กระแสแฟชั่นสไตล์เรโทรกำลังมาแรงตั้งแต่เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมาและก็ยังแรงไม่หยุดถึงแม้ว่าจะข้ามมายังปี 2015 ไปแล้ว ซึ่งในปีนี้ก็มีกระแสแฟชั่นที่คล้ายๆ กันนี้ได้เข้ามาในกลุ่มสังคมไทยที่เรียกว่า ฮิปสเตอร์ ที่มีแนวแฟชั่นออกแนวย้อนยุคนิดๆ เป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ไปเข้าตาคนกลุ่มนี้ก็คือกล้อง Fujifilm X Series ที่เป็นกล้องดิจิตอลสมัยใหม่ แต่มีหน้าตาในแบบคลาสสิค ถูกใจเหล่าฮิปสเตอร์ที่หลีกหนีความจำเจได้เป็นอย่างดี
โดยกล้อง FujiFilm X Series นี้ ได้ออกมาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น DSLR, Compact หรือ Mirrorless ก็มีให้เลือกซื้อตามความต้องการอย่างหลากหลาย ด้วยหน้าตาที่น่ารักในสไตล์คลาสสิค จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มสังคมไทยอย่างรวดเร็ว
ซึ่งในรีวิวครั้งนี้ ทางทีมงานไทยแวร์จึงขอหยิบหนึ่งในกล้อง FujiFilm X Series นี้มาให้ชมกัน โดยได้เลือกกล้องคอมแพคที่ไม่ธรรรมดาอย่าง FujiFilm X30 เนื่องด้วยความที่เป็นกล้องตัวเล็ก พกพาง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะกับตากล้องมือใหม่ที่อยากมีกล้องใช้งานง่ายๆ ซักตัว ตากล้องมือโปรที่อยากมีกล้องน่ารักๆ ไว้พกไปเที่ยวหรือจะเป็นสาวๆ ที่ชอบการถ่ายภาพและใช้กล้องเป็นพร้อพไปเที่ยวได้ด้วย
มาชมสเปคกล้อง Fujifilm X30 กันก่อนเลย
มาชมรอบๆ ตัวกล้องอย่างละเอียดกันต่อได้เลย
หน้าตากล้องสุดคลาสสิค ซึ่งในรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีเงิน น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 423 กรัม
มีโหมดโฟกัสให้เลือก 3 แบบ คือ Single, Continuous และ Manual
ด้านซ้ายมือของเลนส์มีไฟช่วยโฟกัสและปุ่มสลับการทำงานของวงแหวน Dual Ring
ด้านขวาของกล้องมีชื่อรุ่น X30 อยู่ชัดเจน
ในส่วนของเลนส์จะมีวงแหวนควบคุม 2 ส่วน ด้านหน้าเป็นในส่วนของการซูมกล้อง ส่วนด้านหลังเป็น 1 ในวงแหวนควบคุม Dual Ring
กล้องตัวนี้ ไม่มีปุ่ม Power ไว้สำหรับเปิดเครื่องเหมือนรุ่นอื่นๆ ซึ่งเวลาเปิดเครื่องจะใช้การหมุนวงแหวนซูม ให้เลนส์ดันตัวออกมาเพื่อทำการเปิดเครื่อง
มาชมส่วนต่างๆ ด้านบนตัวกล้องกันบ้าง
ในภาพนี้ก็จะประกอบไปด้วย Hotshoe สำหรับใส่ External Flash วงล้อสำหรับปรับโหมดต่างๆ ของกล้อง ปุ่มชัตเตอร์ที่สามารถใส่ Soft Release เสริมเข้าไปได้ วงล้อปรับ EV สำหรับชดเชยแสง และปุ่มสำหรับอัดวีดิโอ
ไล่ลงมาก็จะเป็นปุ่มควบคุมการแสดงผลหน้าจอ ปุ่ม Drive เลือกรูปแบบชัตเตอร์และวงล้อไดอัลสำหรับปรับตั้งค่าต่างๆ ของกล้อง
ถัดลงมาอีกเป็นปุ่มควบคุมเมนูต่างๆ ของกล้อง ซึ่งผู้ใช้สามารถไปปรับแต่งได้เองตามใจชอบ ในส่วนของการตั้งค่าอีกด้วย
ด้านซ้ายบนของกล้อง ประกอบไปด้วย ปุ่มเปิดแฟลช ปุ่มดูภาพ วงล้อปรับสายตาสำหรับช่องมองภาพ
หน้าตาของแฟลชหัวกล้อง จะมีลักษณะแบบนี้
พอร์ตของกล้องจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวกล้อง มีทั้งหมดด้วยกัน 3 ช่อง ได้แก่ ช่องใส่รีโมทชัตเตอร์ ช่อง HDMI และช่อง Micro USB
หน้าจอของกล้องสามารถปรับ ก้ม-เงย ในแนวตั้งได้ เพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพมุมสูงและมุมต่ำ
ช่องใส่แบตเตอรี่และ SD Card จะอยู่ด้วยกันใต้กล้อง
ขนาดความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 1800 mAh ซึ่งทาง Fuji ได้บอกไว้ว่า สามารถถ่ายรูปต่อเนื่องได้ถึง 470 ภาพต่อการชาร์จ 1 รอบ
ฝากล้องเป็นอลูมิเนียมบุด้วยกำมะหยี่ด้านใน ซึ่งตัวฝาค่อนข้างบาง ถ้าใครเผลอทำตกบ่อยๆ หรือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วนั่งทับ ฝามีสิทธิ์เบี้ยวแน่ๆ
อุปกรณ์ในกล่องก็จะประกอบไปด้วย สายคล้องกล้อง สายชาร์จที่มาพร้อมกับ Micro USB คู่มือภาษาไทยและอังกฤษ พร้อมใบประกันสินค้า
การใช้งาน
กล้อง Fujifilm X30 ถึงแม้ว่าจะเป็นกล้องคอมแพค แต่ก็อัดแน่นไปด้วยโหมดและลูกเล่นต่างๆ มากมายให้ใช้งานได้สะดวกสบาย จะเป็นยังไงบ้างมาชมกัน
ระยะเลนส์ 28 -112 mm
ถึงแม้ว่ากล้อง Fuji X30 จะเป็นกล้องคอมแพคที่ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้แบบกล้อง DSLR หรือ Mirrorless รุ่นอื่นๆ แต่ระยะ 28 - 112 mm ที่อยู่ในช่วง Normal เหมือนสายตาปกติของคนทั่วไป จนถึงกึ่งเลนส์ Tele ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ถึงแม้ว่าแอบอยากให้เลนส์กว้างกว่านี้อีกซักนิดก็เถอะ
ถ่ายภาพชัดตื้น ฉากหลังละลาย
ด้วยค่า F กว้างสุด 2.0 - 2.8 พร้อมด้วยการถ่ายภาพระยะใกล้ได้ ทำให้ฉากหลังละลายได้ถึงขนาดนี้เลยทีเดียว
แต่สำหรับบางช็อตที่ระยะของภาพไม่สามารถละลายฉากหลังได้ ตัวกล้องก็มีโหมดขั้นสูงที่ชื่อว่า Pro Focus ในการช่วยละลายฉากหลังเช่นกัน
การพับหน้าจอ LCD
การถ่ายภาพมุมนี้ด้วยกล้องปกติอาจต้องยืนบนเก้าอี้เพื่อให้ได้มุมที่ต้องการ แต่ด้วยฟังก์ชั่นการพับหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ถ่ายภาพ Macro
ในกล้องยี่ห้อ FujiFilm นอกจากจะมีโหมด Macro เหมือนกล้องทั่วไปแล้ว ยังมีโหมด Super Macro ที่สามารถถ่ายภาพได้ใกล้ตัวแบบขนาดหน้าเลนส์ห่างจากตัวแบบเพียง 1 เซนติเมตรอยู่ด้วย แต่ข้อแม้คือต้องซูมกว้างสุดเท่านั้น
โหมดถ่ายรูปอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากฟังก์ชั่นการถ่ายภาพโดยทั่วๆ ไปแล้ว กล้อง FujiFilm X30 ยังมีโหมดต่างๆ เพิ่มเติม ให้ผู้ใช้ได้ถ่ายภาพที่มีลักษณะแตกต่างออกไปอีกด้วยทั้งในส่วนของ Filter และ Adv. (การถ่ายภาพขั้นสูง) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พูดถึงโหมด Pro Focus ในการถ่ายภาพละลายฉากหลังไปแล้ว แต่จะมีโหมดไหนที่น่าสนใจบ้าง มาชมภาพกันเลย
ฟิลเตอร์แรกที่ขอแนะนำ ก็คือฟิลเตอร์ Toy Camera ที่จะแสดงผลภาพแบบกล้องทอย เหมาะกับการถ่ายภาพเก่าๆ สไตล์เรโทรที่เข้ากับตัวกล้องอย่างมาก
ฟิลเตอร์ Pop Color ที่จะเร่งสีของภาพให้ดูสด เหมาะกับการถ่ายภาพที่มีสีสันและดอกไม้สุดๆ
ต่อมาเป็นฟิลเตอร์ Minature ที่จะสร้างภาพในสไตล์ Diorama หรือการทำให้ภาพถ่ายจะมีลักษณะคล้ายกับโมเดลของเล่นนั่นเอง
ฟิลเตอร์นี้ หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยอยู่กับการแสดงผลเฉพาะสีที่ต้องการ ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งหมด 6 สี ได้แก้ สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีฟ้าและสีม่วง
Multiple Exposure นี้อยู่ในส่วน Adv. ที่ทำงานเหมือนกับกล้องฟิล์มที่สามารถถ่ายภาพ 2 ภาพ ซ้อนบนฟิล์มเดิมได้ ซึ่งก็จะได้ภาพตามที่เห็นนี้
การเชื่อมต่อ Wi-Fi กับแอปพลิเคชัน
กล้อง FujiFilm X30 นี้ได้เพิ่มส่วนของฟังก์ชั่น Wi-Fi ให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟนในการจัดการกล้องได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งรูป หรือการควบคุมกล้องโดยใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทก็ได้เช่นกัน โดยแอปฯ ดังกล่าวจะมีชื่อว่า FUJIFILM Camera Application, FUJIFILM Photo Receiver และ FUJIFILM Camera Remote
สรุปกล้องคอมแพค Fujifilm X30
ข้อดี
ข้อสังเกต
ถึงแม้ว่ากล้อง FujiFilm X30 จะเป็นกล้องคอมแพคที่ราคานั้นพอๆ กับกล้อง Mirrorless ตัวอื่นๆ จนหลายๆ คนคิดว่าทำไมไม่เลือกซื้อกล้อง Mirrorless ไปเลยล่ะ เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเอง ซึ่งจริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่าต้องการอะไร ในความคิดเห็นของทีมงานไทยแวร์แล้วความต้องการของทีมงานที่เล่นกล้องอยู่แล้ว ก็ต้องการกล้องตัวเล็กๆ ที่สามารถพกพาได้ง่ายๆ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่แพ้กล้องโปรมากนัก ซึ่ง Fuji X30 เองก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี รวมทั้งกล้องไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ จึงไม่เสี่ยงที่จะมีเลนส์งอกเพิ่มเติม ดูดเงินในกระเป๋าไปอีกนั่นเอง ทางไทยแวร์ก็ขอฝากกล้องตัวเล็กๆ หน้าตาหล่อๆ รุ่นนี้เป็นตัวเลือกสำหรับใครหลายๆ คนด้วยนะครับ
|
... |
ความคิดเห็นที่ 1
7 มกราคม 2559 10:27:27
|
||||||||||||||||||||
กำลังมองหาตัวนี้อยุพอดีเลยค่ะว่าจะสั่งซื้อที่เว็บนี้อ่ะ http://www.topvalue.com/gallery-8028.html มีแต่คนแนะนำมา แต่ก็น่าสนใจนะคะ ลองๆๆเข้าไปดูนะ
|
||||||||||||||||||||