25 หนังคริสต์มาส ที่จะทำให้คริสต์มาสของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

25 หนังคริสต์มาส ที่จะทำให้คริสต์มาสของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส ใครหลายต่อหลายคนอาจจะมีกิจกรรมพิเศษที่จะทำกับในเทศกาลนี่อย่างแน่นอน แต่เราขอเสนออีกหนึ่งทางเลือกคือค่ำคืนแห่งการดูหนังนั่นเอง การนั่งอยู่บ้าน ล้วงป๊อปคอร์น กินโกโก้ร้อน มันก็คือความสุขเล็กๆ ของค่ำคืนหนึ่ง เพราะนี่คือ 25 หนัง (แต่อาจมีหลายภาค) คริสต์มาสที่ทางเราอยากแนะนำให้ได้ดูกัน มีทั้งอนิเมชั่นสุดซึ้ง คอเมดี้แสนฮา รวมไปถึงระทึกขวัญ-สยองขวัญ สั่นประสาท! และคริสต์มาสของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

1. หนัง Home Alone (ค.ศ. 1990)

ถ้าพูดถึงหนังคริสต์มาสแล้ว ชื่อหนังเรื่องนี้ต้องผุดขึ้นมาแน่นอน ใครหลายคนก็อาจจะคุ้นเคย และเคยดูอยู่ไม่ภาคใดก็ภาคหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังยอดฮิตประจำเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้ ดังมากๆ กับเรื่องราวที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Macaulay Culkin ในบทบาทของ Kevin โดยจะเป็นเรื่องราวที่เขาต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง และต้องเตรียมรับมือ เผชิญหน้ากับโจรที่จะบุกเข้ามาในบ้านของเขา 

ความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ส่งให้มันเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา Best Music, Original Song และ Best Music, Original Score และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา Best Motion Picture - Comedy or Musical และ Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Comedy or Musical (Macaulay Culkin)

2. หนัง Love Actually (ค.ศ. 2003)

อีกหนึ่งหนังในดวงใจประจำเทศกาลของใครอีกหลายคน และติดโผลิสต์หนังคริสต์มาสจากหลากหลายสำนัก กับหนังโรแมนติกฟิลกู้ดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น กับเรื่องราวความรักหลายหลายรูปแบบ หลายคู่ แถมยังมีฉากที่น่าจดจำอีกมากมายจากเรื่องนี้ ถ้าใครอยากหาหนังรักดีๆ สักเรื่องดู Love Actually ตอบโจทย์เทศกาลในทุกปีจริงๆ

การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการเข้าชิงลูกโลกทองคำ 2 สาขา กับ Best Motion Picture - Comedy or Musical และ Best Screenplay - Motion Picture

3. หนังรักแห่งสยาม (ค.ศ. 2007)

มาที่หนังไทยกันบ้าง กับเรื่องราวความรักที่แสนอบอุ่นไม่แพ้เรื่องไหนๆ เลย ทั้งเพลงเพราะ เนื้อเรื่องดี และบรรยากาศเก่าๆ ที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นจริงๆ แถมยังกินใจและโดนตัวอย่างหลอกด้วย! เป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่เราชอบ เรียกได้ว่าเรื่องนี้พอดูแล้ว อยากออกไปเดินเล่นรับบรรยากาศหนาวๆ (หรอ?) เดินดูไฟที่สยาม เซ็นทรัลเวิร์ลเลยทีเดียว

4. หนัง Elf (ค.ศ. 2003)

เรื่องราวของเอลฟ์ตัวหนึ่งนำแสดงโดย Will Ferrell ที่เติบโตมามีลักษณะผิดแปลกไปจากคนอื่นนิดหน่อย คือเขาตัวใหญ่ มีลักษณะเหมือนมนุษย์มากกว่าเอลฟ์ทั่วไป (ก็ไม่นิดนะ) เขาจึงออกเดินทางตามหาตัวตนที่แท้จริงของเขามายังมหานครนิวยอร์ก และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับพ่อแท้ๆ ของเขา แม่ใหม่ และน้องชายที่ไม่เชื่อเรื่องคริสต์มาส ทำให้เขาต้องมาสร้างความสุขให้กับครอบครัว และทำให้น้องชายกลับมาเชื่อในเรื่องคริสต์มาสอีกครั้งหนึ่ง หนังเทศกาลแห่งรอยยิ้มที่แท้จริงเลยแหละ

