หากพูดถึงเรื่องการทำงานในปัจจุบัน หลายๆ คนอาจค้นพบว่า บางครั้ง การทำงานด้วยการพิมพ์เอกสารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป บางครั้ง การจดหรือวาดเพิ่มลงไป ก็สามารถทำให้การประชุมหรือการทำงานนั้นมีสีสันมากขึ้น และเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ในวันนี้ เรามีรีวิว โน้ตบุ๊ค Dell Inspiron 7391 2-in-1 มาฝากผู้อ่านทุกท่านกัน โดยแล็ปท็อปเครื่องนี้ สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายวิธีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการทำงานที่สามารถใช้พิมพ์ วาด เขียน หรือการใช้งานด้านความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง ที่มีฟังก์ชันสนับสนุนด้านนี้โดยเฉพาะมาฝากกัน
+ จุดเด่น | - จุดสังเกต |
1. เปิดฝาปั๊บ เครื่องพร้อมใช้งานทันที ไม่ว่าก่อนหน้าจะแค่พับจอหรือชัตดาวน์ไปแล้วก็ตาม | 1. การใช้งานปากกา วางมือต้องระวังขอบหน้าจอ เพราะเวลายกปากกาแล้ว มืออาจเลื่อนไป |
2. ที่เก็บปากกาอยู่ใต้จอ เก็บมิดชิดไม่ต้องกลัวหาย | 2. ปุ่มปากกาค่อนข้างตื้น ตอนจับปากกาอาจเผลอกดโดยไม่ตั้งใจ |
3. หน้าจอขนาดพอดีกำลังใช้งาน ไม่ใหญ่เกินพกพา | 3. เปิดฝาเครื่องแล้วเขียนเลยไม่ได้ ต้องกดไอคอนที่ทาสก์บาร์เพื่อเขียน |
4. มีโหมดอัจฉริยะ สลับฟิลเตอร์แสงให้เหมาะกับคอนเท้นท์ที่แสดงบนหน้าจอโดยอัตโนมัติ | 4. จอสะท้อนแสง ไม่เหมาะกับการใช้งานในที่มีแสงจ้า เพราะจอมีความสว่างไม่มากแม้ปรับสุด |
5. ราคาสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ให้มา | 5. เครื่องร้อนไวมาก และมีความร้อนสูงทั้งๆ ที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนัก (วางบนตักไม่ได้) |
Dell Inspiron 7391 2-in-1 มีสเปคเครื่องให้เลือกสามรุ่นสามราคาด้วยกันได้แก่
โดยในคราวนี้ เราได้รุ่นที่มี CPU i5-10210U พร้อมแรม 8 GB มาทดสอบกัน ส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีมาให้จะเป็น SSD ที่ความจุ 512 GB และทำการลง Windows 10 Home ไว้ให้เรียบร้อยแล้วพร้อมใช้งาน
การบูตเครื่องหลังเปิดหน้าจอ สามารถทำได้ไวมาก เพียงแค่เปิดหน้าจอขึ้น รอไม่กี่วินาที ก็สามารถทำการล็อกอินเข้าวินโดวส์ได้เลย
ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีดีไซน์เรียบหรู ด้วยฝาเครื่องแบบอลูมิเนียมสีดำด้านแต่มีความเรียบลื่นเมื่อจับถือ พร้อมโลโก้ Dell ตรงกลางฝาอันเป็นเอกลักษณ์ของอุปกรณ์ Dell ทุกรุ่น
ขอบฝาค่อนข้างหนักในตอนที่เปิดฝาออกมา บางครั้งอาจต้องใช้สองมือในการดึงฝาให้เปิดขึ้น
การออกแบบแล็ปท็อปรุ่นนี้ เน้นไปที่ความโค้งมนของจุดมุมต่างๆ รวมไปถึงความหนาของเครื่องที่ทุกส่วนโค้งรับกันหมด
ขนาดตอนปิดฝาเครื่องแทบจะมีขนาดที่พอดีกับกระดาษ A4 เลยทีเดียว แต่จะมีด้านยาวที่ยาวกว่านิดหน่อย (ประมาณ 1 ซม.) ใครนึกขนาดไม่ออกจับกระดาษ A4 มาวางบนตักดูค่ะ
ปากกาสไตลัสที่มากับเครื่องนั้น มีน้ำหนักที่กำลังพอดี ไม่ได้รู้สึกว่าเบาหรือหนักเกินไป สามารถเอาไปใช้วาดเขียนได้โดยไม่รู้สึกแปลกมือ ถือว่าทำได้ดีในจุดนี้
พอร์ตหรือช่องต่างๆ รอบเครื่องไม่ซับซ้อน อาจเพราะมีเพียงพอร์ตละ 1 ช่องเลยทำให้สังเกตได้ง่ายด้วยรูปช่องพอร์ตที่แตกต่างกัน โดยฝั่งซ้ายของเครื่อง (เมื่อหันด้านเปิดเครื่องเข้าหาตัวเอง) จะมี USB-C ที่สามารถชาร์จไฟได้, HDMI, และ Power Port ตามลำดับ ส่วนฝั่งขวาจะมีช่องใส่ Micro SD Card, 3.5 Headphone, และ USB-A 3.1 ให้ใช้งาน
แล็ปท็อปของ Dell ในซีรีส์นี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dell CinemaColor และ CinemaSound ที่มีไว้สำหรับดูหนังฟังเพลงอีกด้วย โดยฟีเจอร์ CinemaColor จะเป็นฟีเจอร์ที่สามารถเลือกปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เข้ากับการใช้งานในขณะนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ Movie สำหรับดูหนัง, Evening ถนอมสายตากับการใช้งานเวลากลางคืน, Sports สำหรับการรับชมรายการกีฬา, และ Animation สำหรับการรับชมภาพเคลื่อนไหว
ส่วน CinemaSound นั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงในระดับคุณภาพเทียบเท่ากับสตูดิโอได้ด้วย MaxxAudio Pro โดยสามารถเลือกปรับเสียงตามสภาพแวดล้อมได้เช่น ในห้องเงียบ ห้องนั่งเล่น นอกสถานที่ ภายในออฟฟิศที่มีเสียงดัง เป็นต้น
สำหรับใครที่พิมพ์งานแล้วฝ่ามือชอบไปโดนทัชแพดด้านล่าง แล็ปท็อปรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชัน Precision Touchpad ที่เวลาเราเริ่มพิมพ์งานเมื่อไหร่ เคอร์เซอร์เมาส์จะหายไปเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเลื่อนนิ้ววนๆ ที่ทัชแพดอีกครั้งจึงจะกลับมา
ในเวลาที่ต้องทำงานในที่ที่มีแสงน้อย แล็ปท็อปรุ่นนี้ มีไฟส่องสว่างใต้แป้นคีย์บอร์ด ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้สองระดับ ซึ่งถ้าหากทำงานในที่ที่มีแสงมาก ก็สามารถเลือกปิดแสงไฟคีย์บอร์ดเพื่อประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
คราวนี้เรามาดูในเรื่องของการใช้งานจริงกันบ้างค่ะ ว่าจะมีจุดเด่นและจุดสังเกตในเรื่องใดบ้าง
เริ่มจากการเปิดใช้งานเครื่องที่ทำให้ประทับใจก่อน หนึ่งในฟีเจอร์ที่ดีของแล็ปท็อปรุ่นนี้คือการเปิดฝาขึ้นปั๊บ เครื่องจะเปิดตัวเองขึ้นมาปุ๊บ ไม่ต้องเสียเวลากดปุ่ม Power เปิดเครื่องอีกรอบ เรียกว่าจะทำงานเมื่อไหร่ เครื่องก็สแตนด์บายรอเรามาใช้งานเสมอ ถึงแม้จะสั่งชัตดาวน์ไป แต่ในการใช้งานครั้งใหม่ เปิดฝาเครื่องมาก็ใช้ได้เลยทันที
สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นที่มีปากกาสไตลัสมาด้วย คือการมีที่เก็บในตนเอง และสามารถเก็บได้มิดชิดโดยไม่มีส่วนที่ยื่นหรือเกินออกมาจากตัวเครื่อง ซึ่งในรุ่นนี้ ที่เก็บปากกาถูกออกแบบมาเป็นช่องแม่เหล็กอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล เมื่อเราพับหน้าจอลง ปากกาจะไม่ยื่นไปหลังเครื่องแต่อย่างใด
บางท่านอาจกังวลว่า ถ้าปากกาถูกพับลงไปกับจอ แล้วปากกาจะมีสิทธิ์ร่วงออกไปด้านหลังรึเปล่า หรือสามารถโดนอะไรเกี่ยวแล้วหลุดออกไปได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะที่เก็บปากกาถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงเรื่องนี้มาแล้ว ซึ่งเราสามารถดูได้ว่าเก็บปากกาไปแล้วหรือยังเท่านั้น จะไม่สามารถดึงออกมาใช้จากด้านหลังเครื่องได้ ต้องเปิดฝาเครื่องก่อนจึงจะสามารถหยิบออกมาใช้ได้
ถึงแม้รุ่นนี้จะมีหน้าจอขนาด 13 นิ้ว แต่เมื่อใช้งานจริงกลับพบว่าไม่ได้ดูเล็กเกินไป ทั้งยังมีขนาดพอดี และสามารถดูหนังนอกสถานที่ได้เต็มตา ไม่ได้รู้สึกว่าจอเล็กต้องเพ่งสายตาเลย
ในส่วนบานพับของหน้าจอนั้น ก็ออกแบบมาแข็งแรงไม่ก๊องแก๊ง และมีองศาการล็อกตำแหน่งหน้าจอเป็นระยะเมื่อหงายฝาพับขึ้น ซึ่งเราจะรู้สึกได้ถึงเสียงคลิกเบาๆ เมื่อทำการหงายหน้าจอไปถึงจุดๆ หนึ่ง ซึ่งสามารถดัดบานพับให้หมุนได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว
ในเวลาที่เราเลื่อนดูอะไรบางอย่างเช่น เลื่อนอ่านข่าวพร้อมภาพประกอบ ผู้เขียนค้นพบว่าหน้าจอแล็ปท็อปมีการปรับความสว่างให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า ในตอนที่พื้นหลังส่วนใหญ่เป็นสีขาวตัวหนังสือเป็นสีดำ หน้าจอจะมีความสว่างในระดับปกติ แต่เมื่อเราเลื่อนลงไปเจอรูปประกอบข่าวหรือคลิปวิดีโอ หน้าจอจะทำการปรับแสงลดลงโดยอัตโนมัติเพื่อเน้นรูปภาพให้เด่นขึ้น
สนนราคา 34,990 บาท อาจฟังดูแพงสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าในสายทำงานแบบจริงจังแล้ว ถ้ามาพินิจพิเคราะห์ให้ดีอาจไม่แพงอย่างที่คิด เพราะมีทั้งปากกาสไตลัส หน้าจอทัชสกรีน ฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ หน้าจอแบบพับได้ 360 องศา มาครบขนาดนี้ ดูยังไงก็ไม่ต่ำกว่าสองหมื่นแน่ๆ เมื่อบวกกับสเปค i5 Gen10, แรม 8 GB, SSD 512 MB แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้
สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นจุดอ่อนอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของการใช้ปากกา คือการที่วางฝ่ามือลงไปบนหน้าจอเพื่อใช้ปากกาออกแบบหรือวาดเขียน แต่กลับค้นพบว่า หากยกมือขึ้นแล้วข้อมือหรือด้านข้างของฝ่ามือนั้นมีส่วนใดส่วนหนึ่งอยู่ที่บริเวณขอบหน้าจอหรือด้านข้าง จะกลายเป็นว่าเราไปกดเรียกเมนูอื่นที่ไม่ต้องการขึ้นมาในระหว่างที่กำลังวาด ซึ่งทำให้เกิดการขัดจังหวะระหว่างที่วาดเพลิน และทำให้อารมณ์เสียได้ (เพราะในระหว่างที่จับปากกาไม่ควรมีสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการวาดโผล่ออกมาสิ จริงมั้ย?)
อาจเป็นเพราะปุ่มปากกานั้นถูกออกแบบมาให้กดง่าย ออกแรงกดนิดเดียวก็กดติดแล้ว จึงทำให้กลายเป็นข้อเสียไปโดยปริยายในเวลาที่เราถือปากกาอยู่แต่ไม่ได้ตั้งใจกดมันลงไป เพราะปุ่มปากกานั้นอยู่ในบริเวณที่นิ้วโป้งโอบจับพอดี ทำให้คนที่จับปากกาแล้วประสบปัญหานี้อาจต้องเปลี่ยนท่าทางในการจับปากกาเพื่อเลี่ยงปัญหาดังกล่าว และอาจกลายเป็นว่าจับไม่ถนัดมือแทน
ผู้เขียนมองว่า การพกพาอุปกรณ์ที่สามารถวาดเขียนไว้กับตัว สิ่งหนึ่งที่คนซื้อต้องการย่อมเป็นความสะดวกในการใช้งานเป็นจุดประสงค์หลักในการเลือกซื้อ ซึ่งผู้เขียนพบว่าการที่เปิดมาแล้วไม่สามารถยกมาเขียนได้เลยทันทีถือเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งที่สังเกตได้ตอนที่พกพาไปลองนอกบ้าน (ปกติผู้เขียนชอบพก iPad ไว้ทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว) ซึ่งเราต้องผ่านการกดปุ่มที่ทาสก์บาร์เสียก่อน จึงจะสามารถเรียกใช้ไวท์บอร์ดมาเขียนได้
ถึงแม้ว่าหน้าเว็บไซต์และตัวเครื่องจะมีสติ๊กเกอร์นำเสนอฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์หลักของเครื่อง แต่เมื่อถึงเวลาใช้งานจริงกลับไม่โดดเด่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะ Dell CinemaColor ที่เวลาเราอยากใช้ฟีเจอร์ไหน ต้องเรียกใช้โปรแกรมมาปรับเอง
ส่วน Dell CinemaSound นั้น ถึงแม้จะออกแบบลำโพงได้ดีเพราะความโค้งมน ที่เวลาวางเครื่องแล้ว ลำโพงจะไม่แนบสนิทไปกับโต๊ะจนทำให้เสียงขาดหาย และมีเสียงดังพอที่จะเปิดภายนอกสถานที่ แต่มิติของเสียงแน่นอนว่ายังสู้ลำโพงโดยเฉพาะไม่ได้ และไม่เหมาะกับการเปิดเสียงดังมากๆ เพราะอาจมีอาการเสียงแตกได้
ผู้เขียนทดสอบโดยการนำมาวางไว้บนตักระหว่างการใช้งาน (ใส่กางเกงยีนส์) ค้นพบว่าอาจไม่สะดวกในการใช้ทำงานโดยการวางไว้บนตักสักเท่าไหร่ เนื่องจากแล็ปท็อปดังกล่าวมีความร้อนค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าพิมพ์งานทั่วไป หรือพับเครื่องมาเขียนจะแค่อุ่นๆ แต่ถ้าใช้งานการประมวลผลที่ค่อนข้างหนัก เช่นการทำงานด้านกราฟฟิก จะค่อนไปทางร้อน โดยเฉพาะเวลาเสียบชาร์จไฟที่ร้อนจนเอามือจับเพื่อเคลื่อนย้ายแทบไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครใช้งานที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายไปมาบ่อยๆ ควรหาพัดลมระบายอากาศสำหรับแล็ปท็อปสแตนด์บายรอไว้ด้วย
บริเวณที่เป็นช่องรูพรุนระบายอากาศจะมีความร้อนสูงมาก
ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดอีกเรื่องคือการสะท้อนแสงของหน้าจอ ถ้าหากใครกังวลในเรื่องนี้ นี่อาจเป็นจุดที่คุณต้องกลับมาคิดทบทวนให้ดีอีกครั้ง เพราะการสะท้อนแสงของจออยู่ในระดับที่เรียกว่าเสียสายตาได้เลย เนื่องจากแสงของแล็ปท็อปเวลาใช้งานภายนอกก็สว่างไม่เพียงพอจะสู้แสงอาทิตย์อยู่แล้วเป็นทุนเดิม หน้าจอยังสะท้อนแสงทำให้มองยากกว่าเดิมอีกต่างหาก แต่ถ้าใครไม่ได้เน้นใช้งานนอกสถานที่ ข้อนี้จะไม่เป็นปัญหาอะไร
เนื่องจากแล็ปท็อปรุ่นนี้ชูจุดขายอยู่ที่ฟังก์ชันการใช้งานแบบครบเครื่องทั้งทำงานเอกสาร ออกแบบ วาดเขียน ดูหนัง และฟังเพลง ดังนั้นถ้าใครชอบแบบฟังก์ชันครบๆ ก็จัดมาใช้ได้เลย คุ้มค่ากับการทำงานแบบครบครันที่ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมมากมาย จะหยิบมาพิมพ์งานหรือหยิบมาวาดเขียนตามไอเดียและความคิด ก็สามารถทำได้ดีในแล็ปท็อปเครื่องนี้เครื่องเดียว
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |