“ชานม (Milk Tea)” น่าจะเป็นเครื่องดื่มในดวงใจของใครหลายคน ซึ่งกระบวนการทำนั้นไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่ ผสมนมสดเพิ่มลงไปในชา ก็จะได้ชานมที่เราชื่นชอบแล้ว และสำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมของการชงชานมนั้น Hervé This นักเคมีโภชนาการชาวฝรั่งเศสได้อธิบายว่าควรใช้ “นมที่อุณหภูมิห้อง” จึงจะดีที่สุด เพราะหากเป็นนมร้อน คุณค่าทางสารอาหารก็จะหายไปจากการนำเอานมไปอุ่นและทำให้ต้องรอให้อุณหภูมิของชาและนมในถ้วยลดลงก่อนที่จะดื่ม และหากเป็นนมที่แช่เย็นก็จะทำให้ชาร้อนเสียรสชาติและอุณหภูมิได้
แต่สำหรับกลุ่มคนที่จริงจังเรื่องการดื่มชาอย่าง ชาวอังกฤษ นั้นได้มีข้อ ถกเถียงกัน ถึงเรื่องกรรมวิธีการชงชานมว่า “ควรเติมนมลงในชา” หรือ “ควรเติมชาลงในนม” กันแน่ และว่าด้วยเรื่องกรรมวิธีการชงชานี้เองถึงกับมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันออกเป็นสองฝั่ง ได้แก่พวกที่ “ใส่นมก่อนชา (Milk In First - MIF)” และ “ใส่ชาก่อนนม (Tea In First - TIF)” กันเลยทีเดียว
ภาพจาก : https://www.bloomsbury-international.com/blog/2019/04/11/nation-tea-drinkers/
เพราะในขณะที่ทาง BSI หรือสถาบันมาตรฐานแห่งประเทศอังกฤษ (British Standards Institution) และ RSC หรือราชสมาคมเคมีแห่งประเทศอังกฤษ (Royal Society of Chemistry) ได้ออกมาอธิบายในประเด็นนี้ว่า การใส่นมลงในถ้วยก่อนแล้วจึงรินชาตามลงไป เป็นวิธีการดื่มชาแบบอังกฤษที่ดีที่สุด และเสริมว่า อุณหภูมิที่ดีที่สุด สำหรับการดื่มชาคือระหว่าง 60 - 85 องศาเซลเซียส แต่ทาง ราชวงศ์ ของประเทศอังกฤษกลับออกมาประกาศว่า “ที่ Buckingham เรา รินชาลงไปในแก้วก่อนนม เสมอ” เสียอย่างนั้น
กลุ่มคนที่นิยมการใส่นมก่อนชาได้กล่าวว่า การ “เติมชาลงในนม” นั้นมีมาตั้งแต่ช่วง ก่อนศตวรรษที่ 17 แล้ว ในขณะที่การเติมนมลงทีหลังชานั้นเพิ่งเกิดขึ้นหลังช่วงศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา ดังนั้นการเทนมลงในถ้วยชาก่อนแล้วตามด้วยการเติมชาร้อนลงไปก็น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องมากกว่า ส่วนเหตุผลที่ช่วงก่อนหน้าศตวรรษที่ 18 นิยมการเติมชาลงไปในนมนั้นเป็นเพราะว่า ชาวอังกฤษนิยมการดื่มชาจากถ้วยกระเบื้อง ซึ่งในช่วงเวลานั้นถ้วยกระเบื้องมีราคาค่อนข้างแพง จึงนิยมการ ใส่นมลงไปในถ้วยชา ก่อนเพื่อคงอุณหภูมิในถ้วยไม่ให้ร้อนจนเกินไป และเติมน้ำชา ที่มีความร้อนมากกว่านมลงไปทีหลังเพื่อ ไม่ให้ถ้วยกระเบื้องแตก ได้ง่าย นอกจากนี้การเติมชาลงไปในนมยังช่วยคงอุณหภูมิของชาได้ดีกว่าการเติมนมลงในชาที่อาจกะปริมาณนมผิดพลาดและทำให้ชานั้น “เย็นจนเกินไป” และการที่ แลคโตสภายในนมค่อยๆ ละลายหลังจากการสัมผัสกับความร้อนของชา ทีละน้อยก็ทำให้ชามี รสละมุน มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ภาพจาก : https://www.teavivre.com/info/milk-tea-milk-in-first-or-after.html?fbclid=IwAR0_kag4zdMSJb4e-PnbckNpuq_BP8Q6RyBzbChwk7hh5F1ygeTsQ5wM40
กลุ่มคนที่นิยมการใส่ชาก่อนนมนั้นได้ออกมาแย้งว่าการ เทชาลงในถ้วยก่อน จากนั้นคนเบาๆ 1 ครั้งและ เติมนม ลงในถ้วยชาจะช่วยให้เราสามารถ กะปริมาณของนมที่เราต้องการ จะเติมลงไปในน้ำชาได้ง่ายกว่า จากการสังเกตสี ของชาที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย และการเติมนมลงทีหลังนั้นจะช่วยให้เราสามารถลดอุณหภูมิของชาที่ร้อนมากๆ ให้เป็นอุณหภูมิที่สามารถดื่มได้เลยในทันทีอีกด้วย และนอกจากนี้ กลุ่ม TIF ก็ได้ออกมาตอบโต้ประเด็นเรื่องการเติมชาลงในนมเพื่อป้องกันถ้วยชาแตกของกลุ่ม MIF ว่า ถ้วยชาในปัจจุบันไม่ได้แตกง่ายเหมือนถ้วยชาในสมัยก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเทนมลงในถ้วยก่อนรินชาตามลงไป
ภาพจาก : https://www.organicfacts.net/milk-tea.html
ทั้งนี้ไม่ว่าเราจะชื่นชอบจะชงชานมในรูปแบบไหนก็ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล อยู่ดี แต่หากเป็นการ ชงชาแบบซอง ก็คงจะต้องเป็นพวก “เติมนมหลังชา” อย่างแน่นอน เพราะหากใส่นมลงไปในถ้วยก่อนการเติมน้ำร้อนเพื่อชงชา ชาจากซองจะไม่กระจายตัวและทำให้รสชาติของชาผิดเพี้ยนไปอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้มีการถกเถียงกันเฉพาะแค่การดื่ม “ชาดำ” เท่านั้น เพราะชาวอังกฤษนั้นนิยมการดื่มชาชนิดอื่นๆ โดยไม่ผสมนม และกล่าวถึงเพียงแค่ “ชาร้อน” เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีการพูดถึง “ชาแบบเย็น” หรือ “ชานมไข่มุก” ที่หลายๆ คนชื่นชอบกันแต่อย่างใด (อันที่จริง ชาวอังกฤษหลายๆ คนยังมองว่าการดื่มชาใส่น้ำแข็งและการเติมออปชันอย่างไข่มุกหรือพุดดิ้งเพิ่มลงไปในน้ำชานั้นทำให้ชา “เสียรสชาติ” อย่างมากเลยทีเดียว แม้ว่าคนรุ่นใหม่ๆ จะหลงไหลในชานมไข่มุกไม่ต่างจากฝั่งเอเชียก็ตาม)
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |