Alita: Battle Angel | 5 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Alita

Alita: Battle Angel ผลงานแอ็คชั่นไซฟาย แนวสตรีมพังก์ โปรเจคจากผู้อำนวยการสร้าง Avatar อย่าง James Cameron จรดปากกาเขียนบทและรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างด้วยตัวเอง และยกหน้าที่ผู้กุมบังเหียนให้กับ Robert Rodriguez ที่เคยฝากผลงานการกำกับสุดมันส์ไว้ในเรื่อง Sin City

หนังจะเกี่ยวข้องกับ Alita (รับบทโดย Rosa Salazae) สาวไซบอร์กที่ถูกค้นพบในกองขยะโดย Dr. Dyson Ido (Christoph Waltz) นักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถพิเศษในด้านเทคโนโลยีไซบอร์ก เขาได้นำ Core ของเธอไปใส่ไว้ในหุ่นที่เขากำลังพัฒนาให้กับลูกสาวที่เป็นอัมพาตช่วงล่างของเขา ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป Alita จึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในร่างใหม่ ในภาวะที่สูญเสียความทรงจำ จำไม่ได้แม้ตัวเองเป็นใคร

ในตอนแรกเนี่ย ผมอยากให้ตัวละครนำเป็นผู้หญิงที่ดูทรงพลัง แข็งแรงอย่าง Sarah Connor ในคนเหล็ก หรือ Ellen Ripley ในเอเลี่ยน แต่มีตอนจบที่หักมุมครั้งใหญ่ พวกเธอเป็นตัวละครที่เป็นมนุษย์มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ที่มาค้นพบจิตวิญญาณของนักสู้ในตอนหลัง แต่ในเรื่องนี้เธอเป็นนักสู้อยู่แล้วและไปค้นพบว่าตัวเองมีหัวจิตหัวใจทีหลัง

- Robert Rodriguez

ในบทความนี้เราจะมาวอร์มอัพ เตรียมตัวก่อนไปดูหนังเรื่องนี้กันสักหน่อย กับ “Alita: Battle Angle | 5 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Alita”

1. มังงะชื่อดัง

Alita: Battle Angel ดัดแปลงมาจากมังงะของญี่ปุ่นเรื่อง เพชฌฆาตไซบอร์ก หรือในชื่อญี่ปุ่นถูกเรียกว่า Ganmu (กันมุ) โดยคำว่า "Gun" ที่แปลว่า "ปืน" ของภาษาอังกฤษ และคำว่า "มุ" ภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ความฝัน"

เป็นผลงานของ Yukito Kishiro ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Business Jump ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ในช่วงปี 1991-1995 และลิขสิทธิ์ในไทยเป็นของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ มีทั้งหมดจำนวน 9 เล่มด้วยกัน โดยตัวละครที่ชื่อ "Alita" จะใช้เรียกในประเทศโซนตะวันตกซะส่วนใหญ่ ส่วนในโซนตะวันออก รวมถึงไทยจะใช้ชื่อตัวเอกว่า "กัลลี่"

James Cameron และอดีตผู้อำนวยการสร้างคู่หูของเขาอย่าง Jon Landau ได้ไปที่ญี่ปุ่นเพื่อขอทำลิขสิทธิ์เรื่องนี้จาก Yukito Kishiro ด้วยตัวเองเลยทีเดียว โดยในโปรเจคนี้พวกเขาทั้งคู่ได้รายงานความคืบหน้าของหนังเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ รวมถึงตัว Yukito Kishiro ยังเคยบินมาดูที่กองถ่ายด้วยตัวเองเช่นกัน

นับเป็นเกียรติสำหรับผมที่ Cameron ได้เป็นผู้อำนวยการสร้างให้กับหนังเรื่องนี้ ผมยังรักที่ Robert Rodriguez มากำกับหนังเรื่องนี้ ผมชื่นชมงานของเขา มันยอดเยี่ยมมากที่เป็นเขา หนังเรื่องนี้มันบ้าเกินกว่าที่ผมจินตนาการไว้เสียอีก

- Yukito Kishiro

Cameron ต้องการที่จะให้หนังเรื่องนี้ออกมาให้เหมือนในมังงะมากที่สุด โดยเฉพาะองค์ประกอบ ฉาก หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น Motorball จะมาอยู่ในหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน

2. โปรเจคที่ยาวนาน

จริงๆ แล้ว Cameron ได้ทำหนังเรื่องนี้มานานกว่า 15 ปี แต่งานก็ล่าช้าเพราะเขาต้องไปทำหนังเหล่ามนุษย์ตัวฟ้าที่ถูกเรียกว่า Smurf เอ้ยไม่ใช่ Avatar สิ เขาได้ให้บทกว่า 180 กว่าหน้า และโน้ตอีก 600 กว่าแผ่น แก่ Rodriguez เพื่อแปลงมันเป็นสคริปท์ แต่เขาก็ทำมันสำเร็จจน Cameron พอใจ จึงได้ฤกษ์เริ่มถ่ายทำกันในปี 2017 จนได้ในที่สุด

3. Motion Capture ขั้นสุด!

เราได้เห็นความสวยงามกับ CG ขั้นเทพไปแล้วในหนังเรื่อง Avatar จึงไม่ต้องห่วงเลยว่า Alita มันจะออกมายอดเยี่ยมแค่ไหน โดยตัวละครของ Alita เป็นการผสมระหว่างภาพกราฟฟิคและการทำ Motion-Capture เหมือนกับตัวละครอย่าง Neytiri จาก Avatar หรือ Ceasar จาก Planet of the Apes

โดย Salazar ได้บอกว่าการทำ motion-capture เป็นความท้าทายอันดับต้นๆ ของหนังเรื่องนี้เลย

ทั้งชุด, แบตเตอรี่ ทุกๆ อย่าง รวมถึงหมวกที่มีไมค์ติดอยู่ นั่นมันทำให้ฉากจูบยากขึ้นมาหน่อย 555 แต่มันยกระดับการแสดงของคุณไปเลยนะ มันทำให้คุณรู้สึกว่าคุณมีความสามารถในการทำอะไรได้มากขึ้น 

แน่นอนว่าเธอต้องใส่ชุดแบบนี้ตลอดทั้งการถ่ายทำ และฉากใต้น้ำที่เราเห็น รวมถึงการต่อสู้ในโลกใต้ดิน นั่นคือ 2 วันแรกที่ Salazar เข้ากองถ่ายเท่านั้น

4. Alita ตาโต

ขนาดตาที่โตของ Alita ได้มีการพูดถึงกันอย่างมาก แต่นั่นเป็นสิ่งที่ James Cameron ต้องการ เพราะเขาอยากจะรักษาดีไซน์ของตัวละครของ Kishiro เอาไว้

โดยผู้กำกับอย่าง Rodriguez บอกไว้ว่า

คนดูได้เห็นดวงตาของเธอในแบบฉบับมังงะและอนิเมะมาแล้ว แต่พวกคุณยังไม่เคยเห็นดวงตาของ Alita ในรูปแบบของเรียลริสติก จริงๆ James Cameron รู้จักดวงตาดีกว่าใครๆ แน่นอน พวกเราได้เรียนรู้มันอย่างมากจาก Avatar

5. ยิงน้อย เน้นฟัน!

James Cameron ได้เรียกหนังอย่าง Terminator ไว้ว่าเป็นหนัง “Guns Movie” หรือหนังยิงปืน และเขาบอกว่า Alita คือหนัง “Swords movie” หนังฟันกัน

Alita มีร่างที่เป็นอาวุธอยู่ในตัว ทั้งแข็งแกร่ง, ว่องไว และคงทน แถมเธอยังมีดาบไว้ใช้ต่อสู้ด้วย รวมถึงหุ่นไซบอร์กที่มีใบมีดอยู่ที่นิ้วที่สามารถยืดออกไปได้ แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าหนังเน้นการต่อสู้ประชิดตัวแน่นอน

เรื่องราวในหนังจะเริ่มตั้งแต่จุดกำเนิดของ Alita เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 เมื่อ ดร. อิโดะ ได้ไปพบเข้ากับชิ้นส่วนหัวและลำตัวของไซบอร์คสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนเดียวที่เป็นมนุษย์คือสมอง แต่เธอก็สูญเสียความทรงจำทั้งหมด ดร. อิโดะ จึงซ่อมแซมร่างกายเธอ และเธอจำได้เพียงอย่างเดียวคือทักษะการต่อสู้หายากที่ถูกเรียกว่า พันเซอร์คุนซ์ เธอจึงใช้ความสามารถนั้น เป็นทั้งนักล่า และนักรบ เพื่อต่อสู้กับเหล่าอาชญากร มาร่วมรับชมมหากาพย์การผจญภัย แอ็คชั่น ไซไฟ โลกไซเบอร์พั้ง กับการค้นหาตัวตนที่หายไปของ Alita ได้ใน Alita: Battle Angel