เคยบ้างไหมที่จำหนังเรื่องหนึ่งสลับกับอีกเรื่อง ? นั่นก็เป็นเพราะในโลกนี้มีบทหนัง หรือพล็อตหนัง ที่ดูคล้าย ๆ กันเยอะไปหมด และในบทความนี้ เราจะมานำเสนอ 3 หนัง (รวม 6 เรื่อง) ที่ดูยังไงก็คล้ายกันมากๆ ! มาเริ่มกันเลย
หนังเกี่ยวกับอุกกาบาตชนโลกทั้งสองเรื่อง ที่คนดูอาจจำสลับกันมากที่สุด หนัง ภาพยนตร์ Armageddon เป็นเรื่องเกี่ยวกับทีมขุดเจาะน้ำมันฝีมือดี ที่ถูกเรียกไปเจาะรูบนอุกกาบาตที่พุ่งตรงมายังโลก และฝังระเบิดเพื่อทำลายอุกกาบาตนั้น โดยมีฉากจบเรียกน้ำตาตอนท้าย กับเพลง I Don’t Wanna Miss a Thing ที่กินใจ
ที่มาภาพ https://www.walmart.com/ip/Armageddon-Movie-POSTER-11-x-17-Style-H/387207193
ส่วน หนัง ภาพยนตร์ Deep Impact นั้นก็เกี่ยวกับการค้นพบดาวหางที่กำลังจะชนเข้ากับโลก และมีการส่งทีมไปทำภารกิจระเบิดอุกกาบาตด้วยหัวรบนิวเคลียร์ แต่ Deep Impact นั้นมีความเสียหายที่เกิดขึ้นบนโลกมากกว่า เพราะทีมพิชิตดาวหางได้ทำให้ดาวหางแตกออกเป็นสองเสี่ยง และมีชิ้นหนึ่งพุ่งชนโลก ทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก ขณะที่คนบางกลุ่มถูกอพยพไปอยู่ได้ดิน นับเป็นหนังเกี่ยวกับวัตถุที่พุ่งชนโลกสองเรื่องที่เป็นตำนานเลยทีเดียว
ที่มาภาพ https://www.imdb.com/title/tt0120647/
หนังที่สร้างจากนิยายวัยรุ่นทั้งสองเรื่อง ที่เกี่ยวของกับการเป็นผู้ถูกเลือก โดยมีฉากอยู่ในโลกอนาคตอันใกล้ หนัง ภาพยนตร์ The Maze Runner เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่ถูกลักพาตัวเข้าไปอยู่ในทุ่งหญ้าที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง โดยกลุ่มคนที่อยู่ในนั้นมีแต่ผู้ชาย ภายในนั้น มีกฎคือห้ามสมาชิกทุกคนของกลุ่มไปอยู่ใกล้กำแพง และทุกวัน จะมีกล่องปริศนาที่ส่งอาหารเข้ามาให้จากนอกกำแพง ในกลุ่มคนเหล่านั้น มีบางคนเป็นนักวิ่งสำรวจในช่องกำแพง ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาวงกต โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คือมีสิ่งอันตรายที่อาจกวาดล้างพวกเขาได้อยู่
ที่มาภาพ https://www.pastposters.com/details.php?prodId=27414
ส่วน หนัง ภาพยนตร์ The Hunger Games มีฉากอยู่ในโลกที่ทวีปอเมริกาถูกแบ่งออกเป็นเขตต่าง ๆ โดยมีศูนย์กลางเป็นเมืองหลวง หรือแคปิตอล คนในเขตต่าง ๆ ต้องทำงานหนักมากเพื่อส่งทรัพยากรไปเลี้ยงเมืองหลวง ซึ่งคนในนั้นมีแต่ความสะดวกสบาย และจะมีการแข่ง “เกมล่าชีวิต” ขึ้นเป็นระยะ โดยจับคนในเขตต่าง ๆ มาเล่นเกมเรียลลิตี้ที่ทุกคนต้องฆ่ากันเอง โดยคนที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้าย จะได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราในแคปิตอล หนังทั้งสองเรื่องทำงานกับพื้นที่ปิด ที่ตัวเอกจะต้องเอาตัวรอดให้ได้โดยใช้ทรัพยากรจำกัด จึงไม่แปลกหากจะมีใครสับสนระหว่างหนังสองเรื่องนี้
ที่มาภาพ https://www.amazon.com/24x36-Hunger-Games-Movie-Poster/dp/B0078VL3J6
หนังเกี่ยวกับการตามล่าสมบัติ ผ่านการแกะรอยสัญลักษณ์โบราณ และสถานที่เก่าแก่ต่าง ๆ หนัง ภาพยนตร์ The Da Vinci Code เป็นเรื่องของศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยา โรเบิร์ต แลงดอน ที่ต้องแกะรอยการตายของภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ลูร์ฟในปารีส ซึ่งตายอย่างเป็นปริศนาด้วยท่าทางจำลองรูปภาพของลีโอนาร์โด ดา วินชี โดยการตายครั้งนี้เป็นการชี้ไปสู่ขุมสมบัติแห่งชาติที่ถูกซ่อนจากมหาชนไว้นับร้อยปี และเขาก็ต้องหนีการตามล่าของคนที่ต้องการล่าสมบัตินี้ด้วยเหมือนกัน
ที่มาภาพ https://www.rottentomatoes.com/m/da_vinci_code
ส่วน หนัง ภาพยนตร์ National Treasure เป็นเรื่องราวของนักประวัติศาสตร์ ที่ต้องการค้นหาสมบัติของอัศวินเทมพลาร์ โดยแข่งกับนักรบรับจ้างที่กำลังตามหาของชิ้นนี้ด้วยเช่นกัน ในหนังทั้งสองเรื่อง ตัวเอกต้องไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ และถอดรหัสสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน รวมทั้งหนีจากอันตรายที่มาพร้อมกับการล่วงรู้ความลับของสมบัติ นับเป็นหนังเกี่ยวกับการถอดรหัสที่ทำให้ลุ้นระทึกได้ดีเลยทีเดียว
ที่มาภาพ https://www.disney.co.th/
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |