10 หนัง ภาพยนตร์ เพลงเพราะ ที่ดูก็ดีฟังก็เพลิน

10 หนัง ภาพยนตร์ เพลงเพราะ ที่ดูก็ดีฟังก็เพลิน

เสียงเพลง เสียงดนตรี องค์ประกอบที่สำคัญอันยิ่งยวดไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ในงานภาพยนตร์ เป็นมากกว่าความไพเราะเพลิดเพลิน มันช่วยส่งเสริมเรื่องราว สร้างอารมณ์ สร้างความรู้สึกร่วม เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดไม่ได้ มีหนังหลายเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเพลงและดนตรีออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ และก็มีอีกหลายเรื่องที่เพลงในเรื่องนั้น ๆ กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10 หนัง ภาพยนตร์ เพลงเพราะที่ดูก็ดี ฟังก็เพลิน

1. หนัง ONCE - หัวใจร้องว่ารักเธอ | ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ Once
ที่มาภาพ : imdb.com

นี่คือหนังเรื่องแรกที่นึกถึงเมื่อพูดถึงหนังเพลง หนัง ภาพยนตร์ Once - หัวใจร้องว่ารักเธอ ผลงานการกำกับและเขียนบทของ John Carney กับเรื่องราวที่บอกเล่าถึงการโคจรมาเจอกันของคนสองคนท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย ชายผู้เป็นนักดนตรีข้างถนนแต่ไม่กล้าร้องเพลงที่ตัวเองแต่ง กับสาวต่างแดนที่พยายามปรับตัวในเมืองใหม่ชอบเล่นเปียโนแต่ไม่มีเป็นของตัวเองจึงต้องไปเล่นในร้านขายเครื่องดนตรี เมื่อทั้งสองได้พบกันมันต่างเติมเต็มในหลายส่วนของกันและกัน

Markéta Irglová และ Glen Hansard จากหนัง ภาพยนตร์ Once
ที่มาภาพ : imdb.com

ผมดูครั้งแรกก็รักหนังเรื่องนี้เลย จากแผ่นซีดีที่พี่ซื้อมานั่งเปิดผ่านโน๊ตบุ๊คเก่า ๆ ในบ้าน กับเรื่องราวของคนสองคนจริง ๆ ที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของกันและกัน นี่ไม่ใช่หนังทุนสูง ภาพสวย มุมกล้องล้ำ ๆ มันตรงกันข้ามเลยครับ เพราะมันถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเรียบง่าย ธรรมดา แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ดูจริงเหลือเกิน โดยเฉพาะการแสดง ที่ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกตามไปด้วย

และเพลง Falling Slowly อันแสนไพเราะที่ขับร้องโดย Glen Hansard และ Markéta Irglová สองนักแสดงนำผ่านเสียงกีตาร์และเปียโน ส่งให้เพลงนี้ได้รับรางวัลจากเวทีออสการ์ด้วย 

Glen Hansard, Markéta Irglová - Falling Slowly

2. หนัง BEGIN AGAIN - เพราะรักคือเพลงรัก | ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ Begin Again
ที่มาภาพ : imdb.com

หนัง ภาพยนตร์ Begin Again - เพราะรักคือเพลงรัก ยังคงอยู่ที่ผลงานการกำกับและเขียนบทของ John Carney ที่ยังคงเป็นหนังเพลงเช่นเดิม แต่ในคราวนี้แตกต่างจากเรื่องแรกอย่างสิ้นเชิงในแง่ของการนำเสนอ เรื่องนี้มีเทคนิคแพรวพราว ทั้งมุมกล้อง เรื่องราว แถมยังได้ดาราอย่าง Keira Knightley และ Mark Ruffalo มาแสดงนำ แถมยังพ่วง Adam Levine มาแสดงด้วย

หนังบอกเล่าเรื่องราวของ Gretta สาวที่เดินทางมานิวยอร์กเพื่อไล่ตามความฝันในการเป็นนักร้อง แต่แฟนหนุ่มของเธอดันได้งานกับค่ายใหญ่ เธอจึงกลายเป็นแค่ทางผ่านและโดนทิ้ง ผิดกับเธอที่ต้องดิ้นรนไปร้องเพลงในร้านอาหาร แต่มันก็ไปเตะตา Dan โปรดิวเซอร์ตกอับ ที่เห็นแววรุ่งของเธอ และการเจอกันของทั้งสองก็ได้เปลี่ยนทั้งคู่ไปตลอดกาล

Mark Ruffalo และ Keira Knightley จากหนัง ภาพยนตร์ Begin Again
ที่มาภาพ : fanart.tv

อย่างที่บอกว่าแตกต่างจาก Once ในแง่การนำเสนอ ทั้งมุมกล้อง เทคนิคต่าง ๆ หรือการปั้นโมเมนท์น่ารัก ๆ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องราวการมาพบกัน ขับเคลื่อนด้วยเสียงเพลง และที่สำคัญเคมีของสองนักแสดงนำก็เข้ากันจริง ๆ หนังมีเพลงเพราะ ๆ มากมายจริง ๆ ทั้ง A Step You Can’t Take Back, Tell Me If You Wanna Go Home, No One Else Like You, Like A Fool และ Lost Star ที่ส่งให้ตัวเพลงเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย

Adam Levine - Lost Stars

รู้หรือไม่ว่าในเรื่องนี้ Keira Knightley ได้เรียนกีตาร์จริง ๆ จากสามีของเธอที่เป็นนักดนตรีอย่าง James Righton โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าการเรียนกับเขาคือหายนะ เกือบนำไปสู่การหย่าร้างและฆาตกรรมเลยทีเดียว แต่ผลก็ออกมาดีอย่างที่เราได้เห็นกัน 

3. หนัง SING STREET - รักใครให้ร้องเพลงรัก | ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ Sing Street
ที่มาภาพ : imdb.com

ยังอยู่กันที่ผลงานหนังเพลงของผู้กำกับ John Carney ที่การันตีความยอดเยี่ยมด้านงานเพลงอย่างสองเรื่องที่ผ่านมา หนัง ภาพยนตร์ Sing Street - รักใครให้ร้องเพลงรัก ในคราวนี้หนังบอกเล่าเรื่องราวของ Conor เด็กหนุ่มที่บ้านมีปัญหา ทำให้เขาต้องย้ายโรงเรียนจนทำให้เขาได้มาตกหลุมรัก Raphina หญิงสาวคนสวยที่อยู่ใกล้โรงเรียน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการจีบด้วยการชวนเธอมาเป็นนางเอก MV ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีวงดนตรีด้วยซ้ำ Conor จึงฟอร์มวงรวบรวมสมาชิกเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ

Ferdia Walsh-Peelo และ Lucy Boynton จากหนัง ภาพยนตร์ Sing Street
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังเล่าง่าย สนุก ไม่ซับซ้อน มีความเป็น coming-of-age สอนการใช้ชีวิต และมีเสน่ห์ในตัวเองมาก ๆ แถมคุณจะได้ซึมซับบรรยากาศเพลงในยุค 80s มากมาย รวมถึงเพลงประกอบในเรื่องนี้ก็โดน ๆ ทั้งนั้น แนวเพลงร็อคผสมผสานซิงธ์ป็อป ทั้ง The Riddle of the Model, Beautiful Sea หรืออย่าง Drive It Like You Stole It และอีกมากมาย ที่ทั้งเพราะและช่วงส่งเสริมเรื่องราวนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเพลงโปรโมทอย่าง Go Now ที่ได้ Adam Levine มาขับร้องให้ เรียกได้ว่าผลงานทั้ง 3 ผลงานของ Carney มีแนวเพลงที่แตกต่างชัดเจน และไพเราะทุกเรื่องที่กล่าวมาเลยจริง ๆ

Sing Street - Drive It Like You Stole It

4. หนัง SCHOOL OF ROCK - ครูซ่าเปิดตำราร็อค | ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ School of Rock
ที่มาภาพ : imdb.com

หนัง ภาพยนตร์ School of Rock - ครูซ่าเปิดตำราร็อค หนึ่งในหนังความทรงจำวัยเด็กที่ได้ดูทางทีวีบ่อยมากกกกกก แสดงนำโดย Jack Black กับเรื่องราวของ Dewy Finn มือกีตาร์วงร็อค ที่โดนเพื่อน ๆ ในวงเตะโด่งออกจากวงใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย จนกระทั่งเขาได้รับสายที่โทรหาเพื่อนร่วมห้องของเขาให้มารับงานเป็นครูสอนแทน เขาจึงตัดสินใจสวมรอยเพื่อนเขาและไปเป็นครูสอนแทนที่โรงเรียนแห่งนั้น ด้วยความที่เขาไม่รู้วิธีการสอน แต่เขารู้วิธีที่จะสร้างความเชื่อมั่น และเปลี่ยนเด็กห้องที่เขาสอนกลายเป็นวงร็อคสุดเท่!

Jack Black จากหนัง ภาพยนตร์ School of Rock
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังสนุก ไม่มีพิษไม่มีภัย การแสดงอันล้น ๆ แต่เฮฮาของ Jack Black ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ดี ที่เจ๋งคือเพลงก็ติดหูอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะ Rock Got No Reason 

School of Rock - Rock Got No Reason

และในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) พวกเขาก็ได้กลับมา Reunion เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี แฟนคลับต่างมาชมและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของนักแสดงที่รับบทมือกลองอย่าง Kevin Clark ในวัย 32 ปี

School of Rock Reunion - Rock Got No Reason

School of Rock Reunion - Long Way To The Top

5. หนัง WHIPLASH - ตีให้ลั่นเพราะฝันยังไม่จบ | ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ Whiplash
ที่มาภาพ : imdb.com

หากใครติดตามมาตลอด อาจจะคุ้น ๆ ว่า หนัง ภาพยนตร์ Whiplash - ตีให้ลั่นเพราะฝันยังไม่จบ เรื่องนี้ติดอยู่ในหลายลิสต์ที่จัดเอาไว้ ก็อย่าแปลกใจเลยนะ เพราะมันคือหนังเรื่องโปรดของผมเลย กับผลงานการกำกับและเขียนบทของ Damien Chazelle ที่จุดเริ่มต้นมาจากการทำหนังสั้นเพื่อหาทุนจนได้เข้าฉายที่งานเทศกาลหนัง Sundance จนคว้ารางวัล Short Film Jury Award 

หนังนำแสดงโดย J.K. Simmons และ Miles Teller ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมากกว่ามือกลองแบคอัพของวงดนตรี เขาอยากเป็นระดับโลก และความมุมานะของเขาได้ไปเตะตาครูสุดโหดที่เล็งเห็นพรสวรรค์ ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ต้องเผชิญหน้ากับการฝึกสุดโหด แรงกดดันมหาสาร และการไม่ยอมแพ้ เพราะเป้าหมายมันมากกว่าการพุ่งชน !

Miles Teller และ J.K. Simmons จากหนัง ภาพยนตร์ Whiplash
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังเรื่องนี้ผสมผสานด้วยความยอดเยี่ยมหลายอย่าง เราจะได้เห็นการประชันบทบาทอันทรงพลังของสองนักแสดงนำ และเพลิดเพลินกับดนตรีแจ๊สหลากหลายเพลง ผ่านการตีกลองเดือด ๆ ทั้งเพลง Whiplash, Upswingin’ หรือสุดยอดอย่าง Caravan ที่โชว์ซีนสุดเดือดท้ายเรื่อง ความยอดเยี่ยมในด้านการตัดต่อเสียง ส่งให้ตัวหนังคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Sound Mixing

Whiplash - Caravan

6. หนัง LA LA LAND - นครดารา | ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ La La Land
ที่มาภาพ : imdb.com

ยังอยู่กันที่ผลงานหนังแนวเพลงกับ หนัง ภาพยนตร์ La La Land - นครดารา ผลงานการกำกับและเขียนบทของ Damien Chazelle ที่ร้อยเรียงหนังเรื่องนี้ออกมาได้งดงามผ่านการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Ryan Gosling และ Emma Stone กับเรื่องราวของ Sebastian นักเปียโนแจ๊ซผู้มีความฝันอยากเปิด Jazz Club ได้มาพบรักกับ Mia นักแสดงสาวดาวรุ่ง ทั้งสองพบกันท่ามกลางมหานครแห่งดารา แต่รักอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะบางครั้งความรักกับความฝันก็ไม่ได้ไปทางเดียวกัน

Emma Stone และ Ryan Gosling จากหนัง ภาพยนตร์ La La Land
ที่มาภาพ : imdb.com

ท่ามกลางเรื่องราวดราม่าเรียกน้ำตาสุดกินใจ มันถูกถ่ายทอดออกมาผสมผสานความมิวสิคัลได้อย่างลงตัว ผ่านบทเพลงอันไพเราะส่งเสริมเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะเพลง City of Stars ที่ส่งให้คว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำด้วย ซึ่งในงานออสการ์ประจำปีค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) John Legend ก็ได้โชว์เพลงนี้และเพลง Audition ได้อย่างยอดเยี่ยม 

La La Land - City of Stars

7. หนัง A STAR IS BORN - อะ สตาร์ อีส บอร์น | ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ A Star Is Born
ที่มาภาพ : imdb.com

หนัง ภาพยนตร์ A Star Is Born - อะ สตาร์ อีส บอร์น คือผลงานการกำกับครั้งแรกของ Bradley Cooper ที่รับหน้าที่ร่วมเขียนบทและแสดงเองอีกด้วย เจ้าตัวได้แสดงร่วมกับ Lady Gaga กับหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ Jack นักดนตรีชื่อดังแต่ขี้เมาขี้ยา เขาได้บังเอิญไปพบรักกับ Ally สาวเสียงสวยมากความสามารถ เขาก็พยายามปั้นเธอให้เป็นศิลปินที่โด่งดัง แต่แสงไฟเหล่านั้นตามมาด้วยปัญหาในชีวิตอีกมากมาย

Lady Gaga และ Bradley Cooper จากหนัง ภาพยนตร์ A Star Is Born
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังมีเนื้อเรื่องและบทที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน แถมประเด็นการเป็นตัวของตัวเอง ก็ทำได้ดีถึงขั้นจุกได้เลย และเรื่องเพลงก็โคตรไพเราะแน่นอนว่า Lady Gaga มาพร้อมกับเสียงอันทรงพลังและไพเราะชวนขนลุกสุด ๆ แต่เราไม่เคยได้ยิน Bradley Cooper ร้องเพลง แต่พอในหนังเรื่องนี้กระจ่างเลย เจ้าตัวทำได้ดีจริง ๆ แค่เปิดเรื่องกับเพลง Black Eyes ที่เล่นกีตาร์เอง แต่งเอง ร้องเองก็สุดยอด จริง ๆ ทุกเพลงที่เขาร้องก็สุดยอดมาก 

Bradley Cooper - Black Eyes

โดยเฉพาะเพลง Shallow ที่ทั้งคู่ได้ร้องด้วยกัน มันช่างเพราะเหนือคำบรรยาย และการแสดงสดเพลงนี้ในงานออสการ์ประจำปีค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ของทั้งคู่ก็ทำได้อย่างน่าทึ่ง ไม่แปลกใจที่เพลงนี้จะคว้าทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ

Lady Gaga และ Bradley Cooper - Shallow แสดงในงานออสการ์ประจำปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

8. หนัง KIDS ON THE SLOPE - เพลงแรก รักแรก จูบแรก | ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ Kids on the Slope
ที่มาภาพ : imdb.com

ข้ามมาทางฝั่งเอเชียกันบ้างกับ หนัง ภาพยนตร์ Kids on the Slope - เพลงแรก รักแรก จูบแรก หรือถ้าหลายคนติดตามอนิเมะหรือมังงะมาก่อนจะคุ้นกับชื่อ Sakamichi No Apollon กับเรื่องราวที่บอกเล่าถึงหนุ่มหน้ามนคนใส่แว่นอย่าง คาโอรุ เด็กที่เพิ่งย้ายมาโรงเรียนบนเนินสูงทำให้เขาได้พบกับเพื่อนสองคนที่สอนให้รู้จักกับ “ความรัก” คนแรก เซ็นทาโร่ เด็กตัวสูงบ้าระห่ำและอีกคน ริตสึโกะ เด็กสาวผู้สดใสน่ารัก คาโอรุกับเซ็นทาโร่แตกต่างกันในทุกแง่ แต่สิ่งที่เชื่อมพวกเขาไว้คือ ดนตรี คาโอรุเล่นเปียโน เซ็นทาโร่ตีกลอง นั่นจึงเกิดเป็นบทเพลงแห่งมิตรภาพ ผ่านดนตรีแจ๊ส เป็นท่วงทำนองที่ไพเราะและงดงาม

นานะ โคมัตสึ, ยูริ จิเน็น และไทชิ นาคากาว่า จากหนัง ภาพยนตร์ Kids on the Slope
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังถ่ายทอดมิตรภาพ ความผูกพันและดนตรีแจ๊สเข้ากันได้อย่างลงตัว มีเพลงคอยขับเคลื่อนเรื่องราวที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี หลายฉากก็ใช้ดนตรีเล่าเรื่องแทนคำพูดก็เยี่ยม ที่สำคัญในเรื่องนี้สองนักแสดงนำก็เล่นดนตรีกันจริง ๆ ด้วย ฉากการแสดงของทั้งสองในช่วงท้ายก็ทำออกมาได้อย่างสุดยอดเลยทีเดียว

ฉากเบื้องหลัง Kids on the Slope

9. หนัง The Possible - เก๋า...เก๋า | ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ The Possible เก๋า...เก๋า
ที่มาภาพ : imdb.com

ถึงคราวหนังไทยกันบ้าง กับ หนัง ภาพยนตร์ The Possible - เก๋า...เก๋า จริง ๆ หนังเพลงหรือหนังดนตรีของไทยก็มีอยู่ไม่น้อยเลยนะ และนี่เป็นหนึ่งหนังที่น่าจดจำ ด้วยพล็อตล้ำ ๆ กล้านำเสนอ จากผลงานการกำกับของ วิทยา ทองอยู่ยง นำแสดงโดย โจอี้ บอย ที่ได้ อาต้อย เศรษฐา ตำนานวงดนตรี The Impossible มาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราวด้วย 

บอกเล่าเรื่องราวของวงดนตรี The Possible วงสตริงคอมโบสุดโด่งดังแห่งยุค ที่ได้บังเอิญร้องเพลงบนเวทีด้วยไมค์สีชมพูวิเศษสุดหวานแหววจนส่งให้พวกเขาเดินทางข้ามเวลามาอนาคต ที่วง The Possible กลายเป็นวงตกยุคไม่มีใครรู้จัก แถมยังถูกตราหน้าว่าเป็นวงก็อป The Impossible อีกต่างหาก พวกเขาต้องหาทางเปิดคอนเสิร์ตเพื่อใช้ไมค์ชมพูสุดหวานแหววเดินทางเพื่อกลับอดีตอีกครั้ง 

ฉากจากหนัง ภาพยนตร์ The Possible เก๋า...เก๋า
ที่มาภาพ : https://www.majorcineplex.com/news/movie-The-Possible

อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นพล็อตที่ไม่ธรรมดาเลย และเพลงในเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าเจ๋งไม่แพ้กัน ถึงแม้จะเป็นเพลงแปลง แต่ก็ติดหู สนุก และร้องตามได้อย่างเพลิดเพลิน ทั้ง ไอ้บ้า ไอ้บี้ ไอ้โบ้ ไอ้เบ้ แปลมาจากเพลง A-Ba-Ni-Bi ของ Izhar Cohen & Alphabeta, โทร จากเพลง Go ของ Tina Charles, ดวงใจยังมีรัก จาก Bad Time ของวง Grand Funk Railroad, รินมา จากเพลง Linda Linda ของวง Tee Set, เก๋า จากเพลง เหงาของ Peacemaker และอีกมากมาย ตัวผมเองยังซื้ออัลบั้มเพลงประกอบเรื่องนี้มาฟังเลย

The Possible - เก๋า

10. หนัง SUCKSEED ห่วยขั้นเทพ | ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

โปสเตอร์หนัง ภาพยนตร์ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
ที่มาภาพ : imdb.com

ปิดท้ายกันไปด้วยหนังไทย กับ หนัง ภาพยนตร์ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังเพลงแนว coming-of-age ที่บอกเลยว่าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองจริง ๆ ตั้งแต่หนังออกฉาย ถูกอกถูกใจวัยรุ่นไทยไม่น้อยเลย กับผลงานการกำกับของ ชยนพ บุญประกอบ นำแสดงโดย เก้า จิรายุ, พีช พชร, เอิร์ธ ธวัช และ แนท ณัฐชา 

ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของเป็ด เด็กที่ไม่ชอบฟังเพลงเข้าใจว่าเพลงเร็วคือเพลงร็อคและเพลงช้าคือเพลงรัก แถมยังเข้าใจว่าเพลงไทยมีแค่สองประเภทคือแกรมมี่กับอาร์เอสเท่านั้น แต่เหมือนความรักเข้ามาเขาก็อยากหัดเล่นดนตรีเพื่อจีบสาวนามว่าเอิญ แต่วันเวลาทำให้ทั้งคู่ต้องไกลกัน แต่ก็โคจรมาเจอกันอีกครั้ง คราวนี้เอิญเติบโตและกลายเป็นร็อคเกอร์สาวขั้นเทพสุดน่ารักฟอร์มวง Arena ไปประกวดงาน Hot Wave ทำให้เป็ด ร่วมกับคุ้งและเอ็กซ์ ตั้งวงร็อครวมตัวห่วย SuckSeed ไปประชันกับวง Arena เพื่อให้คนที่เขารักเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ตัวห่วยอย่างที่ใคร ๆ คิดนะเว้ย

เก้า จิรายุ, พีช พชร, เอิร์ธ ธวัช และ แนท ณัฐชา จากหนัง ภาพยนตร์ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
ที่มาภาพ : imdb.com

หนังเรื่องนี้ตรงไปตรงมา จริงใจ สนุก เป็นเหมือนตัวแทนวัยรุ่นไทยที่ อยากเล่นดนตรี ทั้งชอบดนตรี อยากลองเล่น อยากเท่ และอยากจีบสาว แน่นอนเพลงในเรื่องนี้ก็โด่งดังมาก ๆ ไปคาราโอเกะต้องมีคนหยิบมาร้อง หรือไปห้องซ้อมต้องมีวงหยิบมาเล่น ไม่ว่าจะเพลงรักที่ไม่มีคำว่ารักอย่างเพลงที่ฉันไม่ได้แต่งของ No More Tear หรือเพลงสุดมันส์อย่าง ซักซี๊ดนึง - Paradox และทุ้มอยู่ในใจ ของพี่ อ๊อฟ Big Ass ที่นอกจากเพลงแล้วท่าเต้นก็ยังถูกนำไปเต้นตามงานโรงเรียนหลายที่เลยทีเดียว 

อ๊อฟ Big Ass - ทุ้มอยู่ในใจ

อ๋อที่สำคัญ แนท ณัฐชาโคตรน่ารักกกกกกกกกกก

แนท ณัฐชา จากหนัง ภาพยนตร์ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
ที่มาภาพ : imdb.com