ท่ามกลางหนัง ภาพยนตร์ หลากหลายแนวในวงการภาพยนตร์ หนึ่งในแนวหนังที่หลั่งอะดรีนาลีน ทำเลือดสูบฉีดมากที่สุดคือหนังแนวแข่งรถ ความงดงามของรถแต่ละคัน เสียงเครื่องยนต์ เสียงเปลี่ยนเกียร์ ความมันในการแข่งขันขับเคี่ยวสุดดุเดือด องค์ประกอบอันงดงามของคนที่รักความเร็ว
ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้มีรถสวย ๆ หรือไปเหยียบมิดไมล์ได้ขนาดนั้น แต่การได้ดูหนังเหล่านี้ก็ช่วยเติมเต็มความฝันได้ไม่น้อยเลย ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 11 หนัง ภาพยนตร์ แข่งรถประชันความเร็ว ที่จะทำให้เลือด/อะดรีนาลีนคุณสูบฉีด
โปสเตอร์ Grand Prix
ที่มาภาพ : imdb.com
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเรายังไม่เกิด กับหนังแข่งรถในปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) หนัง ภาพยนตร์ Grand Prix - กรังปรีซ์ เจ้าของรางวัลออสการ์ 3 สาขา (Best Sound, Best Film Editing และ Best Effects, Sound Effects) ที่ได้คะแนนเต็ม 100% ใน Rotten Tomatoes จากฝั่งนักวิจารณ์ และ 88% จากฝั่งคนดู
James Garner กับรถ Formula One จากฉากในหนัง Grand Prix
ที่มาภาพ : imdb.com
กับเรื่องราวการแข่งขันชิงแชมป์รถสูตร 1 ในปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) หลังจากที่นักแข่งชาวอเมริกันทีม Jordan-BRM อย่าง Pete Aron โดนไล่ออก ทำให้เขาไปเข้าร่วมกับทีม Japanese Yamura และขับเคี่ยวกับนักแข่งมือฉมังชาวฝรั่งเศสที่เคยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วถึงสองครั้ง รวมถึงการเอาชนะเรื่องราวความรักนอกสนามด้วย
ถึงแม้จะเป็นหนังปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) แต่ออกแบบและดีไซน์ฉากแข่งรถได้อย่างยอดเยี่ยม ลุ้นระทึก ตื่นเต้น และสนุกเลย รวมถึงการได้เห็นการแข่งขันรถสูตรหนึ่งในยุคนั้นก็เป็นอะไรที่หาชมกันไม่ได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Grand Prix - กรังปรีซ์
โปสเตอร์ Days of Thunder
ที่มาภาพ : imdb.com
มาถึงผลงานการแสดงของ ทอม ครูซ (Tom Cruise) กันบ้างกับ หนัง ภาพยนตร์ Days of Thunder - ซิ่งสายฟ้า ร่วมแสดงโดย Nicole Kidman, Robert Duvall, Michael Rooker, John C. Reilly และ Cary Elwes ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Sound ด้วย
ในครั้งนี้ Tom Cruise รับบทเป็นนั่งแข่งรถ NASCAR หน้าใหม่มาแรง นามว่า Cole Trickle แต่ครั้งนึงเค้าประสบอุบัติเหตุจนเกือบจบอาชีพนักแข่งของตนเอง แต่คุณหมอแสนสวยก็คอยสร้างกำลังใจและปลุกความฝันของเขาให้ลุกโชติช่วงอีกครั้ง ลงแข่งในรายการ Daytona 500 โดยมีเป้าหมายเพื่อชัยชนะ
Tom Cruise จากฉากในหนัง Days of Thunder
ที่มาภาพ : imdb.com
จริง ๆ เรื่องนี้ตัวของ Tom Cruise อยากจะขับรถเองทุกฉากแต่ไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากสาเหตุทางด้านความปลอดภัย ฉากส่วนมากจึงเป็น Greg Sacks นักแข่งรถ NASCAR จริง ๆ มารับหน้าที่นี้
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Days of Thunder - ซิ่งสายฟ้า
โปสเตอร์ Herbie: Fully Loaded
ที่มาภาพ : imdb.com