5. หนัง Fred Claus (ค.ศ. 2007)

รู้หรือไม่? ว่าซานตาคลอสมีน้องชาย 555 ฟังแค่นี้ก็ฮาแล้ว เพราะนี่คือเรื่องราวของน้องชายสุดไม่เอาอ่าวของซานตาคลอสที่ต้องมาอยู่ที่ขั้วโลกเหนือเพื่อช่วยงานพี่ชายของเขา แค่นั่นก็ทำให้เรื่องนี้ป่วน วุ่นวายและฮาแบบสุดๆ ยิ่งได้ Vince Vaughn เล่นด้วยแล้ว คุณคงนึกภาพออกนะ ว่าเรื่องนี้จะสนุกแค่ไหน

6. หนัง Four Christmases (ค.ศ. 2008)

ยังอยู่กับนักแสดงอย่าง Vince Vaughn มารับบทคู่กับ Reese Witherspoon ที่เป็นเรื่องราวสุดป่วน เมื่อช่วงเทศกาลคริสต์มาส ต้องเป็นวันรวมญาติ แต่คู่รักคู่นี้ พ่อแม่ของแต่ละคนแยกกันอยู่และไปมีครอบครัวใหม่กันหมด เลยทำให้ทั้งคู่ต้องไปงานคริสต์มาสทั้ง 4 บ้านให้ทันภายในคืนเดียว! มันจึงกลายมาเป็นเรื่องวุ่นวายที่แสนสนุกเรื่องนี้แหละ

7. หนัง The Santa Clause 1-3 (ค.ศ. 1994, 2002, 2006)

แค่ชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคริสต์มาสแน่นอน เพราะนี่คือหนังไตรภาค กับเรื่องราวของซานตาคลอสมือใหม่แสดงโดย Tim Allen ที่บังเอิญได้เป็นซานตาเพราะตัวจริงประสบอุบัติเหตุ แต่เขาก็ค่อยๆ กลายเป็นซานตาทีละเล็กละน้อย มีหนวดขึ้น มีเคราขึ้น อ้วนขึ้น และก็ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาในอีกหลายภาคเลยทีเดียว ไหนจะต้องแต่งงานให้ทันเวลา ไหนจะต้องปกป้องวันคริสต์มาสจากวายร้ายอย่าง Jack Frost อีก เรียกว่าดูเพลิน

8. หนัง Christmas with the Kranks (ค.ศ. 2004)

หนังนำแสดงโดย Tim Allen (อีกแล้ว) กับเรื่องราวโค-ตะ-ระ ฮา ของคนที่ไม่สนใจวันคริสต์มาสอย่าง Kranks และภรรยาของเขา ทั้งคู่วางแผนจะหนีเทศกาลหนีไปเที่ยว แต่แล้วก็ต้องอด เพราะลูกสาวของพวกเขากลับมา เขาจึงต้องจัดปาร์ตี้คริสต์มาสให้ดีที่สุดก่อนที่ลูกสาวเขาจะกลับมา หนังเบาสมองมาก เฮฮาตลอดทั้งเรื่อง ใครไม่เคยดู ต้องห้ามพลาดเลย

9. หนัง Jingle All the Way (ค.ศ. 1996)

จะเป็นอย่างไรเมื่อคนเหล็กอย่าง Arnold Schwarzenegger ต้องมาพลิกบทบาทเล่นหนังคอเมดี้ครอบครัว? หนังเรื่องนี้แหละคือคำตอบ กับบทบาทคุณพ่อแสนดี ที่ตามหาของขวัญสุดพิเศษให้ลูกชาย แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อของขวัญชิ้นนั้นดันหมดตลาด ไม่ได้หากันง่ายๆ แต่ละคนต่างแย่งชินกันเป็นบ้าเป็นหลัง เรื่องราวความมันส์ แบบฮาๆ บวกความซึ้ง หล่อหลอมเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่คิดเหมือนกันแหะว่าเขาจะมาเล่นบทแบบนี้ 555

10. หนัง The Night Before (ค.ศ. 2015)

เราผ่านหนังอบอุ่นมาหลายเรื่องแล้ว มาถึงหนังคอเมดี้ติดเรทหน่อยๆ กับเรื่องนี้ดีกว่า เรื่องราวของเพื่อนซี้ 3 คน (Joseph Gordon-Levitt, Seth Rogen และ Anthony Mackie) ที่กำลังจะกลับมาฉลองคริสต์มาสร่วมกันแบบสุดเหวี่ยงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปมีครอบครัว มีงาน มีชื่อเสียง นี่จะเป็นคืนที่สุดเหวี่ยง สุดป่วน สุดวุ่นวายคืนหนึ่งในชีวิตพวกเขา ถ้าไม่ชอบหนังอบอุ่นโรแมนติค แต่อยากอยากได้แนวเฮฮา ติดเรท เรื่องนี้ตอบโจทย์มากมาย

11. หนัง Bad Santa (ค.ศ. 2003)

ต่อกันที่เรื่องนี้ มันไม่ใช่หนังแนวครอบครัว แต่เป็นหนังแนวตลกติดเรทเช่นกัน กับเรื่องราวของสองหัวขโมย ที่ปลอมตัวเป็นซานตาคลอสและเอลฟ์ ขโมยของในห้าง แต่ดันมาเจอเด็กคนหนึ่ง ที่ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไป ต้องบอกเลยว่าไม่เหมาะกับเด็กอย่างยิ่ง! และหนังเรื่องนี้การแสดงของ Billy Bob Thornton ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขา Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Comedy or Musical ด้วยนะเอ้อ

12. หนัง Rare Exports: A Christmas Tale (ค.ศ. 2010)

เบื่อไหม? หนังแนวครอบครัว เฮฮา อบอุ่น ตลก ลืมเรื่องราวพวกนั้นไปได้เลย เพราะนี่คือหนังซานตาคลอสแนวสยองขวัญ! กับเรื่องราวตามตำนานของฟินแลนด์ ที่ซานตาคลอสน่ากลัว!!! นั่นแหละคือแนวคิดของหนังเรื่องนี้ เพราะนี้เป็นเรื่องราวของนักโบราณคดีที่ขุดเจอกับซานตาคลอส โดยมีเรื่องราวลึกลับเกิดขึ้น เมื่อเด็กทยอยหายตัวไปทีละคน และทั้งหมดนั้นโยงไปหาซานตาคลอส

13. หนัง Krampus (ค.ศ. 2015)

นี่คือหนังที่สร้างมาจากอีกหนึ่งตำนาน กับเรื่องราวของปีศาจร้ายที่จะปรากฏมาในวันคริสต์มาส เพราะมันจะมาหาเฉพาะเด็กที่เกเร แล้วจะโดนเฆี่ยนอย่างโหดร้าย ก่อนโดนจับไป โดยในเรื่องนี้จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับสองครอบครัวที่มีปัญหากัน และไม่เชื่อเรื่องคริสต์มาส นั่นจึงเป็นที่มาของปีศาจร้ายตัวนี้ 

14. หนัง Die Hard (ค.ศ. 1988)

มาถึงหนังที่หลุดแปลกแหวกแนวกว่าเรื่องอื่นๆ เหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่หนังสยองขวัญอย่าง 2 เรื่องที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับซานตาคลอส แต่เรื่องนี้ก็ถูกยกให้เป็นหนังประจำเทศกาลคริสต์มาส กับหนังแอ็คชั่นที่เป็นตำนานเป็นที่มาของบุรุษตายยาก John McClane รับบทโดยพระเอกขาบู๊ Bruce Willis เมื่อเขาต้องมาร่วมงานเลี้ยงคริสต์มาส แต่ดันมีคนร้ายจ้องเล่นงานอยู่ ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวความมันส์ตลอดทั้งเรื่อง บู๊ แอ็คชั่น ยิงปืนสนั่นท่ามกลางหิมะ เนี่ยแหละหนังแอ็คชั่นต้อนรับคริสต์มาสอย่างแท้จริง

การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการเข้าชิงรางวัลออสการ์ 4 สาขา Best Sound, Best Film Editing และ Best Effects, Sound Effects Editing กับ Best Effects, Visual Effects

15. หนัง Gremlins (ค.ศ. 1984)

นี่คือหนังสุดยอดจินตนาการ กับเรื่องราวของสัตว์เลี้ยงน่ารักตัวนึง เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นนึงที่พ่อไปได้มาจากร้านขายของเก่าและนำมาให้ลูก มันเป็นสัตว์เลี้ยงหน้าตาน่ารักน่าชังและมีกฏการเลี้ยงมันง่ายๆ ภายใต้กฏ 3 ข้อ 

