ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 9,105
เขียนโดย :
0 %E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%8C+%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%21+%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

A: เย็นนี้กินไรดี?

B: บุฟเฟ่ต์ปะหล่ะ?

ประโยคสนทนาที่เรามักจะถูกเชิญชวน (หรือบางครั้งเป็นคนชวนเสียเอง) เวลาหิวและไม่รู้จะกินอะไรดี บุฟเฟ่ต์ ก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเสมอๆ ในช่วงวันว่าง วันหยุด หรือตอนเย็นของสักวัน ไม่ว่าจะเป็นหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ฯลฯ แต่นอกจากเรื่องการกินแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "บุฟเฟ่ต์" มันก็ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่เป็นการนัดรวมตัวของกลุ่มเพื่อนเพื่อมาสังสรรค์กันนั่นแหละ

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?

"บุฟเฟ่ต์" เป็นการกินอาหารรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถกินได้ทุกเพศ ทุกวัย (บ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ 555) แต่กินไปกินมา บ่อยครั้งก็เกิดความสงสัยเล็กๆ ถึงปานกลางอยู่ในใจว่า 

กินบุฟเฟ่ต์มันคุ้มจริงหรอวะ?

แล้วถ้ากินปกติกับบุฟเฟ่ต์แบบไหนมันคุ้มค่ากว่ากันหว่า?

แน่นอนว่าคำถามเหล่านั้น หลายๆ คนก็คงจะมีคำตอบที่แตกต่างกันอยู่แล้วหล่ะ และเราจะมาลองมองดูในแต่ละมุมมองกันสักหน่อยว่ามันเป็นยังไง แต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น มันก็มีอีกหนึ่งคำถามใหญ่ๆ ที่ชวนสงสัยไม่แพ้คำถามอื่นเลย นั่นก็คือ...

บุฟเฟ่ต์ มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

เชื่อกันว่า บุฟเฟ่ต์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสวีเดนในช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งในยุคนั้นเป็นยุครุ่งเรืองของ ไวกิ้ง เมื่อใดก็ตามที่ชาวไวกิ้งกลับมาจากการออกไปปฏิบัติภารกิจอะไรบางอย่าง ก็จะมีการจัดทำอาหารที่เรียกว่า brännvinsbord (แบรน-วินซบอด) หรือมีความหมายว่า Table of Spirits ที่แต่ละคนก็สามารถเลือกหยิบกินกันตามสบาย หรือเรียกอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า "บริการตนเอง" ประกอบไปด้วยอาหารหลายๆ ประเภท เช่น ขนมปัง, เนย, ชีส, เนื้อ, ปลารมควัน แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยบนโต๊ะอาหารนี้ก็คือ Vodka หรือชาวสวีเดนรู้จักกันในนาม Brännvin

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?
บุฟเฟ่ต์แบบ brännvinsbord

ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 ชาวสวีเดนได้มีการกินอีกรูปแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า smörgåsbord (ซมอ-กัซบอด) ซึ่งการกินรูปแบบนี้จะเป็นอาหารก่อนมื้อเย็นหลัก (pre-dinner) มักจะเสิร์ฟให้กับผู้ที่หิวโหยมาหลังจากเดินทางไกลๆ มีทั้งอาหารเย็นและอาหารร้อน มักจะประกอบไปด้วย ไข่, ผัก, ผลไม้ เป็นต้น แต่มันก็ไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?
บุฟเฟ่ต์ smörgåsbord (ซมอ-กัซบอด)

อาหารในรูปแบบนั้นกลายเป็นประเพณีของประเทศสวีเดนไปโดยปริยาย และมันก็เริ่มมาโด่งดังในช่วงปี 1912 ที่การแข่งขันกีฬา Stockholm Olympic Games ในเมืองนั้นมีการเสิร์ฟอาหารแบบ smörgåsbord สำหรับผู้คนที่เดินทางมาดูการแข่งขันที่ประเทศสวีเดน 

หลังจากเริ่มโด่งดังในปี 1939 ในงาน World's Fair ที่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีร้านอาหารร้านนึงที่ชื่อว่า Three Crowns ได้เสิร์ฟอาหารในรูปแบบ smörgåsbord จนได้รับความสนใจแก่แขกผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ก่อนที่ภายหลังจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Herb McDonald และนำการกินแบบนี้มาสู่อเมริกา

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?
บุฟเฟ่ต์แบบ smörgåsbord ในงาน World's Fair ที่ New York ปี 1939

Las Vegas ช่วงปี 1945 เป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของเมืองแห่งแสงสี ได้มี casino/resort แห่งหนึ่งได้เปิดให้บริการชื่อว่า El Rancho Vegas ณ ตอนนั้น Herb McDonald ก็ได้ทำงานอยู่ในสถานที่แห่งนั้น และได้นำขนมปังกับชีสออกมาที่บาร์ และทำแซนวิชกิน ผ่านไปไม่นานก็มีเหล่านักพนันมากหน้าหลายตาต่างอยากมาร่วมกินด้วย เจ้าตัวเลยปิ๊งไอเดียเลยทำอาหารแบบชาวสวีเดนออกมาเสิร์ฟซะเลย และมันก็โด่งดังภายในเวลาไม่นาน จนกลายเป็นต้นกำเนิดการกินแบบ all-you-can-eat ที่เปิดแบบ 24 ชั่วโมงแห่งแรกในอเมริกาภายใต้ชื่อ Buckaroo Buffet โดยจุดประสงค์หลักคือการที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาพักและเล่นพนันนานเท่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

เดิมที่คำว่า บุฟเฟ่ต์ (Buffet) หมายถึงเฟอร์นิเจอร์ชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นตู้ที่เรียกว่า Slideboard ของชาวฝรั่งเศส และด้วยความโด่งดังของการเสิร์ฟอาหารของชาวสวีเดน ก็ลามไปจนถึงประเทศฝรั่งเศส โดยในประเทศฝรั่งเศสก็ได้ใช้โต๊ะ Buffet ในการเสิร์ฟอาหารแบบชาวสวีเดน จนในที่สุดคำว่า บุฟเฟ่ต์ ก็ถูกเรียกเป็นรูปแบบการกินอาหาร แบบบริการตนเอง และ All-you-can-eat มาจนถึงทุกวันนี้ไปโดยปริยาย

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?
ตู้ Buffet (Slideboard)


บุฟเฟ่ต์ คุ้มหรือไม่?

อย่างที่บอกในตอนแรกว่าคำตอบนี้แต่ละคนตอบไม่เหมือนกันแน่นอน มันขึ้นอยู่กับว่าความ "คุ้ม" ของคุณคืออะไร?

เห้ย กินเยอะๆ เว้ย จะได้คุ้ม!

มาเริ่มด้วยคำว่า "ปริมาณ" ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบกินอาหารมากๆ กินแบบเยอะๆ แบบไม่จำกัดว่ากินเท่าไหร่ก็ได้ แบบที่ร้านอาหารทั่วไปไม่สามารถให้คุณได้ เช่น คุณกินอาหารจานนึงราคา 100 บาท แต่คุณรู้สึกอยากกินอีกจนต้องจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท แต่พอคุณไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ต้องจ่ายราคา 200 บาท แต่กินได้เยอะกว่าร้านอาหารปกติที่ราคา 100 บาท นั่นคงจะมองได้ง่ายๆ ว่า คุ้ม!!! เรียกง่ายๆ ว่า กินในปริมาณที่มากกว่าที่คุณจ่ายไปนั่นแหละ

[เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย] รู้หรือไม่ว่าบุฟเฟ่ต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่ไหน? คำตอบคือ...ไทย เนี่ยแหละ

ทาง Guinness World Records ได้บันทึกสถิติ Largest buffet (บุฟเฟ่ต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ซึ่งความใหญ่ที่สุดในโลกในที่นี้ประกอบไปด้วย อาหารกว่า 5,829 เมนู จัดขึ้นโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เกาะสมุย ภายใต้งาน Samui Festival ณ วันที่ 9 กันยายน 2017 เพื่อเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวในจังหวะนี้ และที่สำคัญงานนี้ฟรี! ได้ทั้งหลากหลายและอิ่มหนำสำราญอย่างแน่นอน

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?

มีคำที่หลายๆ คนอาจจะได้เห็นบ่อยๆ นั่นก็คือ "ความสุขคือการกิน" แน่นอน การได้กินอะไรอร่อยๆ ได้กินของที่ชอบ มันก็เป็นการสร้างความสุขอยู่แล้ว แต่เมื่อความสุขเราถึงจุดที่เรียกว่า อิ่ม เราก็จะไม่สามารถสร้างความสุขจากการกินต่อไปได้อีก เพราะถ้าคุณกินจนเกินคำว่าอิ่ม เชื่อว่าความสุขคงลดลงเป็นแน่แท้ และแน่นอนว่าถ้าอิ่มเกินไป ก็ยิ่งทุกข์เข้าไปใหญ่ จะเกิดเป็นฉากดราม่า รู้สึกผิดกับตัวเองทันที 

โอย ไม่น่ากินเยอะเลย อ้วน  อิ่ม ทรมาน จุก

พอเป็นแบบนั้นก็จะส่งผลให้รู้สึกว่ามันเป็นการกินที่เกินพอดี (Overeat) ไปซะหน่อย จึงส่งผลให้กลายเป็น "ทุกข์" และหนักหน่อยก็ส่งผลให้รู้สึกว่าการที่เรากินแล้วเป็นแบบนี้มัน "ไม่คุ้ม" เอาซะเลย 

คนเราใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่สมองจะส่งสัญญาณเตือนไปว่าคุณอิ่มแล้ว และเมื่อคุณกินมันต่อไปคุณจะเกิดอาการที่เรียกว่า (Overeating) กินมากเกินพอดี

คำกล่าวในงานวิจัยของ Erma Levy ที่สถาบัน MD Anderson

แต่ถ้ามองกันในอีกแง่นึง ถ้าคำว่า "คุ้ม" มันไม่ใช่ "ปริมาณ" หล่ะ? แต่ความคุ้มของบางคนเป็น "ความหลากหลาย" 

กินบุฟเฟ่ต์ร้านนี้เหอะ ได้กินหลากหลายดีว่ะ

ในกรณีนี้ก็ค่อนข้างจะมองง่ายกว่า กรณีแรกนิดนึง ตรงที่จุดประสงค์ในการกินมันไม่ใช่เข้าไปเพื่อเน้น "ปริมาณ" ให้กินได้เยอะๆ แต่ไปกินเพราะอยากได้ความ "หลากหลาย" ซึ่ง คนประเภทนี้แน่นอนหล่ะว่าจะไม่เลือกร้านหมูกระทะที่มีอยู่สามแบบ ไม่จำกัดเวลา หรือร้านบุฟเฟ่ต์ไก่ทอดแน่นอน แต่จะต้องเลือกร้านที่แบบมีความหลากหลายทางชนิดอาหาร เช่น บุฟเฟ่ต์โรงแรมเป็นต้น 

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?


ดังนั้น "คุ้มไม่คุ้ม" ก็อยู่ที่ว่าคุณเลือกที่จะกินบุฟเฟ่ต์ด้วยเหตุผลอะไร "ปริมาณ" หรือ "หลากหลาย" และคำตอบของคำถามนี้สำหรับบางคนก็อาจจะเปรียบเสมือนการตั้งชื่อเพลงของวง Getsunova "ปริมาณในความหลากหลาย" ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็แปรผันกับเงินที่คุณเสียไปด้วย ไม่ว่าจะได้เหตุผลอะไรก็ตามคุณพอใจที่จะจ่ายจนคิดว่าคุ้มกับการกินหรือเปล่าหล่ะ ? ถ้าใช่ ยังไงก็ "คุ้ม"

บุฟเฟ่ต์ คุ้มจริง! หรือคิดไปเอง?

เอาล่ะ พูดไปตั้งนานชักจะหิวละ...เรามาร่วมกันสานต่อโครงการที่ตั้งใจทำไว้ดีกว่ากับ "อายุน้อยร้อยโล"

ป่ะ กินบุฟเฟ่ต์กั๊น!!!


ที่มา : en.wikipedia.org , www.foodandwine.com , www.guinnessworldrecords.com , www.thebalancesmb.com , prbendel.blogspot.com , ameliafreer.com , findery.com , www.taylandhaber.com , giphy.com , www.grubstreet.com , impressionsfurniture.com.au

 

0 %E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%8C+%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%21+%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :)
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
24 สิงหาคม 2562 21:28:34
GUEST
Comment Bubble Triangle
พิสูจน์อักษร
Serve คนไทยเราไม่ได้อ่านออกเสียงว่า เซิร์ฟ (เสียงตรี) นะคะ แต่อ่านออกเสียงว่า เสิร์ฟ (เสียงเอก) ค่ะ

รบกวนผู้เขียนบทความแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
26 สิงหาคม 2562 10:47:19
Profile Pictureสมาชิก : Member
Comment Bubble Triangle
แก้ไขละครับ เขียนผิดพลาดเองครับ ขออภัยด้วย
 
 


 

รีวิวแนะนำ