จำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่อุปกรณ์ Mobile Charger เป็นที่นิยมในหมู่คนเดินเล่นภายในห้าง หรือเดินผ่านไป ผ่านมาเป็นอย่างมาก แต่ไม่นานนัก ความนิยมในตัว อุปกรณ์ Mobile Charger ก็เริ่มหายไปเรื่อยๆ จนใครหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเคยมี อุปกรณ์ Mobile Charger อยู่ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ความนิยมในตัวมันลดลง ก็เพราะ "ข้อจำกัด" ในด้านการใช้งาน อาทิ
(รูปภาพจาก วิกิพีเดีย https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/33/ArrayOfPhoneChargers.jpg)
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ก็เริ่มมีการพัฒนา อุปกรณ์ Mobile Charger ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลบข้อด้อยของ อุปกรณ์ Mobile Charger แบบเก่า และได้นำกลับมาใช้งานในหลายสถานที่ชั้นนำ อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ, สยามพารากอน และ อื่นๆ อีกมากมาย จนเริ่มกลับมาเป็นที่นิยม เช่นเดิม
ซึ่งการนำกลับอุปกรณ์ที่พัฒนาใหม่มาใช้งาน ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นไม่น้อย นั่นเพราะ ความแปลกใหม่ทั้งในด้านตัวอุปกรณ์เอง และ วิธีการใช้งาน ฉะนั้น วันนี้ทางทีมงานจึงอยากจะขอยกเรื่องวิธี การใช้งาน ตู้ Mobile Charger มาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน เผื่อว่าเกิดสถานการณ์ที่แบตเตอรี่บนอุปกรณ์เคลื่อนที่หมด แต่ดันลืมสายชาร์จ หรือ แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) มา จะได้ใช้งาน ตู้ Mobile Charger ได้อย่างถูกต้อง ไม่อายใคร!!
สำหรับสถานที่ ที่มีอุปกรณ์ตู้ Mobile Charger เพื่อนๆ จะพบได้ตามสถานที่ต่อไปนี้
1. ดูที่หน้าจอของตู้ก่อนว่ามีช่องไหนว่างใช้งานบ้าง (ช่องที่ว่างจะขึ้น Available และ ช่องที่ไม่ว่างจะขึ้นว่า Done) เมื่อเลือกช่องว่างได้แล้วให้จำไว้ แล้วกดเลือกภาษาก่อน ซึ่งภาษาจะมีให้เลือก 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ กด 1 , ภาษาไทย กด 2
2. เลือกช่องชาร์จที่เราต้องการ โดยเราต้องกด เลือกช่องลงไป จากนั้นให้กดที่ปุ่ม Confirm เพื่อทำการยืนยันว่าเพื่อนๆ เลือกช่องนั้น
3. จากนั้นช่องที่เพื่อนๆ เลือกก็จะเด้งออกมาให้เราชาร์จ โดยสายชาร์จภายในนั้น รองรับการชาร์จอุปกรณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในระบบ Android หรือ iOS ก็ตาม
4. หลังจากเพื่อนๆ ปิดช่องชาร์จสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว ตู้ Mobile Charger ก็จะขึ้นหน้าจอให้เลือกเวลาที่ต้องการใช้งานให้เพื่อนๆ ได้เลือกกัน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกได้แค่ 30 นาทีเท่านั้น (ชาร์จ ฟรี 30 นาที)
5. และเมื่อเลือกเวลาเสร็จแล้ว ตู้ Mobile Charger จะขึ้นให้ใส่รหัส 4 ตัว (จะใส่อะไรก็ได้ยกเว้นรหัสง่ายๆ อย่าง 1 2 3 4)
6.จากนั้นบนหน้าจอของ ตู้ Mobile Charger ก็จะแสดงเวลาคงเหลือการใช้งานให้เพื่อนๆ ทราบทันที
1. การเอาอุปกรณ์เคลื่อนที่ออกจาก ตู้ Mobile Charger นั้นไม่ยาก โดยขั้นตอนแรกเพื่อนๆ ก็ทำเหมือนตอนใช้งานครั้งแรกได้เลย นั่นคือ เลือกภาษาก่อน ซึ่งภาษาจะมีให้เลือก 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ กด 1, ภาษาไทย กด 2 เช่นเคย
2. เลือกช่องที่ต้องการนำอุปกรณ์เคลื่อนที่ออก เมื่อเลือกได้แล้วกดปุ่ม Confirm
3. ใส่รหัส 4 หลักที่ตั้งไว้ให้เรียบร้อย
4 เมื่อใส่รหัสเรียบร้อย ตู้ Mobile Charger จะขึ้นหน้าจอแจ้งเตือนว่า เพื่อนๆ เหลือเวลาที่สามารถชาร์จได้นานเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเวลายังเหลือเพื่อนๆ ก็สามารถชาร์จต่อได้ด้วยการกด Cancel ออกไป แต่ถ้าต้องการนำอุปกรณ์เคลื่อนที่ออกมา ให้เลือก Confirm แทน
5. จากนั้นช่องที่ใส่อุปกรณ์เคลื่อนที่ไว้จะเด้งให้เราอัตโนมัติ
|
หล่อ ใจดี มีตังให้ใช้ |