เมื่อปี 2018 หลายคนคงได้ดู Avengers: Infinity War แล้วรู้สึกค้างคาและอยากดูต่อกันแบบทันทีแน่นอน เพราะในตอนจบหลังจากที่ Thanos ได้ดีดนิ้วทำให้คนสลายหายไปครึ่งจักรวาล ทั้งเหล่าฮีโร่รวมถึง Nick Fury ด้วย แต่ก่อนเขาจะหายไป เขาได้ขอความช่วยเหลือจากคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮีโร่หญิงอย่าง Captain Marvel
แน่นอนว่าอีกไม่นานนี้เรากำลังจะได้ดูหนังเดี่ยวฮีโร่หญิงคนแรกของ MCU ซึ่งดูเหมือนตัวละครตัวนี้จะมีความสำคัญมากๆ ใน Avengers: Endgame เธอยังได้รับการขนานนามว่าเป็นฮีโร่ที่โคตรทรงพลังที่สุดในจักรวาล MCU เลยทีเดียว โดยในหนังจะเล่าข้ามถึงจุดกำเนิดตัวละครไป หนังจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่เธอมีพลังอยู่แล้ว และได้เข้าร่วมกับเหล่าทหารชาว Kree ที่ถูกเรียกว่า Starforce เพราะฉะนั้นเราจะมาคลายความสงสัยกันในคลิปนี้ ว่าแต่เธอคือใคร มาจากไหน และมีพลังอะไร ในคลิปนี้เรามาทำความรู้จักกับ Captain Marvel กันดีกว่าครับ
แต่ก่อนอื่นเราจะมาทำความเข้าใจกับชื่อ Captian Marvel กันสักหน่อยก่อนดีกว่า
ซึ่ง Captian Marvel เนี่ยแต่เดิมไม่ใช่ทั้งของ Marvel และ DC แท้จริงแล้วคือชื่อเรียกตัวละคร Shazam มันถูกตีพิมพ์โดยค่าย Fawcett Comics
โดยปรากฏตัวครั้งแรกในคอมิกส์ Whiz Comics #2 ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1940 แต่ในปีเดียวกันนั้นมีตัวละครที่ดังกว่าอย่าง Superman จึงทำให้ทาง DC ฟ้องว่า “ก๊อป Superman นี่หว่า” แล้วท้ายที่สุด DC ก็ชนะ ทำให้ Captain Marvel หยุดตีพิมพ์ในปี 1953 และในภายหลังลิขสิทธิทั้งหมดของ Captian Marvel ก็ตกเป็นของ DC ไปโดยปริยาย
จนกระทั่งในปี 1972 ทาง DC ก็ได้มาตีพิมพ์เรื่องราวของ Captian Marvel ใหม่ แต่มันเกิดเรื่องตลกขึ้น เมื่อทาง Marvel บอกว่า “เห้ย จะใช้ชื่อนี้ไม่ได้ ผมใช้มาก่อน” เพราะทาง Marvel ได้ตีพิมพ์คอมิกส์ที่ชื่อเรื่องว่า Captain Marvel ขึ้นมาในปี 1967 นั่นเท่ากับว่ามันถูกตีพิมพ์ก่อน DC จริงๆ DC จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น Shazam! และเปลี่ยนความสามารถบางอย่างและใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ในฉบับคอมิกส์นั้น Captain Marvel เธอมีชื่อจริงว่า Carol Susan Jane Danvers เป็นลูกสาวของพ่อหม้าย Joe Danvers อดีตเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือของสหรัฐฯ ที่มีลูกชาย 2 คน ก่อนที่จะมาพบรักกับ Mari-Ell สาวชาว Kree ที่ Joe ได้ช่วยเหลือเอาไว้ ภายหลังได้แต่งงานและให้กำเนิด Carol ขึ้นมา โดยอีกชื่อเธอจะถูกเรียกว่า Car-Ell ซึ่งแปลว่า Champion ในภาษา Kree
เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวแถมยังเด็กที่สุดในบรรดาเหล่าพี่น้องของเธอ พ่อของเธอเหยียดเพศแบบสุดๆ และมองว่าเพศชายกับเพศหญิงไม่มีวันเท่าเทียมกัน เมื่อโตขึ้นถึงวัยที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยปัญหาทางการเงิน ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องเลือกที่จะให้ลูกๆ เข้ามหาลัยได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และแน่นอน Carol ไม่ใช่หนึ่งในตัวเลือกด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเธอจะได้เกรดที่สูงกว่าก็ตาม
ด้วยเหตุนั้นพอเธออายุ 18 ปี เธอจึงสมัครเข้ากองทัพอากาศสหรัฐ และเธอทำมันได้ดีมากๆ เธอเป็นที่หนึ่งของชั้น และในทุกๆ ด้าน จนได้รับปริญญาจากโรงเรียนกองทัพอากาศสหรัฐ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปเยี่ยมครอบครัวเนื่องจากพี่ชายของเธอเสียชีวิต แต่ถึงกระนั้นพ่อเธอก็ยังไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย เธอกลับมายังกองทัพอากาศและใต่เต้าเป็นนักบินได้ในที่สุดและมีรหัสเรียกขานว่า "Chessburger"
ต่อมาเธอได้เข้าร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพอากาศ เธอได้ร่วมปฏิบัติภารกิจมากมาย และได้ร่วมทำงานกับหลากหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Logan (Wolverine), Benjamin Grimm (Thing) และ Nick Fury
ด้วยความสามารถที่เก่งกาจและยอดเยี่ยมของเธอ ทาง NASA ได้เสนอให้เธอเข้าไปรับหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย และเธอก็ตอบรับ ทำให้เธอเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ในช่วงเวลานั้นทำให้เธอได้พบและตกหลุมรักกับทหารชาว Kree อย่าง Captain Marvel (Mar-Vell) และในช่วงเวลานั้นคือจุดเริ่มต้นการให้กำเนิดพลังของเธอ เมื่อเธอโดนวายร้ายนามว่า Yon-Rogg ลักพาตัวไป ทำให้ Mar-Vell ต้องไปช่วยเธอ และในระหว่างที่ต่อสู้กัน เครื่องมือของวายร้าย Psyche-Magnitron ได้เกิดทำงานผิดพลาด จนเกิดระเบิดขึ้น และส่งผลโดยตรงมาสู่ Carol ทำให้ยีนของเธอไปผสมกับ Mar-Vell และได้รับพลังเหนือมนุษย์มา แต่เธอยังไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้จนหลายเดือนต่อมา
และจากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอโดนไล่ออกจาก NASA ด้วยความโกรธจากการโดนไล่ออกนั้น เธอจึงเขียนหนังสือตีพิมพ์เปิดโปงความลับของ NASA จนกลายเป็นหนังสือขายดิบขายดีและกลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงไปเลย ภายหลังเธอได้ไปสมัครงานที่สำนักพิมพ์ Daily Bugle ทำให้เธอได้เป็นบรรณาธิการนิตยสาร Woman Magazine ในระหว่างนั้นพลังของเธอก็ได้ตื่นขึ้น ทุกครั้งเมื่อมีอันตรายเธอจะสลบไปและกลายมาเป็นนักรบชาว Kree โดยทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมาเธอจะจำไม่ได้ว่าเธอใช้พลังออกไปปกป้องโลก แต่ต่อมาเธอก็รับรู้และตั้งชื่อให้ตัวเองว่า Ms. Marvel
หลังจากนั้นเธอก็ช่วยเหลือผู้คนในฐานะ Ms. Marvel มาโดยตลอด เธอได้ทำงานร่วมกับ Spider-Man, The Defenders หรือแม้กระทั่ง Avengers มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอได้เจอกับ Captain Marvel อีกครั้ง
ทำให้เธอรู้สึกว่าชุดของเธอคล้ายกับเขาเกินไป เธอจึงเปลี่ยนแปลงชุดของเธอใหม่เป็นชุดสีดำที่มีสายฟ้าตรงกลาง
ในระหว่างนั้นเธอได้พบประสบเจอปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะถูกหลอกไปข่มขืนและทำให้ท้องโดย Marcus เอย
สูญเสียพลังไปให้กับ Rogue จนต้องไปอยู่กับ X-men เอย
โดนเหล่าเอเลี่ยนที่ถูกเรียกว่า Brood จับตัวไปเป็นเหยื่อทดลองซึ่งมันไปกระตุ้นยีนที่อยู่ในตัวของเธอก่อให้เกิดพลังมหาศาลระดับคอสมิกขึ้น เธอมีพลังสูงมากกว่าตอนที่เป็น Ms. Marvel เสียด้วยซ้ำ แล้วในช่วงนั้นเธอได้ใช้ชื่อว่า Binary
เธอได้หมดความรู้สึกอาลัยอาวรต่อโลกด้วยปัญหาต่างๆ มากมาย เธอกลับมาหาเหล่า X-men แต่ก็พบว่า Rouge ที่เคยทำเธอเกือบตายและความจำเสื่อมได้มาอยู่ด้วย เธอจึงโมโห ออกไปอาศัยอยู่นอกโลกและได้ไปอยู่ร่วมกับกลุ่ม Star Jammer
เธอท่องอวกาศนานอยู่หลายปี ก่อนจะเสียพลังไปกับการช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่กระทบต่อโลกลง เธอได้มาพักฟื้นที่ Avengers Mansion จนเธอได้พลังกลับมาและขนานนามตัวเองว่า Warbird แต่เธอก็มีปัญหาทางด้านอารมณ์ ติดเหล้าอีกต่างหาก จนในที่สุดเธอก็ได้ออกจาก Avengers ไป
หลังจากนั้นเธอได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ House of M โลกที่ถูก Scarlet Witch บิดเบือนทำให้มนุษย์กลายพันธ์ครองโลก, เข้าร่วม Civil War และได้กลับมารวมทีมกับเหล่า Avengers อีกครั้ง
Captain Marvel คนแรกได้จากโลกนี้ไปแล้วและกลายเป็นเพียงตำนาน หลังจากเหตุการณ์เสียสละเพื่อช่วยเผ่าพันธ์ตัวเองและโลกเอาไว้จาก Phoenix Force พลังอันตรายระดับ Cosmic ที่จะทำให้โลกสูญพันธ์ ทำให้ภายหลังเธอได้เปลี่ยนชุดสีดำของเธอให้คล้ายของ Captain Marvel เพราะเธอตระหนักว่าเขามีความหมายต่อเธอมากๆ
ใน Captain Marvel (2012) #1เป็นการปรากฏตัวในชุดใหม่ของเธอครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่เธอเปลี่ยนชื่อจาก Ms. Marvel เป็น Captain Marvel นั่นก็เพราะว่ามีฉากหนึ่งหลังจากที่เธอได้ร่วมต่อสู้กับกัปตันอเมริกา เขาได้บอกกับเธอว่าเธอควรใช้ชื่อนี้นะ เขาคงอยากให้เธอใช้มัน และนั่นทำให้ Carol รำลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ จนสุดท้ายเธอก็สานต่อตำนานให้ยังมีชีวิตและปกป้องโลกต่อไปในฐานะ Captain Marvel
ในด้านพลังและความสามารถของเธอนั้น เรียกได้เลยว่าตอนนี้เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีพลังมากๆ ตัวหนึ่งเลยในคอมิกส์ และในจักรวาล MCU ก็คงไม่น้อยไปกว่ากัน อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Marvel อย่าง Kevin Feige
เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่นิยมมากๆ ในคอมิกส์ เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีพลังมากที่สุดในคอมิกส์เช่นกัน และเธอ จะ เป็นตัวละครที่มีพลังมากที่สุดในจักรวาล MCU ด้วย
ซึ่งคำว่าจะในที่นี้เธออาจจะยังไม่ได้มีพลังมากที่สุดในตอนนี้ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่
- เรื่องแรกเลยคือเธอบินได้ เธอบินเร็วกว่าเสียงถึง 3 เท่า เธอสามารถบินได้ทุกที่แม้กระทั่งในอวกาศโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย (แต่ต้องเป็นในร่างของ Binary)
- เธอมีพลังเหนือมนุษย์ ทั้งแข็งแกร่ง ทนทาน ไม่ว่าจะกระสุน หรือสภาพอากาศที่ร้อนสุดหรือเย็นสุดก็ตาม คล่องแคล่ว และตอบสนองที่รวดเร็วเหนือมนุษย์
- เธอมีสัมผัสที่ 7 (ไม่ใช่เรื่องผีแต่อย่างใด) แต่มันจะคอยเตือนถึงอันตรายๆ ต่างๆ รอบตัว ได้อย่างรวดเร็ว
- เธอสามารถดูดซับพลังงานต่างๆ มาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองได้ แม้กระทั่งระเบิดนิวเคลียร์เธอก็สามารถดูดซับได้เช่นกัน
- เธอสามารถยิงลำแสงโปรตอนที่รุนแรงออกมาจากปลายนิ้วเธอได้อย่างสบายๆ
- นอกเหนือจากนั้นเธอยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
- แถมเธอยังสามารถมีชีวิตรอดได้โดยไม่ต้องกิน ต้องนอน หรือต้องพักเลยแม้แต่น้อย
ด้วยพลังที่เทพขนาดนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Captian Marvel ถึงเป็นตัวละครหลักที่สำคัญมากๆ ในจักรวาล MCU และยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าใน Avengers: Infinity War ทำไม Nick Fury ถึงเรียกหาเธอ! ซึ่งเธอจะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อกรกับ Thanos ใน Avengers: Endgame อย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าเหล่าตัวละครใน Endgame อาจถึงเวลาต้องตายหายไปและส่งต่อให้รุ่นใหม่ โดยอาจมี Captian Marvel ปูทางนำไปสู่เหล่าฮีโร่รุ่นต่อไปก็เป็นได้
และนั่นคือเหตุผลที่ Captain Marvel จะเข้าฉายก่อน Avengers: Endgame นอกจากมันจะเป็นฮีโร่หญิงเดี่ยวๆ เต็มๆ เรื่องแรกของ Marvel ที่ต้องมีบ้าง เดี๋ยวจะน้อยหน้า Wonder Woman ของค่ายคู่แข่ง แล้ว มันก็ยังทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวละครตัวนี้มากขึ้นกว่าเดิมก่อนไปชมใน Avengers: Endgame
มีอีกหนึ่งตัวละครที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยจริงๆ และเราได้เห็นตัวละครนี้แล้วจากในตัวอย่าง นั่นก็คือเจ้าแมวส้มตัวนี้ ด้วยความน่ารักน่าชังของมัน หลายๆ คนที่ได้ดูรอบทดลองฉายมาต่างก็บอกว่าเจ้าแมวนี้มันตัวขโมยซีน แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่แมวนะ มันคือเอเลี่ยนหน้าขน!
ในฉบับคอมิกส์นั้น Captain Marvel ได้เลี้ยงแมวไว้ตัวนึง เธอตั้งชื่อให้มันว่า Chewie เพราะทำให้เธอนึกถึงตัวละครชื่อดัง Chewbacca จาก Star Wars โดยเธอเชื่อว่ามันคือแมวปกติทั่วๆ ไป
เมื่อ Carol เดินทางไปนอกอวกาศ เธอก็เอามันไปด้วย จนกระทั่งเธอไปเจอกับเหล่า Guardians of the Galaxy เจ้า Rocket Racoon ก็รู้ทันทีเลยว่าเจ้าแมวตัวนี้มันคือ Flerken. Flerken คือเอเลี่ยนสายพันธ์อันตรายสายพันธ์หนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายกับแมวบนโลกมนุษย์ จนทำให้ Rocket พยายามไล่ฆ่ามัน แต่ Carol ห้ามไว้ซะก่อน เพราะเธอยังเชื่ออยู่ว่ามันก็แค่แมวธรรมดาเท่านั้น
จนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Chewie ก็เผยธาตุแท้ว่าตนเองเป็น Flerken เพราะมันวางไข่เป็นร้อยฟองเลยทีเดียว! แถมมันยังฟักออกมาเป็นลูกแมวยั้วเยี้ยเต็มยานไปหมด ลูกของ Chewie มีถึง 117 ตัว ในภายหลังเธอจึงตัดสินใจนำพวกมันทั้งหมดไปฝากไว้ที่สูญกู้ภัยในอวกาศ เพื่อที่มันจะได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างปลอดภัยและมีความสุข แต่สุดท้ายแล้ว Chewie ก็วาร์ปกลับมาหา Carol อยู่ดี แล้วให้ลูกแมวอยู่อย่างปลอดภัยที่ศูนย์กู้ภัยแห่งนั้นอย่างแฮปปี้ เมี้ยว
พลังของมันคือมันเป็น Pocket Dimension หรือ กระเป๋ามิติ เหมือนโดเรม่อนนั่นแหละ มันจะเก็บหลายๆ สิ่งในจักรวาลไว้ในมิติที่อยู่ในตัวมันนี่แหละ แถมมันยังเอาออกมาใช้ได้อีกด้วย ดั่งฉากนึงในคอมิกส์ที่มันปล่อยหนวดปลาหมึกออกมาได้ แถมมันยังใช้ความสามารถนี้ทำหน้าที่เป็นประตูมิติเดินทางข้ามจักรวาลได้ด้วย
โดยในหนังจะเปลี่ยนจากชื่อ Chewie เป็นชื่อ Goose ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในหนังเครื่องบินรบสุดคลาสสิคอย่าง Top Gun
“ฉันไม่ได้มาเพื่อร่วมรบในสงคราม แต่ฉันจะมายุติมัน” Captian Marvel จะบอกเล่าเรื่องราวของ Carol Danvers หรือที่เรารู้จักกันในนาม Captain Marvel ฮีโร่ที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดในจักรวาล MCU ผ่านเรื่องราวในยุค 90’s กับการปกป้องโลกจากสงครามระหว่าง Kree และ Skull เราจะได้เห็นเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ของ Marvel ก่อน Captian America จะเป็นอิสระจากน้ำแข็ง ก่อน Tony Stark จะประดิษฐ์ชุด Iron Man เราจะได้เห็นทั้ง Nick Fury วัยหนุ่ม ที่มีตาครบทั้งสองข้าง และแน่นอน เจ้าเอเลี่ยนหน้าขน Goose เตรียมตัวพบกับฮีโร่หญิงแกร่งสุดทรงพลังได้ใน Captian Marvel
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |