพิเศษกว่าแบรนด์อื่นตรงที่ ใช้เทคโนโลยีหลอดภาพแบบ Lamp Free ที่อาศัยแหล่งกำเนิดแสงแบบ Laser และ LED Hybrid ให้แสงสว่างสูงโดยปราศจากปรอท นอกจากจะทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว หลอดฉายแบบ Lamp Free มีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 ชั่วโมง เปรียบเทียบกับหลอดฉายภาพแบบเก่าที่มีอายุการใช้งานเพียง 2,000 - 3,000 ชั่วโมงเท่านั้น ลดต้นทุนการเปลี่ยนหลอดฉายไปได้มาก และเทคโนโลยี Lamp Free ยังประหยัดพลังงานไฟฟ้ากว่าหลอดฉายแบบดั้งเดิมอีกด้วย
นอกจากจะลดต้นทุนการเป็นเจ้าของด้วยเทคโนโลยี Lamp Free แล้ว Casio XJ-V2 ยังใช้ดีไซน์การออกแบบ แบบไร้ไส้กรองอากาศฟิลเตอร์ ทำให้ลดต้นทุนการเปลี่ยนไส้กรองอากาศได้อีกทาง รวมถึงยังช่วยประหยัดเวลา และแรงงานในการเปลี่ยนหลอด เพราะไม่ต้องเปลี่ยนหลอดกันบ่อยๆ ทำให้เป็นโปรเจคเตอร์ที่เหมาะ สำหรับสถานศึกษา และองค์กรธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มค่า และต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำ
โครงสร้างภายในตัวเครื่องของ Casio XJ-V2 ได้รับการออกแบบให้มีการแยกเป็น 3 ส่วน โดยในส่วนของแหล่งกำเนิดแสงหลักหรือ Light source block ได้รับการปกป้องจากฝุ่นเป็นอย่างดี ทำให้คุณภาพการฉายไม่ Drop ลง แม้จะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นเยอะ
แต่อย่างไรก็ดี ในคู่มือการใช้งานของ Casio XJ-V2 มีการแนะนำว่า ควรใช้เครื่องดูดฝุ่น ทำการดูดฝุ่นออกจากช่องระบายอากาศทั้ง 4 จุดบนตัวเครื่องเดือนละครั้ง รายละเอียดตามภาพด้านบนครับ
ด้วยเทคโนโลยีหลอดฉายแบบ Lamp Free ที่อาศัยแหล่งกำเนิดแสงแบบ Laser และ LED Hybrid ทำให้ความสว่างของภาพฉาย เพิ่มขึ้นเต็มระดับ 100% อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 5 วินาทีหลังจากที่เปิดเครื่อง เริ่มต้นการฉายงานนำเสนอได้อย่างรวดเร็วไม่เสียเวลาเหมือนกับใช้โปรเจคเตอร์ที่ใช้หลอดฉายภาพแบบเก่า ที่ความสว่างจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และเทคโนโลยีหลอดฉายแบบ Lamp Free ยังทำให้เริ่มต้นการฉายรอบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เพิ่งปิดเครื่องไป (Quick restart) ซึ่งจากการลองใช้งานของเรา ก็พบว่าความสว่างการฉายภาพของ Casio XJ-V2 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจริงหลังจากที่กดปุ่ม Power เปิดเครื่อง พร้อมทำการฉายแบบไม่ต้องรอนาน
ดีไซน์ตัวเครื่องที่โค้งมนสวยงาม และจุดที่ชอบที่สุดคือ การออกแบบชุดเลนส์ให้เว้าเข้าไปในตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้นิ้วมือเราจะไปแตะสัมผัสชิ้นเลนส์ ในขณะที่หยิบจับหรือขนย้ายตัวเครื่อง และดีไซน์แบบนี้ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องมีฝาปิดเลนส์ ทำให้เริ่มต้นการฉายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องถอดฝาปิดเลนส์ และไม่ต้องพะวงว่าฝาปิดเลนส์จะหาย
ชุดเลนส์วางตำแหน่งเว้าเข้าไปในตัวเครื่อง ช่วยป้องกันไม่ให้นิ้วไปแตะสัมผัสเลนส์ฉายโดยไม่ตั้งใจขณะขนย้าย
เป็นโปรเจคเตอร์ที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้ไม่ต้องงงกับปุ่มกดและฟังก์ชั่นที่มากมายเกินความจำเป็น โดยที่บนตัวเครื่องมีปุ่มกดเพียง 2 ปุ่มเท่านั้น คือปุ่ม Power เปิด/ปิดเครื่อง และปุ่ม INPUT ใช้เลือกแหล่งสัญญาณวิดีโอ INPUT ที่ต้องการฉายระหว่าง HDMI หรือ VGA
CASIO XJ-V2 เป็นโปรเจคเตอร์ที่สามารถเซ็ตอัพเพื่อเริ่มต้นการฉายได้อย่างรวดเร็ว โดยที่การปรับซูมเพื่อกำหนดขนาดจอฉาย และการปรับโฟกัสให้ได้ภาพฉายที่คมชัด ทำผ่านชุดวงแหวนหมุนที่ตัวเครื่อง สามารถปรับให้ได้ภาพฉายที่คมชัดได้อย่างง่ายดาย
และในส่วนของการปรับค่า Keystone เพื่อแก้อาการภาพสี่เหลี่ยมคางหมู สามารถปรับได้ผ่านทางรีโมทคอนโทรลที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด และตัวรีโมทใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไซส์ AAA จำนวน 2 ก้อน
และ CASIO XJ-V2 รองรับทั้งการใช้งานแบบตั้งวางตัวเครื่องบนโต๊ะ และการติดตั้งแบบห้อยลงมาจากเพดาน โดยขนาดความใหญ่ของจอฉายจะสัมพันธ์กับระยะการถอยวางตัวเครื่อง คือถ้ายิ่งตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์ห่างจากจอ ก็จะได้ขนาดการฉายที่ใหญ่ขึ้น ถ้าตั้งเครื่องห่างจากจอในระยะประมาณ 2 เมตร ก็จะได้ขนาดการฉาย 60 นิ้ว และถ้าถอยเครื่องห่างออกไปประมาณ 2 เมตรครึ่งก็จะได้ขนาดการฉาย 80 นิ้วครับ
มาถึงเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพ ความสวยงามในการฉายของโปรเจคเตอร์ CASIO XJ-V2 กันนะครับ เราตั้งเครื่ิองโปรเจคเตอร์ห่างจากจอที่ระยะประมาณ 2 เมตร ได้ขนาดการฉายที่ 60 นิ้ว และใช้แหล่งสัญญาณวิดีโอจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์ผ่านสาย HDMI และโปรเจคเตอร์เครื่องนี้ ให้การฉายภาพที่สวยงามเลยครับ ถึงแม้จะเป็นการฉายเข้ากับผนังห้องสีขาว ที่ไม่ใช่จอฉายโปรเจคเตอร์โดยเฉพาะ ภาพฉายจะสวยงามขนาดไหน เรามาดูกัน
การฉายงานนำเสนอแบบไม่ปิดไฟในห้อง ให้สีสันอิ่มเข้มสวยงามน่าพอใจ
Casio XJ-V2 โปรเจคเตอร์ในระดับราคาเริ่มต้นที่จะมาเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ ของคุณที่ว่าการฉายหน้าสไลด์งานนำเสนอให้ได้สีสันสวยงามนั้นต้องหรี่ หรือปิดไฟในห้องฉาย โดยโปรเจคเตอร์ความสว่าง 3,000 Lumens เครื่องนี้ ให้การฉายหน้าสไลด์งานนำเสนอในสภาพแสงของห้องในสำนักงานได้อย่างสวยงาม ไม่จำเป็นต้องปิดไฟในห้อง สีสันของภาพกราฟฟิกประกอบสไลด์มีความอิ่มเข้มน่าพอใจเลย ไม่ออกอาการสีจืดจนไม่น่าดู ตัวอักษรคมชัดอ่านง่าย
การฉายงานนำเสนอแบบปิดไฟในห้องให้มืด ความอิ่มเข้มของสีสันเพิ่มขึ้น สวยงามดีมาก
และเมื่อปิดไฟในห้องฉาย สีสันของหน้างานนำเสนอ ก็มีความอิ่มเข้มเพิ่มขึ้น ให้การฉายที่สวยงามดีมากๆ ระดับความอิ่มของสีต้องบอกว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่เราได้เห็นบนจอ LCD monitor ของเครื่องคอมฯ เลย ตัวอักษรบนหน้างานนำเสนอก็คมชัด เป็นประสิทธิภาพการฉายที่ดีเลย สรุปคือการเปิดฉายหน้าสไลด์งานนำเสนอ ไม่จำเป็นต้องปิดไฟในห้องก็ได้การฉายที่สวยงาม และเมื่อหรี่ไฟในห้องฉายลง ความอิ่มเข้มสวยงามของสีสันก็จะเพิ่มขึ้นอีก
การฉายไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงแบบปิดไฟในห้องให้มืด ให้ภาพออกมาสวยงามมาก
เราลองเปิดฉายคลิปวิดีโอความละเอียดสูงที่ถ่ายทำมาอย่างประณีต ปรากฏว่า Casio XJ-V2 สามารถถ่ายทอดสีสันได้อย่างอิ่มเข้มสวยงาม มิติภาพดีใช้ได้ ให้อารมณ์ภาพที่สมจริง ใกล้เคียงกับการดูคลิปผ่านจอ LCD-TV เลย
ลองเปิดชมคลิปวิดีโอภาพยนตร์ ในลักษณะการฉายแบบโฮมเธียเตอร์กันบ้าง ผลลัพธ์ก็ออกมาดีเลย ในฉากหนังแอคขั่นที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ โปรเจคเตอร์เครื่องนี้สามารถถ่ายทอดความเคลื่อนไหวออกมาได้สมูทราบรื่นดี
และในฉากนิ่งๆ ของคลิปวิดีโอที่เน้นการโชว์รายละเอียดภาพ Casio XJ-V2 ก็ถ่ายทอดรายละเอียดได้คมชัดดี รองรับการใช้งานในลักษณะโฮมเธียเตอร์ได้อย่างน่าพอใจเลย
***ชมตัวอย่างภาพฉายคลิปวิดีโอ และโฮมเธียเตอร์ด้วย Casio XJ-V2 ได้แบบเต็มๆ ในคลิปวิดีโอรีวิว
การฉายไฟล์ภาพถ่ายแบบไม่ปิดไฟในห้อง
การฉายไฟล์ภาพถ่ายแบบปิดไฟในห้องให้มืด สีสันอิ่มเข้มสดใส ถ่ายทอดความสวยงามของภาพถ่ายออกมาได้ดี
มาต่อกันที่การเปิดดูไฟล์ภาพถ่ายความละเอียดสูง ซึ่งการฉายภาพในรูปแบบนี้ เป็นการดื่มด่ำกับความสวยงามของการแสดงผลอย่างสูงสุด ดังนั้นควรปิดไฟในห้องลงให้มืดมิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับคุณภาพการฉายที่แท้จริงของ Casio XJ-V2 จากการลองฉาย ก็ต้องบอกเลยว่าสวยงามมาก ให้สีสันอิ่มเข้มสดใส ความคมชัดทำได้ดี มิติภาพสมจริง
บทสรุปสำหรับการเปิดดูคลิปวิดีโอ เปิดดูโฮมเธียเตอร์ หรือเปิดดูภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัล ควรปิดหรือหรี่ไฟในห้องฉายลง เพื่อที่จะได้สัมผัสกับคุณภาพการฉายที่ดีที่สุดจากโปรเจคเตอร์เครื่องนี้
ในส่วนของการเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอ สามารถทำผ่าน 2 ช่องทาง คือช่องพอร์ต VGA IN และ HDMI IN รองรับการฉายภาพจากแหล่งกำเนิดสัญญาณที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องคอมฯ, โน้ตบุ๊ค, เครื่องเล่น DVD หรือเครื่องเล่น Blu-ray เป็นโปรเจคเตอร์ที่รองรับได้ดีทั้งงาน และความบันเทิิง และการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงทำผ่าน 2 ช่องทางคือ ช่องแจ็ค AUDIO IN (แจ็ค Stereo 3.5 มม.) สำหรับการนำสัญญาณเสียงจากแหล่งภายนอกเข้ามายังเครื่องโปรเจคเตอร์ และช่องแจ็ค AUDIO OUT (แจ็ค Stereo 3.5 มม.) สำหรับการเชื่อมต่อกับชุดลำโพง หรือชุดเครื่องเสียง
และด้วยความที่ในตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ไม่มีลำโพง ทำให้ในกรณีที่เราเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เข้ากับเครื่องคอมฯ ผ่านสาย HDMI แล้วต้องการเปิดฉายงานนำเสนอ หรือคลิปวิดีโอที่มีเสียงประกอบ ก็ต้องนำชุดลำโพง หรือชุดเครื่องเสียงมาเสียบเข้ากับช่องแจ๊ค AUDIO OUT ของเครื่องโปรเจคเตอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเสียงได้ครับ
สามารถคลิกเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
หรือจะใช้วิธีเลือกแหล่งการปล่อยสัญญาณเสียงจากเครื่องคอมฯ เป็นช่องแจ๊ค Speaker Out แล้วเสียบลำโพงผ่านเครื่องคอมฯ ตามปกติก็ได้ครับ วิธีการทำก็ตามภาพด้านบนเลย
โปรเจคเตอร์ที่เน้นการใช้งานสะดวกง่ายดาย ในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ ความสว่างสูงถึง 3,000 Lumens รองรับการฉายภาพเข้ากำแพงห้องสีขาวได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้จอฉายโปรเจคเตอร์ ฉายภาพสวย รองรับได้ดีทั้งการฉายสไลด์งานนำเสนอ และการใช้งานในแบบโฮมเธียเตอร์ มาพร้อมเทคโนโลยีหลอดฉายแบบ Lamp Free อายุการใช้งาน 20,000 ชั่วโมง บวกกับการดีไซน์ตัวเครื่องแบบไร้ไส้กรองอากาศฟิลเตอร์ ที่ช่วยลดต้นทุนในการดูแลรักษาโปรเจคเตอร์เครื่องนี้ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่าที่จะเลือกใช้งาน และตัวเครื่องผลิตในญี่ปุ่น Made in japan มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานการผลิต และอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |