วิดีโอประกอบจาก Youtube
นาฬิการสำหรับนักวิ่งพร้อม GPS ในต้ว Garmin Forerunner 245 Music ที่พึ่งเปิดขายเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาเป็นรุ่นอัพเกรดต่อจากรุ่นยอดนิยมอย่าง Forerunner 235 ที่เปิดตัวตอนปลายปี 2558 ทิ้งระยะห่างกันเกือบ 4 ปีเลยทีเดียว โดย Forerunner 245 จะมีออกมาสองรุ่นย่อยคือ 245 ธรรมดาและ 245 Music โดยมีรูปร่างหน้าตาและคุณสมบัติทุกอย่างเกือบเหมือนกันทั้งหมดยกเว้น 245 Music นั้นจะสามารถเก็บเพลงไว้ในตัวหรือดาวน์โหลดเพลงจาก Spotify มาไว้ในนาฬิกาได้เลย และยังสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ โดยที่ 245 ธรรมดานั้นจะไม่มีคุณสมบัติสองอย่างนี้
ข้อดี | จุดสังเกตุ |
|
|
วัสดุเลนส์ | กระจก Corning® Gorilla® Glass 3 |
วัสดุตัวเรือน | วัสดุผสมโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใย |
วัสดุสาย | ซิลิโคน ขนาด 20 มม. พร้อม Quick Release |
ขนาดเครื่อง | 42.3 x 42.3 x 12.2 (มม.) |
ขนาดหน้าจอ | เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2” (30.4 มม.) |
ความละเอียดหน้าจอ | 240 x 240 พิกเซล |
ประเภทหน้าจอ | จอแสดงผลแบบ transflective memory-in-pixel (MIP) ที่แสดงผลได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแดดจ้า |
น้ำหนัก | 38.5 ก. |
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ | โหมดสมาร์ทวอทช์: นานถึง 7 วัน โหมด GPS: นานถึง 22 ชั่วโมง |
ระดับการกันน้ำ | สำหรับว่ายน้ำ 5 ATM |
หน่วยความจำ/ประวัติ | 200 ชั่วโมงของข้อมูลกิจกรรม |
Forerunner 245 มีขนาดหน้าจอ 30.04 มม. เล็กกว่า 235 ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 31.1 มม. ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 42.30 มม. ความหนาของตัวเรือน 12.2 มม. เล็กกว่า 235 ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มม. แต่ความหนานั้นหนากว่า 235 อยู่ 0.55 มม.เท่านั้น ทำให้ขนาดโดยรวมของ 245 นั้นดูทะมัดทะแมงมากขึ้นกว่า 235 ทำให้คนทีมีข้อมือเล็กก็สามารถสวมใส่ได้โดยไม่รู้สึกว่าใหญ่จนเกินไป ส่วนน้ำหนักของ 245 นั้นมีน้ำหนัก 38.5 กรัม เบากว่า 235 อยู่ประมาณ 3.5 กรัม ทำให้สวมใส่ได้สบายขึ้นเมื่อต้องการสวมเพื่อติดตามกิจกรรมตลอด 24 ชม. (activity tracking) แต่หากจะเน้นการติดตามกิจกรรมเท่านั้นแนะนำให้มองหานาฬิกาที่มีน้ำหนักไม่เกิน 18 กรัมอย่าง Garmin Vivosmart 4 ดีกว่าครับ เพราะจะสวมใส่ได้ทั้งวันโดยที่เราอาจจะลืมไปเลยว่าใส่นาฬิกาอยู่
ขนาดโดยรวมของ Forerunner 245/245 Music
ภาพเปรียบเทียบเมื่อสวมใส่กับคนข้อมือใหญ่ (เส้นรอบข้อมือประมาณ 180 มม.) และข้อมือเล็ก (เส้นรอบข้อมือประมาณ 140 มม.)
โดยมีความละเอียดหน้าจอ 240*240 pixel มากกว่า 235 ที่มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 235*180 pixel แต่อาจจะดูน้อยกว่าคู่แข่งแบรด์อื่นๆที่ส่วนใหญ่มีความละเอียดหน้าจอ 360*360 pixel แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานสามารถอ่านข้อมูลที่เป็นตัวอักษรเล็กๆได้ชัดเจน และยังมีเทคโนโลยี transflective memory-in-pixel (MIP) ซึ่งช่วยให้สามารถดูข้อมูลจากนาฬิกาได้ชัดเจนแม้อยู่ในที่แสงแดดจ้าเรียกว่าแสงภายนอกยิ่งสว่างเท่าไหร่จะยิ่งให้ภาพที่คมชัดและสีสดมากขึ้น แต่เมื่ออยู่ในที่มืดหรือในที่แสงน้อยจะต้องอาศัยแสง back light ของนาฬิกาเพื่อให้มองเห็นหน้าจอและภาพที่ได้จะมีสีที่ดรอปลงไม่สดเหมือนตอนอยู่ในที่มีแสงสว่างมากครับ จากการใช้งานจริงก็สามารถทำได้ดีในเรื่องการแสดงผลแต่สีสันอาจจะไม่สดใสเหมือนแบรนด์อื่นๆ
ภาพเปรียบเทียบหน้าจอที่ไม่ได้เปิด Backlight ในสภาพแสงภายนอกเยอะและน้อย
ข้อดีของหน้าจอแบบ MIP อีกอย่างคือใช้พลังงานน้อยทำให้ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งยาวนานกว่าหน้าจอสีแบบอื่นๆ โดยมีระยะเวลาการใช้งานนานถึง 7 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ นานถึง 22 ชม.ในโหมด GPS แต่ถ้าใช้งาน GPS พร้อมฟังเพลงไปด้วยระยะเวลาการใช้จะสั้นลงเหลือ 6 ชม. (หมายเหตุ: ระยะเวลาการใช้งานจริงอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามการใช้งานและการตั้งค่านาฬิกาของแต่ละบุคคลนะครับ) ส่วนระยะเวลาการชาร์จจาก 0 - 100% จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 10 นาที
ช่องเสียบสายชารจ์จะอยู่ด้านหลังโดยสายชาร์จจะเป็นแบบ 4 pin แบบเฉพาะของ Garmin เสียบชาร์จกับที่ชาร์จ USB ได้เลย และยังสามารถกดใช้งานนาฬิกาได้ขณะชาร์จ
ตัวเรือนทำมาจากวัสดุผสมโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใยโดยตัวเรือนจะมีสีดำเท่านั้น มาตราฐานการกันน้ำ 5 ATM เหมาะสำหรับใส่ว่ายน้ำไม่ควรเอาไปใส่ดำน้ำนะครับ วัสดุของสายทำมาจากซิลิโคน ซึ่งสายเป็นแบบ Quick Release สามารถทำให้ถอดเปลี่ยนสายได้สะดวกสบาย และยังสามารถใช้ร่วมกับสาย 20 มม. ที่เป็นมาตราฐานของสายนาฬิกาอื่นได้อีกด้วย และมีสีมาให้เลือกถึง 5 สี ขนาดความยาวของสายเหมาะสำหรับข้อมือที่มีเส้นรอบวงตั้งแต่ 127 มิลลิเมตร ถึง 204 มิลลิเมตร เพียงพอสำหรับข้อมือเกือบทุกขนาดครับ
สายมีให้เลือก 5 สี เขียว(Aqua) เหลือง (Yellow) ดำ (Black) แดง (Lava Red) เทา (Slate)
ตัวเรือนทำจากโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใย สายซิลิโคน 20 มม. แบบ Quick Release สามารถถอดเปลี่ยนสายกับสายนาฬิกาอื่นได้อย่างง่ายดาย
Forerunner 245 มีปุ่มควบคุมการทำงาน 5 ปุ่มและไม่มีจอ Touch Screen เหมือนซีรีย์ Vivoactive นะครับ โดยการใช้งานผ่านปุ่มกดต่างๆ นั้นใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากกว่าการควบคุมผ่าน Touch Screen เมื่อต้องการควบคุมนาฬิกาขณะออกกำลังกาย
ด้านหลังของตัวนาฬิกาจะเป็นเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อใช้ในการตรวจวัดค่าต่างๆ เช่นอัตราการเต้นของหัวใจ HRM (Heart Rate Monitoring) เซนเซอร์ระดับออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) และช่องเสียบสายชาร์จ โดยหากเราสวมใส่นาฬิกาเอาไว้เซนเซอร์ต่างๆ จะทำงานโดยอัตโนมัติ แสงสีเขียวจะเป็นแสงจากเซนเซอร์ตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ (HRM) ส่วนแสงสีแดงนั้นเป็นแสงจากเซนเซอร์ตัววัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) และเมื่อเราไม่ได้สวมใส่นาฬิกาเซนเซอร์เหล่านี้ก็จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติเช่นกัน
เซนเซอร์ด้านหลังทำงานอัตโนมัติเมื่อเราสวมใส่ ไฟสีเขียวคือเซนเซอร์ HRM ไฟสีแดงคือเซนซอร์ SpO2
ถึงแม้ชื่อ Forerunner 245 จะฟังดูเหมือนนาฬิกาสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ แต่จริงๆแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีก โดยเราจะสามารถแบ่งการทำงานของนาฬิกาเป็นสองโหมดนะครับ โหมดแรกคือสมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) และโหมดที่สองคือโหมดสำหรับกีฬาหรือกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ (Sport) โดยทั้งสองโหมดสามารถใช้งานคู่กับแอป Garmin Connect เพื่อดูข้อมูลกิจกรรม การออกกำลังกาย หรือปรับแต่งค่าต่างๆ ส่วนการ download หน้าปัดนาฬิกา (watch face) และแอปเสริมต่างๆ มาลงใน Forerunner 245 ของเรา จะใช้แอป Connnect IQ
แอป Garmin Connect และ Connect IQ รองรับทั้ง Andriod และ iOS
โดยเราควรเชื่อมต่อนาฬิกาของเราเข้ากับแอป Garmin Connect ผ่านทาง Bluetooth ตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดใช้งาน ขั้นตอนการเชื่อมต่อก็ไม่มีอะไรยุ่งยากมากครับเพราะแอปจะค้นหานาฬิกา Forerunner 245 ของเราให้เองเมื่อกดเชื่อมต่อก็จะให้ใส่รหัสเชื่อมต่อที่โชว์อยู่ที่นาฬิกา ทำครั้งแรกครั้งเดียวหลังจากนั้นเมื่อนาฬิกาอยู่ใกล้กับโทรศัพท์มือถือของเราก็จะเชื่อมต่อกันเองโดยอัตโนมัติแต่ต้องเปิด Bluetooth ที่โทรศัพท์ของเราไว้ตลอดเวลาครับ
แอป Garmin Connect ที่ใช้เชื่อมต่อกับนาฬิกาเพื่อดูข้อมูล และใช้ตั้งค่าต่าง
แอป Connect IQ ใช้เพื่อลงแอปเสริมในนาฬิกาและปรับเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาของเราเอง
โหมดสมาร์ทวอทช์ของ Forerunner 245 ก็คือโหมดปกติที่เราใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวันโดยที่จะทำงานอัตโนมัติตามที่เราตั้งค่าไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่น การลงแอปเสริมต่างๆ เช่น ปฏิทิน เครื่องคิดเลข แผนที่การนำทาง การออกกำลังกายอื่นๆ และยังสามารถแสดง notification จากโทรศัพท์และปรับแต่งได้ว่าจะให้แสดงเตือนเฉพาะแอปไหนผ่านแอป Garmin Connect และยังแสดงข้อความการแจ้งเดือนให้เราอ่านได้ผ่านทางโทรศัพท์เลย
สายเรียกเข้าไม่ว่าจะเป็น Line หรือสายโทรศัพท์แจ้งเตือนได้ กรณีโทรศัพท์สามารถกดรับสายได้แต่ต้องสนทนาผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น กรณีปฏิเสธการรับสายเราสามารถตั้งค่าข้อความตอบกลับเมื่อปฏิเสธการรับสายโดยข้อความจะถูกส่งผ่านทาง SMS และปรับแต่งการแจ้งเตือนได้ทุกแอปผ่าน แอป Garmin Connet
Forerunner 245 เป็นนาฬิกาที่มีความสามารถในการติดตามและให้ข้อมูลรอบด้านในกิจกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราได้เกือบครบถ้วนทั้งหมด แต่มีอย่างนึงที่ 245 ไม่ได้ให้มาด้วยในการอัพเกรดครั้งนี้คือการตัดเอาเซนเซอร์ที่บอกความกดอากาศออกไป (Barometric altimeter) การขาดเซนเซอร์ตัวนี้ทำให้ 245 ไม่สามารถวัดได้ว่าในวันๆ นึงเราขึ้นบันไดไปกี่ชั้น ซึ่งถ้าเราไม่ได้ต้องการทราบข้อมูลนี้ 245 ก็ถือว่าเป็นนาฬิกาที่ครบเครื่องเลยทีเดียว
การเรียกดูข้อมูลต่างๆ สามารถทำได้โดยกดปุ่ม Up Down ที่ตัวนาฬิกาโดยจะมี Widget ขึ้นโชว์ข้อมูลด้านต่างๆให้เราดูได้เลย และในแต่ละ Widget เรายังสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมโดยการกดปุ่ม Star-Stop ด้านขวาบนได้อีกด้วย Widget ข้อมูลเหล่านี้เราสามารถปรับแต่งได้ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม ลด หรือเรียงลำดับ Widget ใหม่ โดยการกดปุ่ม Up ค้างไว้แล้วเลื่อนไปที่ Setting Widget
แอปที่เราได้ลงไว้ในนาฬิกาเราจะเรียกใช้ผ่านทาง Widget โดยการกดปุ่ม UP DOWN และปุ่ม Start-Stop เพื่อเรียกดูข้อมูลหรือเรียกใช้งานแอปนั้นๆ
ข้อมูลบางส่วนที่ Forerunner 245 ให้ไว้ในการติดตามกิจกรรมและการออกกำลังกายของเรา
แสดงระดับสมรรถภาพที่ได้รับจากฝึกซ้อมตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาผ่าน VO2 Max. พร้อมบอกเวลาที่เราควรใช้ในการฟื้นฟูร่างกายและ ทำทำนายผลหากเราวิ่งในระยะ
ตรวจจับคลื่นหัวใจ (Heart Rate Mornitoring) ตลอด 24 ชม.หรือตลอดเวลาที่สวมใส่
ตรวจสอบระดับความเครียด (Stress)
วัดจำนวนการก้าวเดินและระยะทางที่เราเดินในแต่ละวัน (Step and Range)
ระดับความเข้มข้นที่ใช้ในกิจกรรม (Intensity) โดยคำนวนจากอัตราการเต้นของหัวใจร่วมกับกิจกรรมที่เราได้ทำในขณะนั้น เช่น การคำนวนอัตราการเต้นของหัวใจที่สัมพันธ์กับความเร็วในการเดินของเรา
อัตราเผาผลาญแคลอรี่
รายละเอียดการนอนของเรา ว่ามีการหลับในช่วงหลับลึก ตื้น ตื่น หรือมีการหลับในช่วง REM เป็นจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงปริมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ที่คำนวนจากชีพจร ในช่วงเวลาที่เราหลับเป็นเท่าไหร่ โดยใช้เซนเซอร์ Pluse Ox
พลังงานร่างกายที่เหลือ (Body Batterry) บอกถึงพลังงานที่เราเหลืออยู่ในแต่ละช่วงเวลาของวัน
ในส่วนการดูข้อมูลต่างๆ และการปรับแต่งนอกจากจะดูจากตัวนาฬิกาเองแล้ว เรายังสามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือของเราผ่านแอป Garmin Connect ได้อีกด้วยครับ
นอกจากการวิ่งแล้ว Forerunner 245 ยังรองรับการติดตามข้อมูลในกีฬาอีกหลายประเภท โดยมีค่าตั้งต้นมาให้ 16 ชนิดกีฬา แต่การวิ่งดูเหมือนจะให้ข้อมูลและมีส่วนเสริมที่ค่อนข้างละเอียดที่สุด การจะเริ่มเข้าใช้งานโหมดกีฬาสามารถเริ่มใช้ได้โดยการกดปุ่ม Star-Stop ด้านขวาบนของตัวเรือน โดยเราสามารถปรับแต่ง Widget กีฬาที่เราจะใช้งานได้ทั้งทางแอป Garmin Connet และ ตัวนาฬิกาเอง
ในโหมดวิ่งของ Forerunner 245 ถ้าเป็นการวิ่งภายนอกอาคารการต่อ GPS ได้จะให้ข้อมูลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยโหมดการวิ่งนี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่งของเราได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น ระยะทางที่วิ่ง เวลาในการวิ่ง ระยะเวลาที่วิ่งได้ใน 1 กม.(Pace) อัตราการการเต้นและโซนของหัวใจขณะวิ่ง แคลอรี่ที่เผาพลาญ อัตราการก้าวเท้าต่อนาที (Cadence) และแสดงตำแหน่งพร้อมเส้นทางการวิ่งของเราคล้ายแผนที่แต่ไม่ได้แสดงรายละเอียดแผนที่ล่วงหน้าหากเราไม่ได้โหลดเข้าไปเก็บไว้ในนาฬิกาก่อน
เข้าโหมดการวิ่งด้วยการกดปุ่ม Start-Stop เลือกโหมด Run รอ ถ้าเป็นการวิ่งภายนอกอาคารให้รอสักครู่เพื่อให้ GPS จับสัญญานได้ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อ GPS จับสัญญานได้แล้วก็กดปุ่ม Start อีกครั้งเพื่อเป็นการเริ่มบันทึกข้อมูลการวิ่งของเรา
ในขณะที่เรากำลังวิ่งอยู่เราสามารถดูข้อมูลเรียลไทม์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง เวลา และ pace โดยถ้ากดปุ่ม Back ในหน้าจอนี้จะเป็นการบันทึก Lap ให้ทันที แต่เราก็สามารถตั้งล่วงหน้าไว้เองก็ได้ครับ ว่าระยะทางเท่าไหร่ให้ถือว่าครบ Lap ในส่วนอัตราการเต้นหัวใจขณะวิ่งสามารระบุโซนได้ว่าเราอยู่ในโซนไหนแล้ว จะตั้งการแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจเกินโซนที่เราต้องการได้ ซึ่งในแต่ละโซนเราก็สามารถระบุโซนได้เองอีกด้วย เมื่อเสร็จสิ้นการวิ่งก็แค่กดปุ่ม Start-Stop อีกครั้ง และอย่าลืมกด Save ข้อมูลด้วยนะครับ โดยรวมแล้วการใช้งานปุ่มต่างๆ ในระหว่างวิ่งนั้นทำได้ดีมากครับ ไม่ซับซ้อนและให้ข้อมูลที่ชัดเจน
หลังจากที่เราเสร็จสิ้นการวิ่งแล้วเราสามารถดูข้อมูลสรุปในการวิ่งของเราได้ทันที โดยจะมีข้อมูลสรุปพื้นฐานอย่างระยะทาง เวลา ความเร็วเฉลี่ยในการวิ่งของเรา ค่าเฉลี่ยและค่าสูงสุดของอัตราการเต้นของหัวใจ เวลาที่หัวใจเราเต้นในแต่ละโซนและในแต่ละ lap แผนที่ที่เราวิ่ง VO2 Max ระยะเวลาที่เราจะใช้ในการฟื้นตัวหลังจากการวิ่งครั้งนี้ และข้อมูลที่น่าสนที่ใส่ให้มาด้วยใน Forerunner 245 คือข้อมูล Tranining Effect แอโรบิก (Arobic) และ Anarobic (แอนแอโรบิก) ที่จะช่วยบอกเราได้ว่าการฝึกซ้อมหรือการวิ่งในครั้งนั้นๆ เราได้ประโยชน์ขนาดไหนและควรปรับปรุงอย่างไรบ้าง
ข้อมูลการวิ่งของเราก็สามารถดูในแอป Garmin Connect ได้เช่นกันครับ
เราสามารถกำหนดเส้นทางการวิ่งของเราก่อนผ่านทางแอป Garmin Connect ก่อนล่วงหน้าได้ แล้วโหลดเก็บไว้ในนาฬิกา แล้วเรียกใช้เส้นทางการวิ่งเมื่อเราต้องการจะเริ่มใน course นั้นๆ ครับ เท่านี้เราก็สามารถมีตัวบอกเส้นทางคร่าวๆ โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ออกไปวิ่งด้วย
นอกจากกำหนดเส้นทางแล้ว Forerunner 245 ยังสามารถเลือกโปรแกรมการฝึกซ้อมจากโค้ชส่วนตัวที่ทาง Garmin ได้เตรียมไว้ให้เพื่อฝึกซ้อมการวิ่งให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราต้องการได้อีกด้วย การเลือกโปรแกรมการฝึกซ้อมต้องทำผ่านแอป Garmin Connect เช่นเดียวกัน โดยโปรแกรมการฝึกซ้อมจะกำหนดวันเวลา และระยะทางที่เราจะต้องฝึกเพื่อให้จบโปรแกรม เช่น ถ้าเราเป็นคนไม่เคยวิ่งมาก่อนเลย แต่เราอยากวิ่งให้ได้ระยะ 5 กม. โปรแกรมการฝึกซ้อมก็จะแนะนำเราว่าเราต้องฝึกประมาณ 11 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน โดยเริ่มจากง่ายๆ เช่นวันแรกที่เริ่มวิ่งอาจจะใช้เวลาในการฝึกซ้อมแค่ 10 นาที หลังจากนั้นการฝึกก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนเราสามารถวิ่งได้ในระยะ 5 กม. ตามที่ตั้งไว้
เมื่อเลือกเสร็จต้องทำการโหลดโปรแกรมการฝึกซ้อมดังกล่าวไปที่นาฬิกาด้วยนะครับ พอเราเข้าสู่โหมดวิ่งนาฬิกาจะแจ้งให้เราทราบทันทีว่าวันนี้เราต้องทำอะไรบ้างอย่างเป็นขั้นตอนเรียกว่าเหมือนมีโค้ชตัวจริงมาฝึกซ้อมร่วมกับเรา โปรแกรมการฝึกวิ่งนั้นมีตั้งแต่คนที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนจนถึงระดับสูง ดังนั้นคนที่คิดจะเริ่มวิ่งก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Forerunner 245 ได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับนักวิ่งมืออาชีพ
การเลือกโค้ชและการโปรแกรมการฝึกซ้อมผ่านทางแอป Garmin Connect
เมื่อเราเข้าสู่โหมดการฝึกซ้อมทางนาฬิกา จะมีโปรแกรมการฝึกซ้อมในวันนั้นๆขึ้นมาให้เราเพียงฝึกซ้อมตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว
GPS มีมาให้เลือกถึง 4 โหมดด้วยกันครับ GPS อย่างเดียว GPS+GLONASS GPS+GALILEO และ UltraTrac เราสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมเพื่อเพิ่มความแม่นยำของตำแหน่งเส้นทางวิ่งของเราหรือเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ให้สามารถเราใช้งาน GPS ได้นานขึ้น
รูปการเลือกโหมด GPS ในนาฬิกา
Forerunner 245 มีมาตราฐานการกันน้ำอยู่ที่ 5ATM หากดูมาตราฐานจากทาง Garmin จะระบุไว้ว่ากันน้ำลึกได้ที่แรงดันน้ำเท่ากับ 50 เมตร ซึ่งในการใช้งานจริงก็ไม่ควรถึงกับเอาไปดำน้ำลึกนะครับ แต่หากใส่เพื่ออาบน้ำหรือว่ายน้ำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเมื่อเราเลือกโหมดว่ายน้ำ Forerunner 245 ก็สามารถเก็บข้อมูลการว่ายน้ำของเราได้ในระดับนึง แต่จะไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจเมื่ออยู่ในโหมดนี้ได้นะครับ จากการทดลองใช้ว่ายน้ำจริงก็สามารถทำได้ดีโดยสามารถกดดูข้อมูลต่างๆ ใต้น้ำได้เลย ซึ่งถ้าเป็นจอแบบ touch screen คงจะทำแบบนี้ไม่ได้ครับ
ฟังค์ชั่นนี้มีใน Forerunner 245 Music เท่านั้นนะครับ โดยสามารถโหลดเพลงเข้าไปเก็บไว้ในนาฬิกาได้ผ่านทางโปรแกรม Garmin Express โดยการเชื่อมต่อสายชาร์จนาฬิกาเข้ากับ PC หรือ Mac หรือหากเรามีบัญชี Spotify แบบ premium อยู่ก็สามารถใช้ wifi ของ Forerunner 245 Music เชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อโหลดเพลงมาเก็บไว้ที่นาฬิกาได้โดยตรงเลยครับสะดวกมากมาย และเรายังสามารถจัดการเพลงต่างๆของ Spotify ได้โดยผ่านแอป Garmin Connect ได้อีกด้วย เท่านี้เราก็สามารถฟังเพลงขณะออกกำลังกายโดยไม่ต้องพกโทรศัพท์มือถือไปด้วยอีกแล้ว แต่การฟังเพลงนั้นเราต้องเชื่อมต่อกับหูฟังกับนาฬิกาผ่าน Bluetooth ก่อนนะครับ เนื่องจากไม่มีลำโพงในตัวนาฬิกาเพื่อฟังเพลง ณ เวลานี้นอกจาก Spotify แล้ว Forerunner ยังรองรับผู้ให้บริการเพลงอีกสองแอปคือ deezer และ Runcasts โดยสามารถเก็บเพลงไว้ได้ถึง 500 เพลง
เราสามารถควบคุมการเล่นเพลงและโหลดเพลงจาก Spotify หรือ แอปเพลงที่รองรับได้ผ่านทางนาฬิกาโดยตรง
อีกหนึ่งฟังค์ชั่นที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือนักกีฬาที่มีมาให้คือฟังค์ชั่นตรวจนับเหตุการณ์และความช่วยเหลือ ที่ให้เราเลือกตั้งบุคคลที่จะได้รับการติดต่อแบบอัตโนมัติจากนาฬิกาของเราเมื่อ Forerunner 245 ที่เราสวมใส่อยู่นั้นตรวจจับได้ว่าเราอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างออกกำลังกาย ก็จะส่ง SMS บอกความผิดปกติพร้อมตำแหน่ง GPS ที่เราอยู่ กรณีที่ไม่มีสัญญาน GPS นาฬิกาจะส่ง SMS ให้ซ้ำอีกครั้งเมื่อตรวจจับสัญญาน GPS ได้ ไปให้กับรายชื่อติดต่อที่เราได้ตั้งไว้ล่วงหน้าได้ทันที ฟังค์ชั่นนี้สามารถเปิดหรือปิดการใช้งานก็ได้นะครับ หรือถ้าเราอยากส่งขอความช่วยเหลือดัวยตัวเองก็เพียงแค่กดปุ่ม Light ด้านซ้ายบนค้างไว้ประมาณ 6 วินาทีหรือจนหรือสึกว่านาฬิกาสั่นสามครั้งติดนาฬิกาก็จะส่งข้อความขอความช่วยเหลือออกไปเช่นกัน
ตัวอย่าง SMS ที่ถูกส่งไปยังบุคคลที่เราต้องการขอความช่วยเหลือ
สำหรับคนที่กำลังมองหานาฬิกาเพื่อการออกกำลังกาย Garmin Forerunner 245/245 Music สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นโหมดกีฬาที่ให้มามากกว่า 16 ชนิดกีฬาโดยเฉพาะกีฬาวิ่ง ว่ายน้ำ และจักรยาน ที่มีการเก็บข้อมูลต่างๆ ให้เราใช้พัฒนาการฝึกซ้อม หรือวางการแผนการแข่งขัน พร้อมระบบ GPS ที่สามารถใช้ในการฝึกซ้อมและการแข่งขันได้ยาวนานกว่า 22 ชม.ต่อเนื่อง รูปทรงและน้ำหนักของนาฬิกาพร้อมคุณสมบัติสมาร์ทวอทช์ก็สามารถทำให้เราสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายพร้อมข้อมูลจำเป็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเราเองอย่าง การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความเครียด คุณภาพการนอนและระดับออกซิเจนในเลือด หรือแม้แต่จำนวนพลังงานที่เราเหลือในแต่ละวันก็มีมาให้ครบ การใช้งานจริงที่สามารถใช้งานได้ 7 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้งก็ไม่ต้องทำให้เรากังวลต้องมานั่งชาร์จแบตทุกๆ วัน ยังมีคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงในรีวิวนี้แต่เราสามารถเรียนรู้การใช้งานได้ไม่ยากครับ แถมพ่วงด้วยความสามารถการจัดเก็บและเล่นเพลงในตัวอีก แต่จะไม่มีเซนเซอร์ Barometric altimeter และ Garmin Pay มาให้ด้วย หากเราไม่ได้ต้องการข้อมูลระดับความสูงที่ละเอียดมากนั้น Garmin Forerunner 245/245 Music ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับคนที่เคยใช้นาฬิกา Garmin รุ่นอื่นอยู่แล้วคงจะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้นเคยในเวลาไม่นาน แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อยครับเมื่อเราคุ้นเคยแล้วจะรู้สึกถึงความสะดวกสบายในการควบคุมนาฬิกาโดยส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าการควบคุมสามารถทำได้ดีกว่านาฬิกาแบบ Touch Screen ซะอีก