1. ห้ามโดนแสง
2. ห้ามโดนน้ำ
3. ห้ามให้อาหารหลังเที่ยงคืนเป็นอันขาดไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ตาม

และแน่นอนว่าตัวเด็กที่เลี้ยงรักษากฏไม่ได้เลี้ยงยุ่งๆ วุ่นๆ เลยเกิดทันที เพราะสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารักกลายเป็นปีศาจร้ายแสนน่ากลัว 

และความนิยมของเรื่องนี้ส่งให้มันกำลังจะมีซีรีส์อนิเมชันภาคย้อนต้นในชื่อว่า Gremlins: Secrets of the Mogwai มีทั้งหมด 10 ตอน ตอนละครึ่งชม. เรื่องราวของ Sam Wing ในวัย 10 ปี ผู้ที่ในอนาคตกลายมาเป็นเจ้าของร้านขายของเก่า Mr. Wing ในปีค.ศ. 1984 เราจะได้เห็นว่าเขาได้เจอกับตัว Mogwai ที่เรียกมันว่า Gizmo ได้อย่างไร พร้อมกันนั้นเราจะได้เห็นเรื่องราวการผจญภัยของเขาและผองเพื่อนผ่านแถบชนบทในจีนเผชิญหน้ากับสัตว์ในเทพนิยายต่างๆ มากมาย เพื่อภารกิจที่จะนำ Gizmo คืนสู่ครอบครัวที่แท้จริง โดยJon Dante ผู้กำกับหนังต้นฉบับจะรับหน้าที่ให้คำปรึกษาในอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

16. หนัง The Nightmare Before Christmas (ค.ศ. 1993)

อนิเมชั่นกับคริสต์มาสต่างก็เป็นของคู่กัน และนี่คืออนิเมชั่นคริสต์มาสที่เราชอบที่สุดในลิสต์นี้แล้ว ผลงานจากการรังสรรค์ของ Tim Burton ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้นำเมืองฮาโลวีน เมื่อผู้นำเมืองฮาโลวีน คิดจะแย่งงานของซานคาตลอส อนิเมชั่นให้ข้อคิด กับภาพที่สวยงามกับตัวละครที่มีสเน่ห์ หากใครไม่เคยดู จงไปหามาดูซะเดี๋ยวนี้ 

เข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 สาขา Best Effects, Visual Effects และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 1 สาขา Best Original Score - Motion Picture

17. หนัง The Polar Express (ค.ศ. 2004)

อีกหนึ่งอนิเมชั่นภาพ (โค-ตะ-ระ) สวย ผลงานการกำกับของ Robert Zemeckis ที่ร่วมกับนักแสดงคู่บุญ Tom Hanks กับเรื่องราวสุดซาบซึ้งที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องราวของเด็กผู้เฝ้ารอซานตาคลอส แต่คืนหนึ่งเขากลับได้พบกับรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสู่ขั้วโลกเหนือ ที่อยู่ของซานตาคลอสนั่นเอง การผจญภัย กับหลากหลายเหตุการณ์ที่เขาต้องเจอ เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นวัยเด็กและความฝันของเราที่เคยมี ว่าตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ไหน อนิเมชั่นที่ไม่ว่าดูกี่รอบ ก็ยังกินใจอยู่ดี 

งานคุณภาพเข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 สาขา Best Achievement in Sound Editing, Best Achievement in Sound Mixing และ Best Achievement in Music Written for Motion Pictures, Original Song แถมยังเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 1 สาขา Best Original Song - Motion Picture

18. หนัง A Christmas Carol (ค.ศ. 2009)

อนิเมชั่นเกี่ยวกับเรื่องราวของชายแก่ผู้หนึ่งที่ไม่ชอบวันคริสต์มาสและตัวคนเดียว เขาได้มาเจอกับภูมิแห่งคริสต์มาสทั้ง 3 ตน ที่จะพาเขาไปสู่การเดินทางที่เขาไม่อยากรับรู้ และสอนให้เขาเรียนรู้สิ่งที่ทำพลาดมาตลอด มันจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอด นี่อนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยข้อคิดและคติเกี่ยวกับชีวิตมากมาย (ไม่รู้ทำไมแค่ดูโปสเตอร์เรื่องนี้โดยไม่ต้องฟังเสียง ก็รู้ว่าเป็น Jim Carry โดยปริยาย 555)

19. หนัง Arthur Christmas (ค.ศ. 2011)

อนิเมชั่นที่สนุก และดูเพลินสุดๆ กับเรื่องราวของชายหนุ่ม (ให้เสียงพากย์โดย James McAvoy) ที่สงสัยในทุกๆ อย่างรวมถึงการส่งของขวัญของซานตาคลอส ว่าเขาส่งของขวัญให้เด็กทั่วโลกทันได้ยังไงในคืนเดียว เพราะเขามีเหลาผู้ช่วย รวมทั้งพี่น้องอีกหลายคนเป็นกองทัพคอยช่วยส่งของยังไงหล่ะ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อเกิดความผิดพลาด ลืมส่งของขวัญไปให้เด็กหนึ่งคน ด้วยความที่ซานตาคลอสไม่สนใจ ทำให้ Arthur ลูกคนสุดท้องของตระกูลซานตาคลอส ต้องไปส่งของขวัญชิ้นนี้ด้วยตัวเองให้ทันก่อนจะสายเกินไป เราจะได้เห็นเรื่องราวการผจญภัย เพื่อกอบกู้คริสต์มาสครั้งนี้ รับรองสนุกแน่นอน

เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขากับ Best Animated Feature Film

20. หนัง Rise of the Guardian (ค.ศ. 2012)

เรื่องราวการปกป้องวันคริสต์มาสของเหล่าเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 5 ซานตาคลอส/North (Alec Baldwin), กระต่ายอีสเตอร์/Bunny (Hugh Jackman), นางฟ้าฟัน/Tooth (Isla Fisher), มนุษย์น้ำแข็ง/Jack Frost (Chris Pine), มนุษย์ทราย เขาต้องปกป้องเด็กๆ จากฝันร้ายนามว่า Pitch (Jude Law) เราจะพบกับความสนุก แอ็คชั่น กับภาพสวยเพลินตา รวมถึงการดีไซน์ตัวละครแต่ละตัวออกมาได้สวยงาม มีสไตล์ โดยเฉพาะซานตาคลอส เท่มากกกกกกก อีกทั้งพระเอกอย่าง Jack Frost หล่อสาวหลงกรี๊ดกร๊าดเลยทีเดียว

การันตีคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา Best Animated Feature Film

21. หนัง The Grinch (ค.ศ. 2018)

นี่คือหนังอนิเมชันจากค่าย Illumination ที่นำหยิบมาทำใหม่อีกครั้งจากหนังในอดีต How the Grinch Stole Christmas (ค.ศ. 2000) ที่แสดงนำโดย Jim Carrey ซึ่งในฉบับหนังอนิเมชันนี้ตัวเอกให้เสียงพากย์โดย Benedict Cumberbatch

กับเรื่องราวของเจ้าตัวเขียวที่อยู่ตัวเดียวสันโดดกับหมาของเขาบนเทือกเขาเหนือเมืองที่สงบสุข เขาคือคนที่เกลียดวันคริสต์มาสแบบเข้าไส้ ด้วยปมบางอย่างในใจ เขาจึงคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมา โดยมีไอเดีย “ขโมยคริสต์มาส” และความสุขจากเมืองแห่งนั้น

ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ทำรายได้แซงหน้าแชมป์เก่าหนังประจำเทศกาลคริสต์มาสอย่าง Home Alone (ค.ศ. 1990) ขึ้นเป็นหนังประจำวันคริสต์มาสที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลไปแล้ว

22. หนัง Klaus (ค.ศ. 2019)

เป็นหนังอนิเมชั่นเกี่ยวกับคริสต์มาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปีค.ศ. 2019 ที่เข้าฉายทาง Netflix เข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 สาขากับสาขาอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)

ดูง่าย สนุก เศร้า ซึ้ง ครบรสมาก ภาพก็สวย เพลงก็เพราะ ได้แนวคิดอะไรมากมายสุดๆ

เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของ Santa ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไปจากเรื่องอื่นๆ เพราะในเรื่องนี้คุณลุงของเขาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ทำของเล่นทุกอย่างด้วยมือ ด้วยความตั้งใจ

หนังดำเนินผ่านชายคนหนึ่งลูกเจ้าของกิจการไปรษณีย์ ได้โดนสั่งไปดัดนิสัยในเมืองที่ห่างไกลและหนาวเหน็บ โดนมีเงื่อนไขว่าต้องทำให้คนเมืองนี้ส่งจดหมายให้ถึงเป้าให้ได้ และนั่นทำให้เขาไปเจอกับ Klaus และเรียนรู้ถึงความหมายของคำว่าคริสต์มาส

23. หนัง Last Christmas (ค.ศ. 2019)

หนังคริสต์มาสส่งท้ายปีค.ศ. 2019 บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้ประสบอุบัติเหตุเมื่อคืนวันคริสต์มาสปีก่อน และหลายๆ อย่างในชีวิตเธอก็เริมแปลกไป จนกระทั่งเธอได้มาพบกับชายหนุ่มผู้ดูเลิศเลอเพอร์เฟ็ค ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มก่อตัวขึ้น และชีวิตของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง

นี่อาจเป็นหนังเพลินๆ ดูไม่ซับซ้อน เข้าใจไม่ยาก ไม่ได้หวานจนเลี่ยน ซึ้งจนน้ำตาไหล หรือดราม่าจนร้องไห้ และเดาง่ายสุดๆ แต่ก็ยังได้เห็นความน่ารัก โก๊ะๆ เปิ่นๆ ของ Emilia Clarke และเคมีของคู่นักแสดงสุดหล่ออย่าง Henry Golding 

24. หนัง The Christmas Chronicles 1-2 (ค.ศ. 2018, 2020)

หนังเบาสมอง น่ารัก อมยิ้ม กับหนังที่ฉายใน Netflix เมื่อสองพี่น้องตั้งใจจะถ่ายวิดีโอตอนซานตาคลอสมา แต่เรื่องมันมีปัญหาตรงที่ พวกเขาดันเจอจริงๆ และแอบขึ้นรถเลื่อนซานตาคลอส จนทำให้รถพังและของหล่นไปทั่วเมือง ทำให้พวกเขาสามคนต้องร่วมมือกันกอบกู้คริสต์มาสครั้งนี้

ส่วนในภาคสองเหล่าเด็กๆ ในภาคแรกก็ได้เติบโตขึ้นมา และเผชิญหน้ากับปัญหาครั้งใหม่ ทำให้พวกเขาต้องไปร่วมมือกับซานต้า เอลฟ์และคุณนายแซนตี้ เพื่อปกป้องคริสต์มาสอีกครั้ง ถึงแม้หนังมันจะเรื่อยๆ แต่สนุกมากจริงๆ

ซึ่งในภาค 2 นี้ อาจเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายของ Kurt Russell ผู้รับบท Santa Claus

25. หนัง Holidate (ค.ศ. 2020)

เรื่องราวของสาวฟรีแลนซ์และหนุ่มโปรกอล์ฟที่ต่างเกลียดเทศกาลวันหยุดเป็นอย่างมาก แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาทั้งสองมาเจอกันและเกิดไอเดียว่าทั้งสองน่าจะเป็นคู่เดตกันในวันหยุดเนอะ ทำให้ความรู้สึกจากที่จะเป็นแค่คู่เดตคบกันเล่นๆ ในวันหยุด กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ก่อตัวเพิ่มขึ้น 

เปิด Netflix ดูเพลิน ผ่อนคลาย สบายอารมณ์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแบบสุดๆ

สรุป 20 หนังคริสต์มาส

ก็จบไปแล้วกับ 20 หนังคริสต์มาส ที่ดูยาวๆ ได้ถึงปีใหม่เลย จริงๆ มันก็มีอยู่เยอะแหละ เยอะมากจริงๆ ทั้งอนิเมชั่นเอย หนังต่างๆ เอย เรียกได้ว่าทำผลิตเข็นกันออกมาได้ทุกเทศกาลเลยทีเดียว อาจจะตรงใจบ้างไม่ตรงใจบ้างก็ขออภัยด้วย เพราะนี่คือความเห็นส่วนตัวล้วนๆ แต่ถ้าหากใครมีหนังเรื่องอื่นๆ ก็สามารถแนะนำกันเข้ามาได้เลย ขอให้สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคร้าบบบทุกท่านนนนน