ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Dell ได้พัฒนาหน้าจอมอนิเตอร์ให้มีขนาดบางลง ดีไซน์สวยงามขึ้น ยกตัวอย่างเช่น รุ่น Dell Ultrathin S2718D ที่มีขนาดบางมาก หรือจะเป็นรุ่น Dell S2418H ที่มาพร้อมกับลำโพง โดยทั้งสองมาจาก S-Series ที่เน้นเรื่องดีไซน์สวยงาม
และวันนี้ไทยแวร์ก็อยากมาแนะนำให้เพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกับหน้าจอมอนิเตอร์จาก S-Series อีกหนึ่งรุ่น นั่นก็คือ Ultrathin S2719DM ขนาด 27 นิ้ว ความคมชัดระดับ 2K ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบางแบบสุดๆ มีดีไซน์สวยงามทันสมัย แสงสีสว่างสดใส ตามมาตรฐาน VESA Certified DisplayHDR 400 ผ่านรีวิวชิ้นนี้กันนะครับ
จุดเด่น
| ข้อสังเกต
|
Screen Size | 27 Inches |
Screen Coating | Anti-glare, 3H Hard Coating |
Resolution | 1440p (QHD) |
Aspect Ratio | 16:9 |
Panel Technology | In-Plane Switching (IPS) |
Refresh Rate | 60hz |
Response Time | 5ms (8ms Typical) |
Contrast Ratio | 1000:1 (Static) |
Brightness | 400 cd/m² (600 cd/m² Peak) |
HDR-ready | Yes, DisplayHDR 400 |
Narrow bezels | Yes, Dell InfinityEdge design |
Built-in Speakers | No |
Stand | Height -No |
Tilt – Yes (-5°/+21°) | |
Swivel – No | |
Pivot – No | |
VESA Compatibility | No |
Connectivity | HDMI 2.0 x 2, 3.5mm Audio Jack |
Dimensions with Stand(WxHxD) | 61 x 35.5 x 15.7 cm. |
Weight | 4.4 kg. |
สเปคคร่าวๆ ของ Dell S2719DM ตัวนี้คือ กว้าง 27 นิ้ว อัตรารีเฟชรเรท 60Hz ความคมชัดระดับ 2K (QHD) จอเป็นแบบ IPS ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสว่าง และแสดงสีสันสมจริง ตามมาตรฐานสากล อย่าง VESA Certified DisplayHDR 400 ที่การันตีความสว่าง 400 cd/m² แสดงสีสันได้ถึง 8-bit นี่เองทำให้มันเหมาะกับงานที่จำเป็นต้องใช้การแสดงสีสันแม่นยำ อย่าง กราฟฟิกดีไซน์ แต่งรูปภาพ ฯลฯ เป็นต้น และเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับดีไซน์รูปลักษณ์ที่สวยงาม ขอบจอบางๆ InfinityEdge ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Dell สำหรับราคาค่าตัวของมัน อยู่ที่ประมาณ 17,000 - 19,000 บาท เมื่อทราบราคา และสเปคบางส่วนไปแล้ว เราจะเริ่มแกะกล่องกันนะครับ
ตัวกล่องนอก มีรูปด้านหน้าและหลัง พร้อมกับคำอธิบายนิดหน่อย ส่วนนี้ไม่มีอะไรมาก เราจะข้ามไปเปิดดูข้างในเลย
เมื่อเปิดเข้ามาด้านในจะพบ กับจอมอนิเตอร์หุ้มด้วยถุงโฟมกันรอย ใส่อยู่ในช่องกันกระแทก มีสาย HDMI และ Adaptor จ่ายไฟ ใส่อยู่ในช่องซ้ายและขวา
ส่วนอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับหน้าจอตัวนี้ ก็คือ
ครั้งแรกที่เห็นหน้าจอ Dell S2719DM ต้องขอบอกเลยว่า รู้สึกประทับใจกับการออกแบบดีไซน์มาก เพราะมันดูมีมิติ จากการไล่ความหนาบาง ของด้านข้าง (ซ้าย,ขวา) จาก 5.5 มม.ไปถึงตรงกลาง 29 มม. ส่วนสีเป็นสีเงิน (อลูมิเนียม) แบบด้าน ดูแมตช์กันระหว่างตัวเครื่องและขาตั้ง
หน้าจอมีขนาด 27 นิ้วแบบด้าน (Matte) ช่วยตัดแสงสะท้อน ดีไซน์เป็นแบบ InfinityEdge ที่ขอบจอบางสุดๆ แค่ 0.7 มม. (ซ้าย, ขวา, บน) และ 0.8 มม. (ล่าง) จากการที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานแล้วก็รู้สึกว่า ขอบจอบางๆ เวลามองช่วยให้เรารู้สึกโล่งๆ เหมือนมองได้เต็มตา ไม่มีขอบจอดำๆ หนาๆ มาทำให้รู้สึกอึดอัด (บางคนอาจจะไม่เป็น) และเวลานำมาต่อกัน 2 จอ รอยต่อนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลย
วัสดุขาตั้งจอแข็งแรงเป็นโลหะทั้งชิ้น ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ดูมั่นคง รองรับน้ำหนักของจอได้สบายๆ ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มี HDMI 2 ช่อง, ช่องเสียบลำโพง 3.5 มม. และช่องเสียบไฟเลี้ยง ตรงกลางมีช่องสำหรับสอดสายเพื่อเสียบจอ ข้อดีของมันก็คือเวลาเราเสียบสาย มันจะดูไม่รก และสามารถซ่อนสายไว้หลังขาตั้งได้อีกด้วย
ข้อต่อเป็นโลหะชิ้นเดียวกับขาตั้ง ตัวจอสามารถหงายขึ้นหรือกดลงได้ -5° ถึง 21° อย่างเดียว หันซ้ายหรือขวาไม่ได้
ส่วนปุ่มเปิด-ปิด, ปุ่มตั้งค่ามี 5 ปุ่ม อยู่ฝั่งขวาใต้จอ มีขนาดค่อนข้างเล็ก ดูไม่สะดุดตา เวลากดต้องเอามือคลำๆ ดูถึงจะเจอ
โดยรวมดีไซน์ของเจ้า Dell S2719DM จัดได้ว่างามเลยทีเดียว ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับเมาส์/คีย์บอร์ดไร้สายแล้วล่ะก็ โต๊ะทำงานจะดูเรียบร้อยไม่รก เวลามองแล้วทำให้รู้สึกสบายตาขึ้นมาทันที สรุปคือผู้เขียนรู้สึกถูกใจมากๆ จนอยากจะได้มาตั้งที่โต๊ะทำงานเลย
เมื่อเห็นดีไซน์งามๆ ไปแล้ว เราจะมาดูกันต่อที่ประสิทธิภาพการแสดงผลความสว่าง และสีสันของหน้าจอ Dell S2719DM กันดีกว่า ตามสเปคแล้ว เจ้าตัวนี้เป็นหน้าจอกว้าง 27 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 60Hz แบบ IPS ที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันสดใส ความละเอียดคมชัดระดับ 2K (QHD) ความสว่างมากถึง 600 nits มีมาตรฐาน VESA Certified DisplayHDR 400 ที่ทาง Dell เคลมว่าสามารถแสดงสีสันได้ถึง 99% (sRGB) เลยทีเดียว แต่จะจริงอย่างที่เขาว่าไหม ลองไปดูกัน
เริ่มด้วยการแสดงผลสีขาว / สีดำ ก็ทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจ โดยผู้เขียนได้ทำการทดสอบโดยการเปิดรูปที่มีค่าความสว่าง (แบบ Color Range) ตั้งแต่ 1-255 จะเห็นได้ว่าสีดำนั้นมืดสนิทเหมือนกับตอนปิดจอ ส่วนสีขาวก็สว่างมาก อันจะเห็นได้รูปการทดสอบด้านบน นอกจากนี้ยังมีรูปวิวเมือง (City landscape) ที่มีความต่างระหว่างความมืด และแสงสว่างมากๆ ให้ดูกันอีกด้วย
การแสดงผลสี RGB ของเจ้าตัวนี้เรียกได้ว่า สีสดสมจริง ไม่มีอาการสีเพี้ยนเลย สมกับที่ทาง Dell เขาเคลมมาว่าสามารถแสดงผลสี sRGB ได้ถึง 99% จริงๆ
การเปิดโหมด HDR จะทำให้ภาพดูคม และมีมิติมากขึ้น หากลองสังเกตดูภาพที่ไม่เปิดโหมด HDR (ซ้าย) ดูจะเห็นว่าความสว่างดูเท่าๆ กันทั้งภาพ ทำให้ตัวคฤหาสน์ดูจมกับฉากหลัง ส่วนภาพที่เปิดโหมด HDR (ขวา) จะเห็นว่าสีสดกว่า ตัวคฤหาสน์มีส่วนสว่างและมืด ที่ตัดกับท้องฟ้าที่เป็นฉากหลังทำให้ออบเจ็คดูเด้งออกมา ช่วยให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น
ผู้เขียนได้ทำการทดสอบเปิดวิดีโอความละเอียดสูง 2K บน Youtube มันก็แสดงผลออกมาได้คมชัดมากๆ และหากว่าเปิดโหมด HDR ไว้ด้วย จะช่วยเพิ่มมิติให้กับภาพ และยิ่งเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้กับเรามากขึ้นไปอีก
ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานหน้าจอ Dell S2719DM ในการแต่งรูปภาพ และงานกราฟฟิก ก็รู้สึกประทับใจกับการแสดงสีสันที่แม่นยำมาก ช่วยให้ทำงานรวดเดียวจบ ช่วยให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น
สำหรับการเล่นเกมส์ ค่ารีเฟรชเรทของหน้าจอเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว ตามสเปคเจ้าจอ Dell S2719DM มีค่ารีเฟรชเรทอยู่ที่ 60Hz ซึ่งเทียบเท่ากับจอใช้งานทั่วๆ ไป แต่มีผู้รีวิวท่านหนึ่งจากเว็บต่างประเทศได้ระบุไว้ว่าเราสามารถ "ปลดล็อกค่ารีเฟรชเรทจาก 60Hz เพิ่มเป็น 74/75Hz ได้" โดยมีข้อจำกัดที่ว่า ต้องเปิดใช้งานเทคโนโลยี G-Sync (Nvidia) หรือ FreeSync (AMD) และตัวการ์ดจอต้องแรงพอที่จะดันค่า FPS ให้เท่ากับค่ารีเฟรชของหน้าจอด้วย
ซึ่งทางผู้เขียนก็ได้ทำการทดสอบกับการ์ดจอ Nvidia GTX 970 โดยเปิดใช้ G-Sync และสร้าง Create custom resolutions เป็น 1920x1080 พิกเซล โดยเลือกค่ารีเฟรชเรทเป็น 74Hz (ถ้าเป็น 75Hz จะเกิดอาการภาพซ้อน) ผ่านโปรแกรม Nvidia Control Panel จากนั้นก็ทดลองเล่นเกมส์ดู ก็รู้สึกว่าภาพลื่นขึ้นนิดหน่อย อย่างไรก็ดีทางผู้เขียนไม่ได้ทดสอบกับการ์ดจอค่ายแดง (AMD) จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าทำได้หรือไม่ แต่จากข้อมูลรีวิวของต่างประเทศนั้นบอกว่าทำได้เช่นกัน
Dell S2719DM เป็นหน้าจอมอนิเตอร์ระดับสูง ที่มีดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องบาง หน้าจอกว้าง แสดงสีสันสดใสสมจริง เหมาะสำหรับกราฟฟิกดีไซน์เนอร์และช่างภาพ ที่ต้องการความแม่นยำในการแสดงสีสันขั้นสูง หรือหากต้องการจะดูภาพยนตร์ก็เหมาะเหมือนกัน เพราะจอแสดงสีสันสดใส และมีเทคโนโลยี HDR ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชม
แต่หากจะซื้อมาเล่นเกมส์นั้นคงจะไม่เหมาะสักเท่าไร เพราะว่าอัตรารีเฟชรเรทอยู่ที่ 60Hz และอัตราตอบสนองอยู่ที่ 5ms ซึ่งอาจทำให้ภาพไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
|
How to .... |