ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 4,835
เขียนโดย :
0 %E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

8 Days a week ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเพลงของวง The Beatles แต่มันเคยเป็นเรื่องจริงในระยะเวลาหนึ่งของชาวกรีกมาก่อน เพราะตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ พวกเขาใช้การนับวันแบบ Nundinae Cycle ที่จะแบ่งวันในสัปดาห์ได้ทั้งหมด 8 วัน โดยนับเป็นวันที่ A-H และในทุกๆ วันที่ 8 (วันสุดท้ายของอาทิตย์) จะถือว่าเป็นวัน nundinæ หรือวันจ่ายตลาด แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากเกิดสงครามกับอียิปต์ ชาวโรมันก็ได้ซึมซับเอาวัฒนธรรมการนับวันมาจากชาวอียิปต์ จนกระทั่งค.ศ. 321 Constantine ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้ปฏิทินของชาวกรีกอย่างถาวรจนสุดท้ายแล้วก็ยกเลิกการนับวันแบบ Nundinae Cycle ไปเป็นการนับ 7 วันต่อสัปดาห์เหมือนๆ กันกับที่อื่นทั่วโลก

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

ภาพจาก : https://www.wikiwand.com/en/Roman_calendar

ในช่วงแรกนั้นเราใช้การนับวันตามตัวอักษรภาษาอังกฤษจาก A-H (สำหรับการนับ 8 วันต่อสัปดาห์) และการใช้ตัวเลขแทนวันต่างๆ และถึงแม้ว่าชื่อของวันต่างๆ นั้นไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามันเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาใด แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวบาบิโลนนั้นคาดว่าอาจเริ่มขึ้นราว 23 ปีก่อนคริสตกาล โดยชื่อของวันต่างๆ ในสัปดาห์มีจุดเริ่มต้นมาจากชื่อเทพเจ้าของกรีกโรมัน และเทพ Pagan หรือเทพนอร์ส เพราะในช่วงก่อนที่จะมีศาสนาเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ คนส่วนมากนับถือพระเจ้ามาก่อน จึงตั้งชื่อวันต่างๆ ในสัปดาห์ตามชื่อเทพเจ้าที่พวกเขาเคารพนั่นเอง

ทำไมชื่อวันในภาษาอังกฤษถึงดูไม่เหมือนภาษาอังกฤษเท่าไรนัก?

นอกจากวันอาทิตย์ (Sunday), วันเสาร์ (Saturday) และวันจันทร์ (Monday) ที่ดูจะมีความหมายคล้ายคลึงกับชื่อดาวเคราะห์ต่างๆ แล้ว ชื่อเรียกวันอื่นๆ ภายในสัปดาห์ก็ดูไม่เหมือนชื่อดาวเคราะห์และเหมือนจะไม่มีความหมายใดๆ เลย นั่นเป็นเพราะในช่วงแรกภาษาอังกฤษได้รับอิทธิพลมาจากภาษาเยอรมันเป็นส่วนมาก ทำให้ชื่อวันต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิมนั้นแตกต่างจากภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันนั่นเอง

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

ภาพจาก : https://clickonenglish.blogspot.com/2017/03/origin-of-days-of-weeks-names.html

วันอาทิตย์ (Sunday) มาจากคำในภาษาอังกฤษดั้งเดิมว่า Sunnandæg มีความหมายว่าวันของพระอาทิตย์ (Sun’s Day) โดยตั้งตามชื่อของเทพแห่งดวงอาทิตย์ในตำนานนอร์สที่มีชื่อว่า Sunna หรือ Sól (ส่วนในตำนานกรีกคือเทพ Helios) แต่ในบางประเทศอย่างฮังการีนั้นเรียกวันอาทิตย์ว่า Vasárnap ที่แปลว่า วันแห่งการจ่ายตลาด (Market Day) คาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากโรมันในอดีต

วันจันทร์ (Monday) เราอาจคาดเดากันไปว่ามาจากการกร่อนคำจากคำว่า Moon Day เหลือเพียงแค่ Monday ซึ่งก็ไม่ผิดสักทีเดียว เพราะวันจันทร์ก็มีความหมายว่า Moon’s day หรือวันของดวงจันทร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วคำว่า Monday นั้นมาจากคำว่า Mōnandæg ในภาษาอังกฤษดั้งเดิม และมาจากชื่อของเทพแห่งดวงจันทร์ในตำนานนอร์สที่มีชื่อว่า Máni (น้องของ Sól เทพแห่งดวงอาทิตย์) ที่ในตำนานกรีกเรียกว่าเทพ Selenes

วันอังคาร (Tuesday) ที่ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับดาวอังคาร (Mars) เลย เพราะคำว่า Tuesday นั้นมาจากคำในภาษาอังกฤษดั้งเดิมว่า Tīwesdæg (Tiw's Day) ที่มาจากชื่อของเทพ Tiw หรือ Tyr ที่เป็นเทพเจ้าแห่งการต่อสู้ในตำนานนอร์ส แต่เมื่อเทียบกับตำนานกรีกโรมันแล้ว เทพ Tiw องค์นี้เปรียบได้กับเทพ Mars หรือที่เรียกกันในภาษากรีกว่าเทพ Ares นั้นถือเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามของโรมันนั่นเอง

วันพุธ (Wednesday) เองก็คล้ายกับวันอังคารเช่นกัน เพราะคำว่า Wednesday นั้นมาจาก Wōdnesdæg หมายถึงวันของเทพ Wōden (Wōden's Day) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเทพ Odin มหาเทพในตำนานนอร์ส ซึ่งชาวโรมันเองก็ถือว่าเทพ Wōden นั้นเทียบเคียงได้กับเทพ Mercury (Hermes) ในตำนานกรีกโรมันด้วยเช่นกัน

วันพฤหัสบดี (Thursday) ในส่วนของวันพฤหัสบดีนี้มีที่มาจากคำอังกฤษดั้งเดิมว่า Þūnresdæg หรือ Thor’s Day (วันของเทพธอร์) ที่เป็นเทพแห่งสายฟ้าในตำนานนอร์ส และสำหรับในตำนานกรีกโรมันนั้น Jupiter เป็นอีกชื่อหนึ่งของเทพซุส (Zeus) ที่เป็นเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าที่เป็นมหาเทพในตำนานกรีก

วันศุกร์ (Friday) มาจากคำในภาษาอังกฤษดังเดิมที่ว่า Frīgedæg มีความหมายว่า วันของเทพฟริกกา (Frigg's day) โดยตั้งตามชื่อของเทพแห่งความงามและความรักในตำนานนอร์สที่มีชื่อว่า Freya หรือ Frigg ส่วนในตำนานกรีกโรมันคือเทพ Venus หรือ Aphrodite

วันเสาร์ (Saturday) มาจากคำว่า Sæturnesdæg ที่แปลว่าวันของเทพแห่งดาวเสาร์ (Saturn’s Day) ซึ่งวันเสาร์นี้ค่อนข้างจะพิเศษกว่าวันอื่นๆ เนื่องจากในตำนานนอร์สนั้นไม่มีเทพเจ้าประจำวัน แต่จะใช้ชื่อแบบโรมันแทนซึ่งเทพ Saturn หรือเทพ Kronos นั้น ตามตำนานกรีกโรมันแล้วถือว่าเป็นบิดาของเทพกรีกโรมัน ทำให้กลายเป็นเทพองค์แรกแห่งตำนานกรีกไปด้วย ด้วยเหตุนี้แล้วชาวโรมันในสมัยก่อนจึงยกให้วันเสาร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ไปด้วย

วันเสาร์เป็นวันเริ่มต้นของสัปดาห์?

แม้ว่าหลายประเทศจะถกเถียงกันว่าวันแรกของสัปดาห์นั้นคือวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ แต่สำหรับประเทศอย่าง อัฟกานิสถาน, อัลจีเรีย, บาห์เรน, อียิปต์, อิหร่าน, อิรัก, จอร์แดน, คูเวต, ลิเบีย, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดิอาระเบีย, ซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรต และเยเมน นับว่าวันเสาร์เป็นวันแรกของสัปดาห์

จะสังเกตได้ว่าประเทศที่นับวันเสาร์เป็นวันแรกของสัปดาห์นั้นส่วนมากอยู่ในทวีปเอเชียกลางและแอฟริกาเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าเหตุผลที่ประเทศเหล่านี้นับว่าวันเสาร์เป็นวันแรกของสัปดาห์นั้นอาจเนื่องด้วยประเทศเหล่านี้ได้รับอิทธิพลมาจากบาบิโลนและอียิปต์ ถึงแม้ว่าจะในประเทศต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการนับวันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

ซึ่งนอกจากตามตำนานเรื่องลำดับการเกิดของเทพเจ้ากรีกโรมันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทฤษฎีที่ระบุว่าวันเสาร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ โดยอ้างมาจากชื่อของดวงดาวที่ชาวอียิปต์เรียกแทนชั่วโมงต่างๆ ภายในวันนั้นๆ ได้ดังนี้ ชั่วโมงแรก - ดาวเสาร์, ชั่วโมงที่ 2 - ดาวพฤหัส, ชั่วโมงที่ 3 - ดาวอังคาร, ชั่วโมงที่ 4 - ดวงอาทิตย์, ชั่วโมงที่ 5 - ดาวศุกร์, ชั่วโมงที่ 6 - ดาวพุธ, ชั่วโมงที่ 7 - ดวงจันทร์

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

ภาพจาก : https://infinity-codes.net/raah/_archive(infinity-codes)/earth-codes/7-day-week.html

และเมื่อถึงชั่วโมงที่ 8 ก็จะวนกลับไปที่ดาวเสาร์อีกครั้ง เช่นเดียวกับชั่วโมงที่ 15 และ 22 ตามรูปแบบนี้ ชั่วโมงที่ 23 จะเป็นดาวพฤหัส, ชั่วโมงที่ 24 คือดาวอังคาร และชั่วโมงแรกของวันใหม่จะเป็นดวงอาทิตย์ วิธีการนับแบบนี้ทำให้ชั่วโมงแรกของวันกลายเป็นชื่อวันนั้นๆ ทำให้วันเสาร์กลายเป็นวันแรกของสัปดาห์ ตามมาด้วยวันอาทิตย์, จันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี และศุกร์ ตามลำดับ

เรื่องของวันที่คุณอาจยังไม่รู้?

ภาพจาก : https://static.secure.website/wscfus/1810861/uploads/1-Ancient360DayCalendar.pdf

แต่ถึงแม้ว่าในช่วงแรกชาวอียิปต์จะนับวันแรกของสัปดาห์เป็นวันเสาร์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากที่ศาสนายูดาห์ถือกำเนิดขึ้น ชาวยิวก็ได้เปลี่ยนให้วันเสาร์เป็นวันสะบาโต (Sabbath) ที่ถือว่าเป็นวันพักผ่อนของพระเจ้าหลังจากสร้างโลกมาเป็นเวลายาวนานถึง 6 วัน ทำให้วันเสาร์กลายเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์แทน ซึ่งต่อมาเมื่อศาสนาคริสต์มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นก็กำหนดให้วันอาทิตย์กลายเป็นวันสะบาโต และเปลี่ยนให้วันจันทร์กลายเป็นวันแรกของการเริ่มสัปดาห์แทน

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วการนับวันเริ่มสัปดาห์ของแต่ละประเทศก็ขึ้นอยู่กับคนในพื้นที่นั้นๆ แต่หากยึดตามมาตรฐานสากล ISO 8601 แล้ว จะถือว่าวันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ แต่ถ้ายึดตามความคิดส่วนตัวของเราแล้วก็ยังอยากนับว่าวันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์อยู่ดี เพราะรู้สึกว่าจะได้มีวันพักผ่อนอีกวันก่อนเริ่มทำงานในวันจันทร์และจะได้มีวันหยุดอีกวันหนึ่งหลังจากทำงานติดต่อกันมา 5 วัน ในขณะที่บางคนก็นับว่าวันจันทร์เป็นวันเริ่มสัปดาห์เพราะคิดว่าหลังจากทำงานมา 5 วันแล้วจะได้พักผ่อนอีก 2 วัน ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนละนะ


ที่มา : www.seiyaku.com , www.livescience.com , www.sabbathherald.com , dayology.com , www.calendar.com , chartsbin.com , gizmodo.com

 

0 %E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่..
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น



 

รีวิวแนะนำ