เมื่อได้ดูการสัมภาษณ์เหล่าสมาชิกวง BNK48 ทั้งรุ่นหนึ่งและรุ่นสองในสารคดี One Take ก็ทำให้สงสัยว่า น้องๆ อายุแค่เท่าที่เราเห็นจริงๆ หรือ เพราะแต่ละคนมีมุมมองที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองเป็นสูงมาก
ดูตัวอย่างได้จากโมบายล์ สมาชิกวงผู้ทำหน้าที่เซ็นเตอร์เพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย" ที่ดังเป็นไวรัลจนทุกคนร้องตามได้ช่วงหนึ่ง เธอบอกกับทีมงานว่า เธอนั้นยัง "ทำได้ไม่ดีพอ" และรู้สึกกดดันจนร้องไห้ออกมา
ส่วนเนย สมาชิกอีกคนก็บอกว่า เธอไม่อยากได้ตำแหน่งที่หนึ่งจากการเลือกตั้ง (ระบบวงแบบ 48 Group จะมีการเลือกตั้งเพื่อจัดอันดับสมาชิก และเลือกเซ็นเตอร์ หรือตัวหลักของเพลงแต่ละเพลง) เธออยากได้ที่สองมากกว่า เพราะคนที่ได้ที่หนึ่งนั้นกดดันมาก
ที่มาภาพ: https://cookiepong.com/one-take/
หรือคำถามจากเฌอปราง กัปตันวงที่เหล่าแฟนๆ ชื่นชอบ ในวันที่เธอรู้ว่าได้ที่หนึ่งจากการเลือกตั้ง ประโยคเดียวที่เธอพูดออกมาคือคำถามแก่เหล่าสมาชิกทั้งวง ว่า "ถ้าเราได้ที่หนึ่งจะมีใครยินดีกับเราไหม"
คำถามของเฌอปรางนั้นสมเหตุสมผลดี เพราะไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกเลือกหรือไม่ถูกเลือก สุดท้ายก็จะมีคนที่ต้องนั่งคนเดียว
ที่มาภาพ: www.netflix.com
เหล่านี้ล้วนเป็นบรรยากาศแห่งการแข่งขันที่คุกรุ่นอยู่ในเหล่าสมาชิก BNK48 ทั้งสองรุ่น - ใช่ - ทั้งสองรุ่น เพราะเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีการเปิดรับสมาชิกรุ่นสอง ทำให้คนในวงเพิ่มขึ้นเป็นกว่าห้าสิบคน
ในแง่ของสารคดี One Take ทำได้ดีในการฉายภาพความกดดันของเหล่าสมาชิกทุกคนในวันที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นและมีโจทย์ใหม่ๆ ที่ต้องคิด การให้สมาชิกมาเข้าคลาสการแสดงด้วยกันเป็นจำนวนมากทำให้เราเห็นฟุตเตจที่เป็นส่วนตัว และแสดงอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาออกมาอย่างตรงๆ และดูจริง ต้องยอมรับว่าผู้กำกับ โดนัท มนัสนันท์ ตัดสินใจถูกที่สร้างกิจกรรมนี้ให้น้องๆ ได้มาทำร่วมกัน
การถ่ายหลายๆ ช็อตดูจะเป็นการถ่ายแบบไม่ให้รู้ตัว (Candid) ซึ่งก็ทำให้เห็นมุมมองที่แปลกใหม่ที่ไม่คาดว่าจะเห็นจากน้องๆ ในวง ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่อครูสอนการแสดงโยนหมอนเข้าไปกลางวงแล้วให้น้องๆ แย่งกัน ภาพของเศษฝ้ายที่ปริแตกออกมาจากหมอนที่ถูกรุมฉีกกระชากเป็นภาพแทนของความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันอยู่ในทีของเหล่าสมาชิก - ในแง่หนึ่งพวกเขาก็มองกันและกันเป็นเพื่อน แต่อีกแง่ก็คือคู่แข่ง
ที่มาภาพ: https://movie.thaiza.com/news/470489/
สมาชิกหลายคนให้สัมภาษณ์ตรงๆ ว่าการเปิดรับรุ่นสองทำให้พวกเขารู้สึกไม่ดี เพราะพวกเขาไม่ชอบการแข่งขัน เมื่อเปิดรับสมาชิกใหม่ จากที่แฟนคลับกำลังจะจำสมาชิกได้ทุกคน ก็มีคนอื่นเข้ามาแย่งความสนใจ
การแข่งขันในลักษณะนี้ทำให้น่าตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใด น้องๆ จึงแข่งกันแบบเดียวกับที่ศิลปินในวงการเดียวกันแข่งกันไม่ได้ - ยกตัวอย่างวงการเพลง ถ้ารีฮันน่าได้รางวัลแกรมมี่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ย่อมยินดีกับเธอได้ และรีฮันน่าก็ย่อมแสดงความดีใจออกมาจริงๆ แต่ในบรรยากาศของไอดอลกรุ๊ปเช่นนี้ เวลาที่ชนะก็ดีใจจนสุดไม่ได้ เพราะพวกเขาจะเห็นว่ามีเพื่อนที่ร้องไห้อยู่ ทุกครั้งที่มีการประกาศผลจัดอันดับอะไรสักอย่างจะมีคนร้องไห้เสมอ
หรือปัญหาจะอยู่ที่ระบบที่ดึงดูดแฟนคลับจากช่องทางเดียวกันเข้ามาเป็นจำนวนมากจนขาดความหลากหลาย แน่อยู่แล้วว่าแฟนคลับชอบน้องๆ จากบุคลิกที่แตกต่างกัน จุดนี้ทำให้น้องๆ ดูเหมือนศิลปินทั่วไปที่แสดงตัวตนได้ชัดเจนอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็อยู่ใต้ร่มของคำว่าไอดอลและความเป็นกลุ่มเดียวกัน ต้องแชร์เพลงกัน ซ้อมเต้นเหมือนกัน และโปรโมตตัวเองด้วยช่องทางเดียวกัน จุดนี้ทำให้น้องๆ ต้องแย่งชิงพื้นที่สื่อสาร รวมทั้งคาแร็คเตอร์ที่ต้องสร้างให้แตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
หนังมีฟุตเตจจากโบว์และจ๊อยซ์ ไอดอลยุค 90 ที่มาให้ความเห็นเกี่ยวกับการสร้างตัวตนของไอดอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านทางโซเชียลมีเดีย พวกเธอให้ความเห็นว่า การเป็นใครสักคนให้คนอื่นชอบอาจทำให้เป็นตัวเองได้น้อยมาก
ปูเป้ถึงกับบอกว่า แม้ในเวลาที่รู้สึกแย่ เธอก็ยังหัวเราะ เพราะ “เหมือนมันชินกับการหัวเราะไว้ก่อน” สุดท้ายแล้วตัวตนที่แท้จริงของพวกเธอคืออะไร เส้นแบ่งระหว่างตัวตนที่สร้างให้คนอื่นพอใจกับตัวตนที่แท้จริงอาจจะเลือนรางลงตามอายุงานที่มากขึ้นของพวกเธอก็เป็นได้
ที่มาภาพ: https://cookiepong.com/one-take/
สิ่งที่เราเห็นได้ชัดที่สุดคงเป็นการเคี่ยวกรำตัวเองที่ดุเดือด เหมือนน้องๆ จะมีธงในใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองต้องเป็น และทำงานหนักกับสิ่งเหล่านั้นมาก จนหลายครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ มองในแง่หนึ่ง บุคลิกภาพเหล่านี้ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่มองอีกแง่ การโตเร็วเกินไปเช่นนี้จะทำให้สูญเสียสิ่งที่มีได้เฉพาะตอนพวกเขายังเด็กไปหรือเปล่า
สุดท้าย ไอดอลอาจเป็นมากกว่าการแข่งขัน การเป็นไอดอลคือความพยายาม แต่ก็มีคำถามอีกว่า ทั้งๆ ที่ก็พยายามเหมือนกัน แต่ทำไมแต่ละคนได้ผลไม่เท่ากัน
ไม่ว่าไอดอลจะคืออะไร สิ่งหนึ่งที่บอกได้แน่คือ การที่คนในวงไม่อินและไม่ยินดีกับความสำเร็จของเรานั้นน่ากลัวจริงๆ
ติดตาม One Take ได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix
ที่มาภาพ: https://www.imdb.com/title/tt12401232/mediaviewer/rm2229253121
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |