Roborock แบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นชื่อดังของโลก กับแนวทางการทำตลาดในภูมิภาคบ้านเรา

บทสัมภาษณ์แนวทางการทำตลาดในภูมิภาค SEA ของ Roborock

ทาง Thaiware.com มีโอกาสได้รับบทสัมภาษณ์ทางอีเมล เกี่ยวกับแนวทางการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia หรือ SEA) ของแบรนด์ Roborock แบรนด์อุปกรณ์ทำความสะอาดสัญชาติจีน ที่เพิ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้คนอยู่อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

นอกจากนี้แล้วทางแบรนด์ Roborock ยังมีร่วมทุน และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกับ Xiaomi แบรนด์สินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขวัญใจมหาชนชาวไทยอีกด้วยเช่นกัน

โดยบทความนี้เป็นการสัมภาษณ์คุณ Joan Hu ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Roborock ลองชมกันเลย

คุณ Joan Hu ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Roborock

1. Roborock มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศจีนนับตั้งแต่เปิดตัว คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ ?

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่จำหน่ายส่วนใหญ่ เน้นเฉพาะความต้องการพื้นฐานที่มาพร้อมกับเครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น เราเห็นโอกาสที่จะเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น เราจึงขยายแผนก วิจัยและพัฒนา (Research and Development Department หรือ R&D) ของเรา โดยมีทีมวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และนักออกแบบ ทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างแท้จริง

2. ในปี 2020 นี้ มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่หรือไม่ ?

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S6 MaxV และ กล่องผลิตภัณฑ์

เราเพิ่งเปิดตัว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S6 MaxV ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ซึ่งเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่อัปเกรดจาก Roborock S6 รุ่นยอดนิยม ด้วยพลังดูดที่เพิ่มขึ้นถึง 2,500 Pa (เทียบกับพลังดูด 2,000 Pa ของรุ่น S6) เพื่อทำความสะอาดแม้กระทั่งฝุ่นที่ฝังพื้นผิวที่แน่นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นบนพรม

 
ระบบนำทางด้วยเลเซอร์ และ กล้องหน้าแบบคู่ พร้อมระบบ ReactiveAI ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S6 MaxV

และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับถังน้ำอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Water Tank) ภายในตัว แทนที่การติดตั้งไม้ถูพื้นเพื่อเพิ่มความสะดวก และน้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 7 ปอนด์ (ประมาณ 3.17 กิโลกรัม) เท่านั้นเอง

3. เนื่องจากปี 2020 เป็นปีที่สภาพเศรษฐกิจไม่ดี แต่มีปัจจัยอะไรที่ทำให้ Roborock ตัดสินใจเลือกที่จะทำตลาดในภูมิภาคนี้ ?

เรายอมรับว่าปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เป็นปีที่ท้าทายในทุกๆ ตลาด แต่เราเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการแนะนำผลิตภัณฑ์ไฮเทคให้กับลูกค้า ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบการสถานการณ์ ณ ขณะนี้ ทำให้ผู้บริโภคต้องทำงานที่บ้านเป็นหลัก แต่ยังต้องทำงานตามกำหนดเวลาและ KPI ประกอบกับบางคนต้องรับหน้าที่พ่อแม่ที่ต้องคอยดูแลลูกๆ ร่วมด้วย เราจังหวังว่าผลิตภัณฑ์ Roborock จะช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน และทำให้ทุกคนได้ใช้เวลากับลูกๆ และสมาชิกในครอบครัวได้มากขึ้นด้วย คติประจำใจของเราคือ

"ให้เราดูแลสิ่งที่คุณเกลียด ในขณะที่คุณดูแลสิ่งที่คุณรัก"
(Let us take care of the things you hate, while you take care of the things you love.)

4. แบรนด์ Roborock มียอดขายอันดับ 1 ในช่วงเทศกาล 10.10 ของ Shopee คุณวางแผนที่จะรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้อย่างไร ?

ถือว่าเราโชคดีมากที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แม้อยู่ในช่วงเริ่มบุกตลาด แน่นอนว่า Roborock จะส่งกิจกรรมลดราคาในอนาคตเพิ่มเติม เพื่อตอบแทนลูกค้าด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า นอกจากนี้ ลูกค้ายังเป็นกำลังใจสำหรับเราในการสร้างและเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้งานระดับสูงขึ้นไปอีก

5. แรงบันดาลใจและเป้าหมายของ Roborock สำหรับตลาดในประเทศคืออะไร และคุณวางแผนที่จะบรรลุเป้าหมายนี้อย่างไร ?

นอกจากการเติบโตในช่องทางออนไลน์ เรายังหวังว่าจะสามารถจัดหาศูนย์บริการเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น เป็นเวลา 2 ปีนับจากนี้ เราวางแผนที่จะมีร้านค้าออฟไลน์ (Offline Store) เป็นของตัวเอง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้น

6. นอกเหนือจากตลาดที่ Roborock เข้าถึงแล้ว Roborock มีแผนและขั้นตอนต่อไปอย่างไร ?

สิ่งที่เราจะทำต่อไปในอนาคต ไม่ใช่แค่ในช่องทางการสร้างแบรนด์ หรือการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ Roborock เท่านั้น แต่เรามุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้า การเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็วของเราในแต่ละตลาดเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ คุณสมบัติด้านนวัตกรรมขั้นสูง และที่สำคัญ ทุกอย่างในราคาที่สมเหตุสมผลนวัตกรรมที่ต่อเนื่องและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ในอนาคตเรามุ่งมั่นที่จะก้าวไปอีกขั้น ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่จุดประกายผ่านความพยายามทางการตลาด

เห็นแนวทางการทำตลาดของแบรนด์ Roborock แบบนี้แล้ว ถือว่าไม่แปลกใจเลย ที่จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะนอกจากเน้นการสร้างแบรนด์ และการตลาดแล้ว ยังมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน ถือเป็นอีกแบรนด์ที่น่าติดตามชนิดที่เรียกว่า "ห้ามกระพริบตา" / Thaiware.com