นี่คือยุครุ่งเรืองของ ลินด์ซีย์ โลแฮน (Lindsay Lohan) เลยก็ว่าได้ เพราะผลงานช่วงนั้นของเธอเยอะมาก ด้วยความน่ารักบวกหุ่นอันน่ามองของเธอก็เป็นที่เตะตาน่าชมของใครหลายคนเลย กับหนังที่ทาง Disney เข็นออกมาทำใหม่ หลังจากเคยสร้างเป็นแฟรนไชส์มีชื่อมาแล้วเริ่มต้นจาก The Love Bug ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ใน หนัง ภาพยนตร์ Herbie: Fully Loaded - เฮอร์บี้รถมหาสนุก
ในภาคนี้เจ้ารถเต่า Volkswagen มีชีวิต หมายเลข 53 นามว่า Herbie ได้พบเจ้าของใหม่ Meggie Peyton (Lindsay Lohan) ลูกของนักแข่งรถชื่อดังที่ไม่อยากให้ลูกสาวเข้าวงการนี้ แต่ทั้ง Meggie และ Herbie ก็ร่วมมือกันจนได้โลดแล่นในสนามแข่งรถสร้างเสียงฮือฮาให้ผู้ชมอีกครั้ง
Lindsay Lohan ในหนัง Herbie: Fully Loaded
ที่มาภาพ : https://fooyoh.com/menknowpause_lifestyle_living/15291625/movie-cgi-you-didnt-know-were-in-these-scenes
รู้หรือไม่ว่าหน้าอกหน้าใจที่แม่ให้มาเยอะของ Lindsay Lohan ขัดลุคกับตัวหนังไปเสียหน่อย ทำให้ทาง Disney กังวลว่าตัวหนังมันจะดูล่อแหลมไป จึงต้องใช้ CG เพื่อลดขนาดหน้าอกของเธอก่อนปล่อยออกฉายเลยทีเดียว และน่าเสียดายจริง ๆ ว่านี่คือหนังเรื่องสุดท้ายของ Lindsay Lohan ที่ประสบความสำเร็จบน Box Office
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Herbie: Fully Loaded - เฮอร์บี้รถมหาสนุก
โปสเตอร์ Cars
ที่มาภาพ : imdb.com
มากันที่อนิเมชันกันบ้าง เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำ Best Animated Film และเข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ (Best Achievement in Music Written for Motion Pictures, Original Song และ Best Animated Feature Film of the Year) กับ อนิเมชันของ Pixar เรื่อง Cars - สี่ล้อซิ่ง...ซ่าท้าโลก ที่มีรถสีแดงแรงฤทธิ์อย่าง Lightning McQueen เป็นพระเอก ที่ให้เสียงพากย์โดย โอเวน วิลสัน (Owen Wilson)
ฉากในหนัง ภาพยนตร์ Cars
ที่มาภาพ : imdb.com
กับเรื่องราวของ McQueen ที่ต้องเดินทางเพื่อเตรียมไปเข้าแข่งขัน เขาต้องวิ่งอ้อมผ่านเส้นทาง Route 66 ที่นำพาเขาไปยัง Radiator Springs ที่นั่นเขาได้พบกับเพื่อนมากมายที่ทำให้ชีวิตเขาเรียนรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่าถ้วยรางวัล
จากความสำเร็จของหนังเรื่องนี้มันได้ถูกทำออกมาเป็นหนังอีกหลายภาค และถูกต่อยอดเป็นอนิเมชันซีรีส์อื่น ๆ ด้วย
นี่เป็นหนังอนิเมชันเรื่องสุดท้ายที่อำนวยการสร้างโดย Pixar ก่อนที่ Disney จะซื้อบริษัทไปอย่างเป็นทางการ
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Cars - สี่ล้อซิ่ง...ซ่าท้าโลก
โปสเตอร์ Initial D
ที่มาภาพ : imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Initial D - ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังระดับตำนานในชื่อเดียวกัน หรือคนไทยคุ้นเคยกันในชื่อ “ถนนสายนี้ ข้าจอง” ซึ่งฉบับหนังนำแสดงโดย Jay Chou กับเรื่องราวของ ทาคุมิ เด็กมัธยมปลายที่ต้องช่วยพ่อส่งเต้าหู้ทุกเช้าตอนตี 4 บนเขาอากินะด้วยรถ AE86 ความเบื่อหน่ายกลายเป็นความเชี่ยวชาญ เพราะเขาพยายามขับให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้กลับมานอนต่อ และความเซียนนั้นทำให้เขาถูกท้าแข่งจากทั่วทุกสารทิศ
นี่คือการ์ตูนระดับตำนานที่ส่งให้ Toyota AE86 กลายเป็นรถหายาก และมีราคาสูงมาก ๆ ในท้องตลาด ใครหลายคนต่างอยากได้มาครอบครอง ซึ่งตัวหนังก็ยิ่งย้ำให้เราเห็นภาพของรถคันนี้ชัดขึ้น ด้วยความสนุกของเรื่องราว ความมันส์ในการแข่งขันดริฟต์ลงเขาและดีไซน์ ความเท่ของรถ ยิ่งทำให้ครองใจใครหลายคนได้ไม่ยากเลย
AE86 จาก Initial D
ที่มาภาพ : Netflix
แต่แรกเดิมทีคนที่ถูกวางให้มารับบท Takumi Fujiwara คือ Edison Chen (เฉิน กวานซี) แต่เจ้าตัวก็ได้บท Ryosuke Takahashi และข่าวลือว่าคนที่จะมารับบท Bunta คือ Andy Lau (หลิว เต๋อหัว) และบทดั้งเดิมตอนแรกได้ถูกเขียนเอาไว้ให้ตัวละคร Bunta แข่งรถกับนักแข่งคนอื่นด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา เลยต้องถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Initial D - ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า
โปสเตอร์ The Fast and The Furious: Tokyo Drift
ที่มาภาพ : imdb.com
ยังอยู่กับเรื่องดริฟต์ ๆ กับ หนัง ภาพยนตร์ The Fast and the Furious: Tokyo Drift - เร็ว...แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว นี่คือผลงานการกำกับของ Justin Lin เขียนบทโดย Chris Morgan ที่บอกเล่าเรื่องราว Sean Boswell (Lucas Black) หนุ่มเจ้าปัญหาที่โดนส่งตัวมาโตเกียวประเทศญี่ปุ่นเพื่อดัดนิสัย และที่นั่นก็ได้นำพาเขาไปรู้จักกับโลกใต้ดินของการแข่งรถซิ่งที่มากไปด้วยเทคนิคการดริฟต์
Lucas Black (ซ้าย) และ Nathalie Kelley (ขวา) ใน The Fast and the Furious: Tokyo Drift
ที่มาภาพ : imdb.com
ในแฟรนไชส์ The Fast ทุกภาค ภาค 3 อย่าง Tokyo Drift คือภาคที่เราโปรดปรานที่สุด มันยังคงเป็นหนังแข่งรถที่ยังไม่หลุดโลก บรรยากาศญี่ปุ่น รถแต่งแบบญี่ปุ่น ทั้ง Nissan 350z ของ DK, Mazda RX-7 ของ Han หรือ Mitsubishi Lancer Evolution IX ของ Sean เป็นภาคที่เท่และสนุกที่สุดในแฟรนไชส์แล้ว
Mazda RX-7 ของ Han ใน The Fast and the Furious: Tokyo Drift
ที่มาภาพ : https://arstechnica.com/gaming/2021/04/what-i-learned-about-cars-watching-all-8-fast-furious-movies-in-4-days/
ฉากแข่งรถที่แยกสุดวุ่นวายที่ Shibuya หลัก ๆ แล้วใช้ Special effects ช่วย และถ่ายทำกันจริง ๆ ที่ Los Angeles เพราะการขออนุญาตถ่ายทำที่นั่นเป็นเรื่องยากมาก แต่ Lin อยากได้ภาพที่นั่นจริง ๆ จึงตัดสินใจถ่ายโดยไม่ขอเลย และนำ Footage มาตัดอีกที ผลคือไม่รอด ! แต่ทางค่ายได้เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว เพราะ Universal ได้จ้าง “ตัวตายตัวแทน” ให้เป็นบุคคลที่พร้อมจะแบกรับปัญหาหากกองถ่ายโดนเล่น หลังจากถ่ายทำใน Shibuya ได้ไม่นานทีมงานก็โดนไล่ทันที และตำรวจก็พยายามจับกุมผู้กำกับ แต่คนที่ตำรวจจับไปคือตัวตายตัวแทนที่อ้างว่าเป็น Justin Lin และนอนคุกไปหนึ่งคืนด้วยกัน
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ The Fast and the Furious: Tokyo Drift
โปสเตอร์ Need for Speed
ที่มาภาพ : imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Need for Speed - ซิ่งเต็มสปีดแค้น คือหนังที่ดัดแปลงมาจากแฟรนไชส์เกมดังชื่อเดียวกัน เรื่องราวของนักแข่งรถที่ถูกจับเข้าคุกทั้งที่เขาไม่ได้ผิด จากสาเหตุการตายของผู้ที่เปรียบเสมือนน้องของเขา หลังออกจากคุกเขาจึงตั้งใจจะล้างแค้น โดยเข้าร่วมการแข่งรถผิดกฏหมาย เขาต้องเผชิญการไล่ล่าจากตำรวจ และนักแข่งที่หมายเอาชีวิต จึงเกิดเป็นการแข่งรถข้ามประเทศที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
Koenigsegg Agera S ใน Need for Speed
ที่มาภาพ : imdb.com
โดยส่วนตัวไม่ใช่คอเกมแฟรนไชส์นี้ คงตอบไม่ได้ว่าเหมือนไม่เหมือนแค่ไหน แค่การได้เห็นรถสวย ๆ อย่าง Koenigsegg Agera S, Bugattl Veyron Super Sport, GTA Spano, McLaren P1, Lamborghini Sesto Elemento, Saleen S7 ขับเคี่ยวกัน ด้วยเสียงเครื่องยนต์สุดกระหึ่ม ก็เพลิดเพลินแล้ว
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Need for Speed
โปสเตอร์ Rush
ที่มาภาพ : imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Rush - อัดเต็มสปีด หนังแข่งรถอิงประวัติศาสตร์ ในช่วงปี 1970s ผลงานการกำกับของ Ron Howard เขียนบทโดย Peter Morgan นำแสดงโดย Chris Hemsworth และ Daniel Brühl กับเรื่องราวการห้ำหั่นบนเส้นทางแห่งความเร็วของรถสูตร 1 ระหว่างคู่แข่งที่ต่างกันสุดขั้ว
James Hunt นักขับชาวอังกฤษสุดมั่น สุดห่าม ไม่กลัวตาย กับ Niki Lauda นักขับพรสวรรค์ชาวออสเตรีย ความต่างกันสุดขั้วทำให้ทั้งคู่ต้องปะทะกันทั้งในและนอกสนามแข่ง
Daniel Brühl บนรถ Formula One ของ Ferrari จาก Rush
ที่มาภาพ : imdb.com
ความสนุกในการแข่ง ความเข้มข้นในเรื่องดราม่า การฟาดฟันกันของสองนักแสดง ควรค่าแก่การดูชมทั้งสิ้น ถึงแม้ทั้ง คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) และ ดาเนียล บรูห์ล (Daniel Brühl) จะได้ขับรถจริง ๆ บ้างในเรื่องนี้ แต่พวกเขาไม่ได้ขับรถ F1 แต่เป็นรถ F3 ที่สวมทับด้วยบอดี้ของรถ F1
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Rush
โปสเตอร์ Ford v Ferrari
ที่มาภาพ : imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Ford v Ferrari - ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์ เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 สาขา (Best Achievement in Film Editing, Best Achievement in Sound Editing) จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา (Best Motion Picture of the Year และ Best Achievement in Sound Mixing) และเข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 1 สาขา (Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Drama) เป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงผลงานการกำกับของ James Mangold แสดงนำโดย แมตต์ เดมอน (Matt Damon) และ คริสเตียน เบล (Christian Bale)
ว่าด้วยเรื่องราวการชิงความเป็นหนึ่งของสองขั้วอำนาจแห่งวงการยานยนต์ในช่วงปี 1960s อย่าง Ford และ Ferrari กับการแข่งขันบนสนามสุดโหดรายการ Le Mans ที่แข่งกันยาวนาน 24 ชม. เจ้าแห่งสนามนี้คือ Ferrari แต่ Ford ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างรถแข่งที่เอาชนะให้ได้ จึงอุบัติเป็นการแข่งขันอันดุเดือดทั้งในและนอกสนามที่ทั้งโลกจับตามอง
Ford GT40 ที่ใช้ในหนัง Ford v Ferrari
ที่มาภาพ : https://www.carscoops.com/2019/11/you-can-own-the-gt40-used-in-ford-v-ferrari/
รถแต่ละคันในเรื่องโคตรงดงามทั้งทางฝั่ง ทั้ง Shelby Cobra 427, Ford GT40, Ferrari 330 P3, Ferrari 250 GTO, Aston Martin DBR1/300 มันอาจไม่ใช่หนังแข่งรถจ๋า ๆ ทั้งเรื่อง เพราะมันมีความดราม่าอีกมากมาย การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในโลกธุรกิจแต่ฉากการแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงคือที่สุด ทั้งตื่นเต้น ทั้งลุ้น ยิ่งดูในโรงเสียงนี่กระหึ่มรอบตัวด้วยเสียงเครื่องยนต์ คือเป็นฉากแข่งรถที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ รวมถึงการได้เห็นรถแข่งสุดงามจากทั้งสองค่ายในยุคนั้นก็โคตรฟิน ต่อให้คุณไม่ใช่แฟนหนังแข่งรถ แต่นี่คือยอดหนังที่อยากแนะนำให้คุณดู
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Ford v Ferrari
โปสเตอร์ Death Race
ที่มาภาพ : imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Death Race - ซิ่ง สั่ง ตาย นี่คือหนังที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับเรื่อง Death Race 2000 ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ซึ่งในภาคนี้นำแสดงโดย เจสัน สเตธัม (Jason Statham) แถมตัวหนังยังถูกทำออกมาต่อถึง 5 ภาคเลยทีเดียว
กับเรื่องราวการแข่งรถสุดโหด รายการ Death Race ที่จะนำนักโทษมาแข่งรถกัน แต่มันไม่ใช่การแข่งธรรมดา มันคือการแข่งท่ามกลางความอันตราย รถติดอาวุธ ที่พร้อมจะบดขยี้กันได้ทุกเมื่อ ซึ่งพระเอกของเราโดนยัดข้อหาตัดสินจำคุกตลอดชีวิตฐานฆ่าภรรยาตัวเอง ทำให้เขาต้องยอมเข้าร่วมการแข่งขันสุดอันตรายนี้
รถของพระเอกใน Death Race
ที่มาภาพ : imdb.com
รถทั้งหมดในเรื่องนี้ใช้ทั้งหมด 35 คัน และงบแต่ละคันอยู่ที่ประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว ภายนอกอาจดูเป็นหนังเกรดบี แต่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ เรื่องความมันที่สนุกมากจริง ๆ
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Death Race
โปสเตอร์ Speed Racer
ที่มาภาพ: imdb.com
หนัง ภาพยนตร์ Speed Racer - ไอ้หนุ่มสปีดเขย่าฟ้า คือหนังที่ดัดแปลงมาจากอนิเมะและมังงะในชื่อเดียวกัน ผ่านการกำกับของสองพี่น้อง Wachowski ที่เคยฝากผลงานไว้ใน The Matrix นำแสดงโดย อีมิล เฮิร์ช (Emile Hirsch) ในบท Speed แถมยังได้ Rain นักร้องชื่อดังมาร่วมแสดงด้วย
หนังบอกเล่าเรื่องราวของ Speed Racer เด็กหนุ่มสายเลือดนักแข่งที่ไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ แต่มีปมในใจเกี่ยวกับพี่ชายที่ตายไปแล้ว เขามาพร้อมกับรถคู่ใจ Mach Five ที่มีฟังก์ชันล้ำมากมาย พร้อมจะแซงและปรี่เข้าเส้นชัยด้วยความเหนือชั้นจนสร้างชื่อเสียงไปทั่ว จนได้รับข้อเสนอเป็นสปอนเซอร์จากบริษัทใหญ่ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ และนั่นคือการนำมาซึ่งความอันตรายให้แก่ตนเอง Speed ต้องหาทางเอาตัวรอดและเอาชนะการแข่งครั้งนี้ให้ได้
รถ Mach 5 คู่ใจของ Speed Racer
ที่มาภาพ: fanart.tv
นี่คือหนังแข่งรถสุดล้ำที่เต็มไปด้วย Special Effect ตลอดทั้งเรื่อง มุมกล้องที่หวือหวา สีสันที่จัดจ้านจี๊ดจ๊าด การตัดต่อสุดเท่และแพรวพราว พร้อมด้วยคาแรคเตอร์ตัวละครที่สร้างเสริมความสนุกแบบเต็มรูปแบบ
ตัวอย่าง หนัง ภาพยนตร์ Speed Racer
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |