ปล้นคนรวย มาให้คนจน
คำกล่าวที่หลากหลายคนต่างเคยได้ยินกันมาเป็นอย่างดี โดยเป็นวลีที่บอกถึงวีรบุรุษจอมโจรนอกกฏหมายนามว่า Robin Hood
Robin Hood เรื่องราวในตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งในรูปแบบนวนิยาย การ์ตูน รวมถึงหนังที่ถูกทำมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน และในปี 2018 นี้ เรากำลังจะได้เห็นตำนานเก่าถูกเล่าขานในมุมมองใหม่อีกครั้ง กับ Robin Hood
โดยคนที่มารับบทนี้คือ Taron Egerton (เราคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจาก Kingsman) เขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ฝึกยิงธนูจริงๆ จนเชี่ยวชาญอีกด้วย แถมยังได้ Jamie Foxx มารับบท Little John ผู้ฝึกสอนของเขา รวมไปถึง Jamie Dornan หนุ่มสุดหล่อ มาดเข้ม ที่กระชากหัวใจสาวๆ ไปทั่วทั้งโลกจากแฟรนไชส์ Fifty Shades และนางเอกสุดสวย Eve Hewson ทั้งหมดนี้จะมาปฏิวัติตำนานที่คุณเคยรู้จัก ใน Robin Hood
แต่ก่อนที่เราจะไปรับรู้เรื่องราวในหนังเรื่องนั้น ในบทความนี้จะพาทุกท่านมาพบกับเรื่องของ Robin Hood ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
Robin Hood คือตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างยาวนานของชาวอังกฤษที่โด่งดังไปทั่วโลก มักจะเล่าว่าเขาปล้นคนรวยมาช่วยคนจน และต่อต้านนายอำเภอแห่ง Nottingham บ้างก็ว่าจริงบ้าง บ้างก็ว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้อย่างจริงๆ ว่าเขามีตัวตนจริงหรือเปล่า ถึงขนาดมีสาขาที่มหาวิทยาลัย Nottingham ประเทศอังกฤษ มีวิชาศึกษาเกี่ยวกับ “Robin Hood” โดยตรงเลยทีเดียว
Robin Hood มีตัวตนจริงหรือเปล่า?
ตามตำนานได้เล่าว่า Robin Hood อาศัยอยู่ในป่า Sherwood ชื่อจริงของเขาคือ Robin (หรือ Robert) Hood (หรือ Hod หรือ Hude) ซึ่งเรื่องราวของเขาจะเริ่มต้นในช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งสิ่งเดียวที่ยืนยันได้และค่อนข้างแน่นอนคือชื่อ Robin Hood เป็นนามแฝง โดยคำว่า Robin ออกเสียงเหมือน Robbing ที่หมายความว่าปล้น ส่วนคำว่า Hood ก็น่าจะพ้องมาจากคำว่า Wood ที่แปลว่าป่า
แต่ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ต่างเป็นที่ถกเถียงอีกเหมือนกัน เพราะมีหลายฝ่ายเชื่อว่า แท้จริงแล้ว Robin Hood ไม่ใช่โจรป่าอาศัยอยู่ในป่าหรอก และประเด็นนี้ก็ถูกนำมาใช้ในหนังปี 2018 นี้ด้วย แต่จริงๆ เขาเป็นพวกชนชั้นสูง หรือขุนนางเลยทีเดียว เป็นอัศวินที่ร่วมรบในสงครามคูเสด และที่ใกล้เคียงและเข้าข่ายที่น่าจะเป็น Robin Hood มากที่สุดก็คือ Robert, Earl แห่ง Huntingdon
Robin Hood อาศัยอยู่ในยุคของพระเจ้า Richard ใจสิงห์
ซึ่งในหลากหลายเรื่องราวจะเห็นได้ว่า Robin Hood นั้นเป็นศัตรูกับเจ้าชาย John แต่เป็นพันธมิตรกับพี่ชายของเขา อย่าง Richard ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นครั้งแรกโดยนักเขียนชาว Tudor ในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้งสามคนอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
William Langland
เรื่องราวของ Robin Hood ได้เป็นที่นิยมขึ้นมาเพราะนักเขียนที่ชื่อ William Langland เขาได้เขียนเรื่อง “The Vision of Piers Plowman” ในปี 1377 โดยได้ระบุไว้ว่า Robin Hood และ Ranulf, Earl แห่ง Chester ได้ทำงานร่วมกัน แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนอยู่ดี อาจจะเป็นแค่เพียงคำกลอนก็เป็นได้
Ranulf, Earl แห่ง Chester
ปล้นคนรวยมาให้คนจน
The Lyttle Geste of Robyn Hode
John Major นักประวัติศาสตร์ชาวสก็อตรายหนึ่งเคยเขียนไว้ว่า “Robin ไม่ทำร้ายผู้หญิง ไม่ปล้นคนจน แต่จะช่วยพวกเขาโดยการให้สมบัติที่ปล้นมาจากคนรวย” และในบทกวีหนึ่งในประวัติศาสตร์ในช่วงปี 1492-1510 ชื่อว่า The Lyttle Geste of Robyn Hode โดยในบทกวีนั้นบอกไว้เลยว่า “เขาทำดีต่อคนจน”
นอกจากนั้นยังมีความเชื่ออีกว่า Robin Hood ปล่อยเงินกู้ให้กับเหล่าอัศวินอีกด้วย เพราะเขาเคยให้อัศวินคนหนึ่งยืมเงินไปใช้หนี้บาทหลวง แต่ตัวเขาเองไม่รับเงินคืนจากอัศวินคนนั้น เพราะ Robin Hood ได้ไปขโมยเงินมาจากบาทหลวงคนนั้นแล้ว แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชมและชื่อเสียงของวีรบุรุษ ในตอนที่เขาปล้นนั้น ในหลายครั้งก็ได้ฆ่าและสังหารคนรวยเหล่านั้น เช่นกัน
Robin Hood แต่งงานกับ Maid Marian ที่โบสถ์ St Mary ใน Edwinstowe
Maid Marian คือส่วนสำคัญในเรื่องราวแห่งตำนานของ Robin Hood โดยในหนังสือประวัติศาสตร์เรื่องราวของ Robin Hood ได้มีการระบุที่การแต่งงานของทั้งคู่เอาไว้ด้วย แต่ในอีกหลายเรื่องราวก็ไม่ได้ระบุว่าตัวเขามีภรรยาหรือมีครอบครัวแต่อย่างเดียว ความสนใจในผู้หญิงเพียงอย่างเดียวของเขาคือ พระแม่มารี นักประวัติศาสตร์หลายคนก็เชื่อด้วยว่าเรื่องราวการแต่งงานของทั้งคู่ เพียงแค่ถูกแต่งเพิมเติมเพื่อให้เนื้อเรื่องมันสมบูรณ์ก็เท่านั้น
Maid Marian ในภาพยนตร์ Robin Hood
หลุมศพของ Robin Hood อยู่ที่ Kirklees Priory ใน Yorkshire
Kirklees Priory คือสำนักชีแห่งหนึ่ง เมื่อ Robin Hood อายุมากและแก่ตัวลง เขาได้ไปพำนักรักษาตัวอยู่ที่นั่น และก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจ เขาได้ใช้แรงที่เหลืออยู่ของเขายิงคันศรขึ้นไป และบอกกับ Little John ว่า
หากลูกศรไปตกที่ไหน ที่นั่นคือหลุมฝังศพของข้า
ในเรื่องนี้มีข้อโต้แย้งกันเยอะมากถึงการมีอยู่ของหลุมศพวีรบุรุษจอมโจรผู้นี้ โดยนักเขียวชาว Tudor นามว่า Richard Grafton ได้บอกถึงตำแหน่งที่ตั้งของหลุมศพนี้ไว้ว่า คุณจะเจอหินวางเรียงกันอยู่ และสามารถเห็นได้อยู่ทุกวันนี้ และถึงแม้จะมีคนมาทำลายอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสร้างรั้วและอิฐมาวางร้อมไว้เลยทีเดียว
บ้างก็บอกว่ามีหลุมศพหนึ่งที่เป็นป้ายหลุมศพสลักชื่อไว้ว่าคือ Robert, Earl แห่ง Huntingdon เสียชีวิตในช่วงคริสมาสอีฟ แต่ก็มีคนบอกอีกว่าป้ายหลุมศพนี้ถูกทำขึ้นมาภายหลังโดยเจ้าของที่ดินผืนนี้ และมีการเปิดให้เยี่ยมชม
หลุมศพ Robin Hood
แต่ก็มีเหล่าผู้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติ Robin Hood ว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะจากระยะหลุมศพกับอาคารชีที่เขาพักอยู่ มันมีระยะไกลพอสมควร และด้วยแรงตอนนั้นคนป่วย ความแก่ คนชรา ของ Robin Hood เขาไม่น่าที่จะมีแรงพอที่จะยิงธนูไปไกลขนาดนั้น และกระดูกที่ถูกฝังอยู่จริงๆ น่าจะโดนขุดไปนานแล้วด้วย
แต่ก็มีเรื่องราวการค้นพบบางอย่าง โดยชายที่ชื่อว่า Mark Thompson ซึ่งตัวเขาสนใจเรื่องเล่าว่าในป่า Sherwood ต้องมีสมบัติของ Robin Hood ซ่อนอยู่ จนในที่สุดเขาได้พบแหวนวงหนึ่ง เป็นแหวนทองที่ประดับด้วยพลอยสีน้ำเงิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันคือแหวนที่มาจากยุคเดียวกับ Robin Hood ซึ่งก็แน่นอนว่ามีหลายคนรับซื้อ โดยมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท! แต่เจ้าตัวบอกว่า เขาไม่ขาย เพราะมันเหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่า Robin Hood มีอยู่จริง ที่เขาทำมาตลอดหลายปีไม่ใช่เรื่องตลก แต่มันคือเรื่องจริง
ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า Robin Hood มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์หรือเปล่า แต่เรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างยาวนานกว่า 800 ปี และทุกคนในทุกวันนี้ต่างก็รู้จักชื่อเสียงเรียงนามเขาเป็นอย่างดี มันก็ย่อมจะมีเค้าจริงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
และในปี 2018 นี้ เรากำลังจะได้เห็นการปรากฏตัวของเขาอีกครั้ง ลืมทุกเรื่องราวที่คุณเคยรับชมมา เพราะนี่คือเรื่องราวครั้งใหม่ที่ยังไม่เคยถูกเล่าขานลงบนจอเงินใดๆ ทั้งสิ้น 1 ศรัทธา พร้อมกับศาตราเป็นคันศร เพื่อทวงคืนความยุติธรรม Robin Hood พยัคฆ์ร้ายโรบินฮู้ด
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |