วันนี้ทางไทยแวร์ก็มีแก็ดเจ็ตเจ๋งๆ สำหรับคนใส่ใจสุขภาพและรักการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง มารีวิวให้ได้ชมกัน กับ GARMIN รุ่น Forerunner 235 ที่นับได้ว่าเป็นสมาร์ทวอช ที่มีความสามารถสูงในการตรวจเช็คสุขภาพร่างกายให้กับผู้ที่สวมใส่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยตัวเซ็นเซอร์ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับระบบในการนับจำนวนก้าว, คำนวณระยะทาง, คำนวณอัตราความเร็วในการวิ่ง และการเผาผลาญปริมาณแคลอรี่ รวมถึงระบบ GPS และเทคโนโลยีแบบ GLONASS ในการติดตาม ระบุตำแหน่งได้อย่างละเอียด รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันในมือถือ เพื่อซิงค์ข้อมูลการใช้งานและควบคุมการแจ้งเตือนต่างๆ ให้กับผู้ที่สวมใส่ได้อย่างสะดวก
ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี GLONASS ใน GARMIN Forerunner 235
ระบบ GLONASS หรือชื่อเรียกเต็มๆ ว่า GLOBAL NAVIGATION SATELLITE SYSTEM เป็นระบบดาวเทียมนำร่อง ที่ถูกพัฒนาโดยประเทศรัสเซีย เพื่อใช้ในการระบุตำแหน่งพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยจับสัญญาณจากสถานีดาวเทียม 24 ดวง โดยรวมแล้ว GLONASS มีหลักการทำงานที่ใกล้เคียงกันกับระบบ GPS เพียงแต่ใช้สัญญาณและพิกัดดาวเทียมที่ต่างกัน ซึ่งเมื่อนำมาใช้ร่วมกันแล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการระบุตำแหน่งได้อย่างดีเยี่ยม
คลิปวิดีโอ สมาร์ทวอทช์ GARMIN Forerunner 235 พร้อมกับทดสอบการวิ่งจริง
ข้อมูลของอุปกรณ์ GARMIN Forerunner 235
รีวิว GARMIN Forerunner 235
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ประกอบไปด้วย
การดีไซน์ของตัวเครื่อง
สำหรับตัวเรือนนาฬิกา มีการออกแบบที่ดูเรียบง่าย แฝงความมีไตล์ และล้ำสมัย ด้วยหน้าจอนาฬิกาทรงกลม พร้อมกับโทนสีที่คมเข้มอย่างสีเทาและดำ ใช้สายซิลิโคนเนื้อนิ่ม ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้สบาย เหมาะในการใช้ขณะออกกำลังกายเป็นอย่างมาก
หน้าจอนาฬิกามีขนาดกว้างถึง 1.23 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 215 x 180 พิกเซล ที่สามารถแสดงผลหน้าจอสีได้อย่างชัดเจน
ด้านซ้ายของตัวเรือนจะมี ปุ่ม Power ที่ใช้สำหรับ เปิด/ปิดเครื่อง พร้อมกับทำหน้าที่เป็นปุมเปิด/ปิด ไฟเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับหน้าจอของนาฬิกา
บริเวณด้านล่างมี 2 ปุ่ม ที่ใช้สำหรับตั้งค่าการใช้งานของตัวเครื่อง และใช้เป็นปุ่มเลื่อนขึ้น-ลง ของรายการเมนู
ส่วนทางด้านขวาจะมีอยู่ 2 ปุ่มด้วยกัน ปุ่มบนที่มีสัญลักษณ์รูปคนวิ่งจะเป็นปุ่มที่ใช้กดเพื่อเริ่มการจับเวลา และเข้าสู่รายการเมนูต่างๆ ส่วนปุ่มล่างจะใช้เป็นปุ่มสำหรับย้อนกลับไปที่รายการเมนูก่อนหน้า
ใต้ตัวเรือนมีตัวเซ็นเซอร์คุณภาพสูงที่ใช้ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ และวัดค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียด
สายนาฬิกาข้อมือทำจากวัสดุเนื้อดี มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย สามารถปรับได้หลายระดับ เพื่อให้กระชับกับข้อมือของผู้สวมใส่ พร้อมทั้งยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ ด้วยอุปกรณ์ถอดสายข้อมือที่ให้มาในกล่อง
ภาพอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับถอดเปลี่ยนสายข้อมือนาฬิกา
แบตเตอรี่และการชาร์จอุปกรณ์ของ GARMIN Forerunner 235 นั้น ถือว่าออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว กับสายชาร์จที่มีลักษณะของหัวชาร์จเป็นตัวหนีบ แค่เพียงนำหัวชาร์จมาหนีบเข้ากับขั้วชาร์จบริเวณด้านหลังของตัวเรือนนาฬิกา ก็สามารถชาร์จพลังงานแบตเตอรี่ได้ทันที
ใช้เวลาในการชาร์จพลังงานประมาณ 2 ชั่วโมง และสามารถใช้งานแบบสแตนด์บาย (ดูเวลา + ติดตามกิจกรรรม + แจ้งเตือน + วัดอัตราการเต้นหัวใจ + การนับจำนับก้าว) ใช้งานได้นานประมาณ 6 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และประมาณ 10 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานในโหมดฝึกซ้อม หรือขณะที่ออกกำลังอย่างต่อเนื่อง
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของ GARMIN Forerunner 235
การจับอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate)
ฟังก์ชั่นนี้ ถือเป็นฟังก์ชั่นหลักที่สำคัญมากสำหรับการออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ เพราะอัตราการเต้นของหัวใจนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า การออกกำลังกายของเราอยู่ในระดับที่พอดี หรือหักโหมเกินไปหรือไม่ ด้วยการดูจากระดับอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ ถ้ามีอัตราการเต้นที่สูงเกินค่าสูงสุดไปแล้ว แสดงว่าการออกกำลังกายของเรานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่หนักเกินกว่าร่างกายจะรับไหว ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือมีอาการหัวใจวายได้ (สูตรคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจสูดสุด หาได้จากการนำ ค่าตัวเลข 220 มาลบด้วย อายุ)
ในฟังก์ชั่น Heart Rate ของ GARMIN Forerunner 235 นี้มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ทันสมัย สามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างละเอียด รวดเร็ว และแม่นยำ โดยมีการอัพเดทอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real Time ทำให้ผู้สวมใส่สามารถตรวจเช็คการเต้นของหัวใจได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้ยังมีระบบในการบันทึกค่าอัตราการเต้นของหัวใจของวันที่ผ่านมาแล้วได้ เพื่อใช้ดูค่าเฉลี่ยประจำสัปดาห์ และอัตราการเต้นของหัวใจย้อนหลังในแต่ละวันได้อย่างละเอียด พร้อมทั้งสามารถแสดงค่าเฉลี่ยออกมาในรูปแบบของกราฟได้อีกด้วย
การนับจำนวนก้าวแบบเรียลไทม์
GARMIN Forerunner 235 ตัวนี้ มีระบบในการนับจำนวนก้าวที่รวดเร็วและค่อนข้างแม่นยำแบบเรียลไทม์ โดยมีการอัพเดทอัตโนมัติทุกๆ 5 วินาที ที่มีการขยับหรือก้าวเดิน พร้อมกับคำนวณระยะทางในการเดินหรือวิ่งทั้งหมดได้อย่างละเอียด
การเชื่อมต่อเพื่อดูข้อมูลผ่านทางแอปพลิคชั่น GARMIN Connect บนมือถือ
สามารถเชื่อมต่อนาฬิกาเข้ากับมือถือผ่านทาง ระบบบลูทูธ เพื่อทำการซิงค์ดูข้อมูลรายงานต่างๆ รวมถึงการแจ้งเตือนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงเชื่อมบลูทูธของมือถือและนาฬิาเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เปิดแอปพลิเคชัน GARMIN Connect ขึ้นมาก็สามารถใช้งานได้ทันที (แอปฯ รองรับการใช้งานบนมือถือทั้งในระบบ Android และ iOS สำหรับใครที่ยังไม่ได้ติดตั้ง สามารถ กดดาวน์โหลดแอปฯ ได้ที่นี่เลย)
เมื่อเชื่อมต่อกันแล้วเรียบร้อยแล้ว แอปฯ จะทำการซิงค์ข้อมูลทั้งหมดจากตัวนาฬิกาโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถดูประวัติการใช้งานและข้อมูลต่างๆ ในแต่ละวันที่ผ่านมาได้อย่างละเอียด
สามารถเลือกวันที่ พร้อมกับดูระยะทางการวิ่ง, เวลาที่ใช้ในการวิ่ง และการเผาผลาญปริมาณแคลอรี่ของวันนั้นๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถข้อมูลแผนที่ประกอบในการวิ่งได้ (จากในภาพ ระบุสถานที่ของสวนสุขภาพ พร้อม จุดมาร์คสีเขียว ที่แสดงถึงจุดเริ่มต้นวิ่ง และ จุดมาร์คสีแดง ที่หมายถึงจุดสิ้นสุดในการวิ่ง)
สามารถเปิดดูกราฟค่าเฉลี่ยการเต้นของหัวใจ และอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจได้โดยละเอียด พร้อมกับค่า เคเดนซ์ (Cadence) ที่แสดงค่าการวัดในหน่วย spm หรือ step per minute ที่หมายถึงจำนวนก้าวที่เราทำได้ในหนึ่งนาที
มีระบบในการบันทึกข้อมูลจำนวนการก้าวเท้า และระยะทางทั้งหมดที่เดินในแต่ละวัน พร้อมกับสามารถเปิดดูรายงานย้อนหลังเพื่อหาค่าเฉลี่ยของการเดินในแต่ละเดือน หรือปีนั้นๆ ได้
สามารถตั้งช่วงระยะเวลาในการนอนหลับของแต่ละวัน เพื่อตรวจเช็คว่าร่างกายได้มีการพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ พร้อมกับนับค่าเฉลี่ยของชั่วโมงการนอนในแต่ละสัปดาห์ได้อีกด้วย
ทดสอบกับการวิ่งจริง
คราวนี้มาลองทดสอบกับการวิ่งจริงกันดูบ้าง โดยได้ใช้สถานที่ของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในบริเวณลู่วิ่งของสวนสุขภาพ ซึ่งขนาดของสนามนั้นมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
ก่อนที่จะเริ่มทำการวิ่ง เรามาลองเช็คค่าอัตราการเต้นของหัวใจกันก่อน จากในภาพจะเห็นได้ว่า เครื่องได้แสดงอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 72 ครั้ง/นาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์การเต้นของหัวใจในระดับที่ปกติ จากนั้นก็กดปุ่มจับเวลาเพื่อเริ่มวิ่งกันได้เลย
หลังจากที่วิ่งครบ 1 รอบแล้ว มาลองเช็คอัตราการเต้นของหัวใจ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของอัตราการเต้นของหัวใจ และ HR โซน ที่มีค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนทางด้านระยะทางที่เครื่องจับได้เป็น 0.99 กม. (ขนาดสนาม 1 รอบ ประมาณ 1 กิโลเมตร) ก็ถือว่าจับระยะทางได้แม่นยำมากเลยทีเดียว พร้อมยังบอกเวลาที่ใช้ไปทั้งหมดและอัตราความเร็วในการวิ่ง (Pace) รวมถึงการแสดงค่าในการเผาผลาญปริมาณแคลอรี่ได้อีกด้วย
สรุปผลการใช้งาน
Garmar Forerunner 235 จัดได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจในสุขภาพและรักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก มีระบบการติดตามตำแหน่งของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับตัวเซ็นเซอร์คุณภาพสูงที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนับก้าว, การเผาผลาญปริมาณแคลอรี่ และการพักผ่อนนอนหลับได้อย่างละเอียด พร้อมกับการซิงค์ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดูผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือได้อย่างสะดวกอีกด้วย
ข้อดี
ข้อสังเกต
|