ในโอกาสที่แฟรนไชส์หนัง ภาพยนตร์ Spider-Man ของค่าย Marvel ปล่อยชื่อตอนใหม่ออกมา ในชื่อ Spider-Man: No Way Home นั้น ทางเราก็เลยขอพูดอะไรเกี่ยวกับหนังที่ออกมาภาคล่าสุด อย่าง Spider-Man: Far From Home สักหน่อย เผื่อว่าใครหลายคนจะอยากย้อนกลับไปดู เพื่อให้จำเนื้อเรื่องก่อนที่แฟรนไชส์นี้จะไปต่อได้
ที่มาภาพ : https://adaybulletin.com/article-review-movie-spider-man-far-from-home/35967
หนัง ภาพยนตร์ Spider-Man: Far From Home เริ่มต้นเรื่องขึ้นในเม็กซิโก ซึ่งนิก ฟิวรี่ และมาเรีย ฮิล เจ้าหน้าที่ผู้รวบรวมกองทัพเหล่าฮีโร่ Avengers ได้ไปสำรวจความผิดปกติอันเกิดจากอสูรสี่ธาตุ ซึ่งเป็นภัยคุกคามใหม่จากจักรวาลคู่ขนาน เขาได้พบกับเควนติน เบค ชายผู้มีพลังพิเศษที่กำลังจัดการกับอสูรเหล่านี้อยู่พอดี จึงเรียกมาร่วมทีมด้วย
ในอีกทางหนึ่ง ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้ปิดบังตนว่าเป็นสไปเดอร์แมน ก็กำลังจะไปทริปท่องเที่ยวกับเพื่อนในชั้นเรียน และพยายามหาโอกาสสารภาพรักกับเอ็มเจ เด็กสาวที่เขาแอบชอบ แต่เขากลับโดนฟิวรี่เรียกตัวมากะทันหันเพื่อปราบอสูรร้ายที่อาจทำให้มนุษยชาติถึงกาลดับสูญ เขาและเบคจึงต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกนี้เอาไว้ ทั้งที่ปีเตอร์ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะพิทักษ์โลกเอาเสียเลย เพราะเขาก็แค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง
ที่มาภาพ : https://time.com/5616188/spider-man-far-from-home-review/
หลังการจากไปของโทนี สตาร์ก หรือไอรอนแมน ในหนัง ภาพยนตร์ Avengers: End Game ปีเตอร์ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาและหดหู่ทุกครั้งที่เห็นรูปโทนีในทุกที่ที่เขาไป แต่เขาไม่รู้ล่วงหน้าเลยว่าโทนีจะมอบสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่งให้เขา นั่นคือระบบเอไอที่ชื่อว่าอีดิธ ที่ทำให้เขาเข้าถึงเทคโนโลยีอาวุธทุกอย่างของ สตาร์ก อินดัสทรี
ที่มาภาพ : https://adaybulletin.com/article-review-movie-spider-man-far-from-home/35967
หนัง ภาพยนตร์ Spider-Man : Far From Home จะพาเราไปสำรวจความไม่มั่นคงทางอารมณ์ของปีเตอร์ ซึ่งเป็นแค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยากมีเวลาทำกิจกรรมชิล ๆ กับอยู่สองต่อสองกับคนที่ตนเองแอบชอบบ้าง โดยที่เขาไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่ตลอดเวลา และไม่คิดว่าตัวเองจะเทียบชั้นได้กับฮีโร่คนอื่น ๆ อย่างธอร์ หรือกัปตันมาร์เวล เขาแทบจะสับสนอยู่ตลอดเวลาและคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับอีดิธ และนั่นทำให้เขาตัดสินใจผิดมหันต์ในการไว้ใจเควนติน เบค หรือมิสเตริโอมากเกินไป เขาคิดเพียงว่าเขาต้องส่งต่ออำนาจให้คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า เป็นคนดีกว่า และกล้าหาญกว่าเขา โดยที่เขาไม่ได้มองเข้ามาภายในตนเองเลยว่า คุณสมบัติเหล่านั้นก็อยู่ในตัวเขาตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
หนังภาคนี้จึงเป็นความก้าวหน้าในการสำรวจตัวตนของสไปเดอร์แมน ที่เขาจะได้เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองและสิ่งที่ตัวเองเป็น รวมทั้งยอมรับกับผู้อื่นในเรื่องพลังอำนาจที่เขามีด้วย
ผู้ชมหลายคน เมื่อได้เจอกับอำนาจที่มิสเตริโอทำได้แล้ว ก็อดสงสารสไปเดอร์แมนไม่ได้เหมือนกัน เพราะกลยุทธ์ในการหลอกลวงของมิสเตริโอเกือบทำให้สไปเดอร์แมนตกที่นั่งลำบาก ฉากแอ็คชันของ หนัง ภาพยนตร์ Spider-Man : Far From Home ที่เปลี่ยนไปมาตลอดเวลาในเรื่องนี้ก็น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นคิวบู๊ต่อเนื่องที่ต้องใช้ความคมของซีจี ผสมกับทักษะการต่อสู้ของสไปเดอร์แมนที่ลื่นไหล จนทำให้ฉากที่สไปเดอร์แมนสู้กับมิสเตริโอเป็นฉากภาพจำของเรื่อง
ที่มาภาพ : https://adaybulletin.com/article-review-movie-spider-man-far-from-home/35967
ภัยคุกคามที่แท้จริงในภาคนี้ก็คือกลุ่มคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับไอรอนแมน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ฮีโร่ระดับไอคอนอย่างเขาจะต้องมีคนเกลียดขึ้หน้า ปีเตอร์เองก็ต้องเรียนรู้จากคนอย่างโทนีเหมือนกัน ว่าไม่มีใครที่ดีเลิศไปเสียทุกอย่าง ถ้าอยากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี และปีเตอร์ก็ต้องกลับไปแก้ไขความผิดที่ตัวเองทำไป ด้วยมุมมองที่เป็นผู้ใหญ่และเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่าเดิม เป็นการเติบโตขึ้นอีกก้าวของฮีโร่นามว่าสไปเดอร์แมน
ที่มาภาพ : https://adaybulletin.com/article-review-movie-spider-man-far-from-home/35967
รับชม Spider-Man : Far From Home ได้แล้ววันนี้ ทาง HBO Go
ที่มาภาพ : https://adaybulletin.com/article-review-movie-spider-man-far-from-home/35967
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |