11 หนังความสัมพันธ์ ของคนสำคัญที่เรียกว่า พ่อ

วันพ่อมาเยือน เตือนให้คิดถึง ลูกแสนซาบซึ้ง ถึงพระคุณพ่อ

และแล้วก็วนมาอีกครั้งถึงวันพ่อแห่งชาติ นอกจากงานที่จัดต่างๆ แล้ว ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ลูกๆ หลายคนได้แสดงความรักที่มีต่อพ่อได้อย่างเต็มที่ พาพ่อไปทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย และเนื่องในโอกาสวันพ่อแล้ว ทางเราก็มีหนังมาแนะนำและอยากให้ดูจริงๆ กับเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้เป็นพ่อ ดูคนเดียวก็ได้ ดูกับพ่อก็ดี ดูกันหลายๆ คนเพื่อน ญาติพี่น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย หรือทั้งครอบครัวเลยก็ไม่ว่ากัน กับ 11 หนังความ "สัมพันธ์" ของคน "สำคัญ" ที่เรียกว่า "พ่อ" ไม่แน่ว่าคุณดูจบแล้วอาจอยากจะรีบไปบอกรักพ่อในทันทีเลยทีเดียว

The Pursuit of Happyness
ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
(2006)

เมื่อพูดถึงหนังที่เกี่ยวกับคำว่า “พ่อ” สำหรับแอดเองนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นอันดับแรกเลย The Pursuit of Happyness หรือในชื่อไทยที่หลายต่อหลายคนคุ้นหูว่า “ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้”

เป็นหนังดราม่า ฟิลกู้ด ที่นำแสดงโดย Will Smith และลูกของเขาเอง Jaden Smith ตัวเขาเองยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำอีกด้วย

หนังสร้างมาจากเรื่องจริงของ Chris Gardner คุณพ่อลูกติดที่เกิดสภาวะวิกฤติทางการเงินอย่างหนัก ที่ทำให้ภรรยาของเขาทิ้งพวกเขาไป และนั่นทำให้ชายผู้เป็นพ่อกับลูกกลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างน่าอดสู นอนตามป้ายรถบัสเอย สวนสาธารณะเอย ถึงแม้ชีวิตเขาจะย่ำแย่หรือตกต่ำแค่ไหน เขาจะคอยสอนให้ลูกยิ้มเสมอ เขาไม่ยอมแพ้ เขาต้องเป็นทุกอย่างให้กับลูก

แต่ละคำสอนในเรื่องนี้ดีมาก ให้กำลังใจในชีวิตแบบสุดๆ ด้วยความที่เป็นพ่อลูกแท้ๆ กันในชีวิตจริงด้วย ทำให้ทั้งคู่แสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมเลย แล้วแสดงถึงความรักได้ซาบซึ้งจริงๆ

อย่าให้ใครมาบอกว่าลูกทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตัวพ่อเองก็ตาม

I’m Sam
สุภาพบุรุษปัญญานิ่ม
(2001)

น่าจะเป็นหนังในลิสต์นี้ที่ทำให้เราเสียน้ำตา ซึ้ง ตื้นตันมากที่สุดแล้ว ถึงแม้โอกาสเกิดเหตุการณ์แบบในหนังมันจะน้อยมากๆ ก็ตาม หนังเรื่องนี้บ่งบอกถึงคำว่า “พ่อ” ได้ดีมากๆ เช่นกัน หนังเต็มไปด้วยฉากชวนซึ้งกินใจ เรียกน้ำตาอยู่เนืองๆ ด้วยความไม่สมบูรณ์และมีปัญหาเรื่องการพัฒนาการทางสมอง เป็นโรคออทิสติก แต่ดันบังเอิญไปทำผู้หญิงท้องโดยไม่ได้ตั้งใจจนทำให้กำเนิดลูกขึ้นมา ทำให้เขาต้องเลี้ยงดูลูกอย่างยากลำบาก ด้วยความที่สมองของเขาเปรียบเสมือนเด็ก 7 ขวบเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอเขายังต้องต่อสู้กับการ เข้ามาของนักสังคมสงเคราะห์ที่ต้องการจะดูแลลูกของเขาแทน เขาต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ใครมาแย่งลูกของเขาไป

หนังเรื่องนี้เราจะเห็นได้เลยว่า ถึงแม้สมองของเขาจะมีปัญหา แต่หัวใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยการแสดงของ Sean Penn เขาแสดงเป็นคนออทิสติกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์เลยทีเดียว ร่วมด้วยนักแสดงสมทบที่มากความสามารถอย่าง Michelle Pfeiffer และเด็กสาวผู้ที่แสดงได้ดีเกินอายุอย่าง Dakota Fanning เรียกได้ว่าแค่ชื่อนักแสดงก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูสุดๆ แล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแต่ความรักที่พ่อมีให้ลูกเท่านั้น เรายังได้เห็นความรักของลูกที่มีให้พ่ออย่างเต็มเปี่ยม การดูแลกันและกันคอยให้กำลังใจกันของทั้งคู่ ทำให้หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย

มันทำให้พ่อมีความสุขเวลาได้ยินลูกอ่านหนังสือ

Life is Beautiful
ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง
(1997)

เชื่อว่าหนังเรื่องนี้คงติดโผหนังที่เกี่ยวกับ “พ่อ” ในทุกการจัดอันดับจากหลายๆ เว็บแน่นอน หนังอิตาลีโคตรดีที่ผู้กำกับเหมาหน้าที่ทั้งเขียนบท และแสดงนำควบด้วยตัวเอง

เชื่อว่าหนังเรื่องนี้เป็นการโกหกที่ไม่มีใครโกรธลงจริงๆ กับเรื่องราวบรรยากาศในช่วงสงครามโลกครั้ง 2 โดยตัวหนังแบ่งออกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน คือเรื่องราวของการพบรักของหนุ่มชาวยิวกับครูสาวแสนสวย อีกส่วนก็จะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อลูกในค่ายกักกัน

หนังพื้นเพที่ดูน่าหดหู่ กดดัน น่าเศร้าหมองน่าสงสาร แต่ผู้เป็นพ่อกลับทำให้ลูกยิ้มได้ โดยพระเอกของเรื่องเขาช่างเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีแบบสุดๆ เขาทำทุกวิถีทางคอยสอนลูก ใช้มุมมองของการมองโลกในแง่ดี และความรัก ห่วงลูก เพื่อให้ลูกมีความสุขและยิ้มอยู่ตลอด ในระหว่างที่อยู่ในค่ายกักกัน เพื่อไม่ให้ลูกได้รับรู้ถึงความโหดร้ายภายนอกที่อยู่เพียงนอกประตูเท่านั้น ถึงแม้หนังจะสร้างรอยยิ้มมากมายเพียงใด ก็ยังมิวายทำให้ชายทั้งแท่งหลายต่อหลายคนน้ำตาตกเช่นกัน

The Impossible
สึนามิภูเก็ต
(2012)

หนังดราม่าสุดประทับใจที่นำแสดงโดย Ewan Mcgregor ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ณ ประเทศไทย ในปี 2004 กับเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดให้ใครหลายๆ คน

หนังเรื่องนี้ได้สร้างมาจากเหตุการณ์ของชาวต่างชาติจริงๆ ที่โดนคลื่นสึนามิซัด แล้วกระจัดกระจายไปคนละทาง ผู้เป็นพ่อต้องตามหาครอบครัวของเขา ในประเทศที่มีแต่คนแปลกหน้า ไม่รู้จักใคร สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ยิ่งหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องไปเรายิ่งอยากเอาใจช่วยและสงสารไปพร้อมๆ กัน หนังพาเราให้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละครในหนังแบบไม่รู้ตัว กดดัน หดหู่ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจอครอบครัวของเขา ลูกทั้งสาม และภรรยาอันเป็นที่รัก ความหวัง ความรัก คือคำตอบเดียวของการมีชีวิตอยู่ต่อไป หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

เรื่องนี้มีไอ้แมงมุม Tom Holland วัยขบเผาะด้วยนะเธอ

Southpaw
สังเวียนเดือด
(2015)

นี่ไม่ใช่หนังชกมวยเพียงอย่างเดียว แต่มันคือหนังของชายผู้เป็นพ่อที่ต้องพิสูจน์ตัวเองกับลูกในฐานะนักมวย

หนังว่าด้วยเรื่องของ Billy Hope นักมวยชื่อดังผู้เกรี้ยวกราด ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบสุดๆ แต่ภรรยาและลูกสาวของเขา ไม่อยากเห็นพ่อตัวเองต้องกลับมาในสภาพหน้าบูดหน้าเบี้ยวเลยขอให้เขาเลิกชก และกลับมาอยู่ดูแลครอบครัว แต่เหมือนจะสายไปเสียแล้วเมื่อวันหนึ่งเขาทะเลาะกับศัตรูร่วมอาชีพ ทำให้เกิดเหตุชุลมุนและภรรยาของเขาถูกลูกหลงโดนยิงเสียชีวิต ทำให้เหลือแต่ตัวเขากับลูก เท่านั้นยังไม่พอ เขายังถูกศาลสั่งให้แยกกับลูกอีกด้วย เพราะตัวเขา “ไม่มีคุณสมบัติความเป็นพ่อ” มากพอจะดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ทำให้เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกู้ชื่อเสียงในอาชีพและพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคู่ควรกับคำว่า “พ่อ” ขนาดไหน

นอกเหนือจากหุ่นสุดฟิตของ Jake Gyllenhaal แล้ว การแสดงของเขาในทุกบทพูดกับลูกสาวของเขายังสุดยอดอีกต่างหาก ทั้งน่าเจ็บปวด และทำให้เรารู้สึกร่วมกับตัวละครแบบสุดๆ เล่นเอาบาดใจในเกือบทุกประโยคของสองพ่อลูกเลย หมายรวมไปถึงการแสดงของลูกสาวที่ไม่คิดเลยว่าจะเล่นได้ดีขนาดนี้ ยิ่งฉากที่ลูกถามพ่อว่าทำไมไม่พาออกจากสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ควรเป็นพ่อที่ตายแทนแม่ และตบหน้าพ่อนะ อื้อหืม...เจ็บปวด     

Real Steel
ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี
(2011)

หนังที่หลากหลายคนน่าจะเคยดู และชื่นชอบมากๆ ไม่แพ้หนังเรื่องอื่นเลยกับ Real Steel ที่นำแสดงโดย Hugh Jackman ภายนอกอาจดูเป็นนักชกมวยที่ดูล้ำด้วยเอฟเฟ็คต่างๆ มากมาย แต่แก่นของมันเต็มไปด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อลูกตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว

อย่างที่บอกไป ภายใต้หนังชกมวย เหล็กชนเหล็ก นี่คือเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เมื่อพ่อผู้เป็นอดีตนักชกชื่อดัง ต้องกลับมารับหน้าที่เลี้ยงลูกที่เขาไม่ได้เจอมานานอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากผู้เป็นแม่ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน เขาทั้งคู่ต่างเข้ากันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นพัฒนาการทางความสัมพันธ์ เติมเต็มด้วยความผูกพันของสองพ่อลูกไปเรื่อยๆ และยิ่งช่วงหลังๆ ของเรื่องก็เล่นเอากินใจไม่ใช่น้อยเลย ถือเป็นหนังแอ็คชั่น ดราม่าไม่หนัก ฟิลกู้ดไม่ใช่เล่น และสนุกแบบสุดๆ ไปเลย

Interstellar
ทะยานดาวกู้โลก
(2014)

หนังผจญภัย ดราม่า วิทยาศาสตร์ของยอดผู้กำกับ Christopher Nolan ที่ฉาบหน้าหนังไปด้วยเรื่องราวที่สุดแสนจะวิทยาศาสตร์ชวนน่าปวดหัว แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวความรักของพ่อและลูก

โอเค ว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องราวที่สื่อถึงพ่อชัดเจนเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ในพาร์ทดราม่าครอบครัว ด้วยความรักของพ่อที่นำแสดงโดย Matthew McConaughey กับลูกสาวของเขา กับบทสนทนาที่ปูทางให้เจ็บปวดแบบสุดๆ ถ้าใครเคยดูจะเข้าใจเลยเรื่องตอนแรกที่ลูกไม่อยากให้พ่อออกไปนอกโลก “สักวันพ่อก็ต้องเป็นผีของลูกอยู่ดี” “ตอนนี้พ่อยังอยู่ ก็อย่าทำเหมือนพ่อเป็นผีสิ” ด้วยระยะห่างของเวลาตอนพ่อกลับมาแล้วลูกจะอายุเท่าไหร่ แค่ประเด็นนั้นก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ตอนแรกเราอาจจะ งงๆ แต่พอตอนไคลแม็กของเรื่องนี่บีบน้ำตาคนดูแบบสุดๆ เราจะเข้าใจทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วสลดไปกับมันเลยทีเดียว

อีกทั้งฉากนั่งบนยานอวกาศดูคลิปที่ลูกๆ ของเขาส่งมา แล้วเห็นลูกตัวเองเติบโตขึ้น มีครอบครัว มีลูก มันช่างแสนเจ็บปวดเหลือเกิน ทั้งดีใจและเจ็บปวดไปพร้อมๆ กัน มันเหมือนกับรู้ว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญๆ ของลูก อีกทั้งเรายังอายุผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ลูกดันจะอายุเท่าไหร่ แล้วถ้าลูกแก่กว่าเราหล่ะ? การที่คนเป็นพ่อต้องเห็นลูกตายก่อน มันคงจะเจ็บปวดอย่างหาที่สุดไม่ได้เลยจริงๆ

Train to Busan
ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง
(2016)

ข้ามฟากมาทางฝั่งเกาหลีกันบ้าง กับหนังวินาศสันตะโรของซอมบี้เกาหลี ที่คงไม่ต้องพูดถึงเนื้อหาและความเจ๋งของมันว่าสุดยอดแค่ไหน ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางบวกแบบสุดๆ

และที่สำคัญในเรื่องนี้มันคือเรื่องของพ่อเลยแหละ พ่อที่ต้องพาลูกสาวเดินทางไปหาแม่ที่ปูซาน แต่ดันซวยเกิดเหตุซอมบี้ระบาดในเมือง ลามมาจนถึงรถไฟที่ทั้งคู่ต้องนั่งไปปูซาน ด้วยเหตุนั้น ความเป็นพ่อต้องพาลูกบุกป่าฝ่าดงซอมบี้ไปปูซานให้จงได้ หนังไม่เพียงแต่ใส่แค่ตัวละครมาอย่างดาดๆ หนังยังปูเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไว้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งตอนจบใครได้ดูแล้วมีอันเป็นต้องน้ำตาซึมเป็นแน่แท้

Cargo
(2013, 2017)

พูดถึงหนังซอมบี้ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์พ่อ-ลูก ก็คงไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ Cargo หนังสั้น 7 นาที ที่เรียกน้ำตาและเป็นกระแสสุดๆ ในปี 2013 เลยทีเดียว มันดังมากถึงขนาดถูกทำเป็นหนังยาวที่ปล่อยให้ดูกันในบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix โดยได้นักแสดงจาก The Hobbit อย่าง Martin Freeman มารับบทคุณพ่อ โดยเจ้าตัวเผยในตอนแรกเลยว่าไม่อยากจะรับบทนี้เลย แต่พอได้อ่านบทแล้วรู้สึกอินจัด จึงยอมตกลงรับบทนี้ในทันที

เวอร์ชันหนังสั้น

หนังว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้เป็นพ่อตื่นขึ้นมาบนรถของตนเองที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ แต่ภรรยาของเขาได้กลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว และตัวเขาเองก็มีแผลถูกกัดและกำลังจะกลายเป็นซอมบี้เหมือนกัน แต่ลูกของเขายังปลอดภัยดี เขาจึงพาลูกออกมาและคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ลูกเขาโดนซอมบี้จับกิน! และบอกเลยว่าการตัดสินใจของเขานั้นมันช่างว้าวมาก เล่นเอาหลายๆ คนน้ำตาซึม และอินแบบสุดๆ ไปเลย เราจะได้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก การอยากปกป้อง ดูแล เป็นห่วง ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีของหนังสั้นเรื่องนี้เลย

เวอร์ชัน Netflix

ส่วนทางด้านหนังที่ลงใน Netflix ก็จะขยายความเพิ่มเติมเรื่องราวก่อนจะเกิดเหตุการณ์ในหนังสั้น ระหว่างทาง และตอนจบ เพื่อให้มันยาวขึ้น โดยรวมแล้วส่วนตัวชอบเวอร์ชันหนังสั้นมากกว่า เพราะรู้สึกมันพอดี ครบทุกอย่างแล้ว ส่วนเวอร์ชันหนังยาวเหมือนพยายามเอามายืดเพื่อทำหนังให้มันยาวเท่านั้น

Cargo Short Film

Taken
สู้ไม่รู้จักตาย
(2008)

ใช่แล้วคุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ เรื่องราวความรักจากพ่อก็มาในรูปแบบหนังแอ็คชั่นได้เช่นกัน!!! เพราะหนังเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่าคนเป็นพ่อจะทำทุกอย่างเพื่อลูกสุดที่รักได้ขนาดไหน

เมื่อวันหนึ่งลูกสาวของอดีต CIA ที่รับบทโดยป๋า Liam Neeson ถูกลักพาตัวไป โลกทั้งใบของผู้เป็นพ่อก็แทบจะสลายหายไป ทางออกเดียวคือไปไล่ล่า ไล่ฆ่า ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย เพื่อนำตัวลูกสาวกลับคืนมา

ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร ฉันไม่รู้ว่าแกต้องการอะไร ถ้าอยากได้เงินบอกเลยว่าฉันไม่มี แต่ที่ฉันมีคือทักษะที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีตลอดอาชีพของฉัน ทักษะที่จะทำให้ฉันกลายเป็นฝันร้ายสำหรับคนอย่างแก ถ้าแกปล่อยลูกสาวฉันไปตอนนี้หล่ะก็ เรื่องราวมันก็จะจบตรงนี้แหละ ฉันจะไม่ตามหาแก ฉันจะไม่ไล่ล่าแก แต่ถ้าแกไม่ทำตาม ฉันจะมองหาแก ฉันจะตามหาแก และฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ

ประโยคเด็ดจากหนังที่ไม่ต้องหาคำบรรยายเลยว่าเฮียแกรักลูกม๊ากกกกกกมากกก อาจไม่หวาน ไม่ซึ้ง ดราม่าเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่รับรองว่าคุณจะมันส์สะใจกับซูเปอร์คุณพ่อคนนี้แน่นอน

Finding Nemo
นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต
(2003)

มาถึงเรื่องสุดท้ายกับอนิเมชั่นของดิสนีย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2003 มันดังที่ขนาดพ่อแม่หลายคนเอาไปตั้งเป็นชื่อลูกชื่อหลานเลยทีเดียว เชื่อได้เลยว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อของหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ กับเรื่องราวของปลาการ์ตูนกับการตามหาลูกปลาของพ่อปลาขี้กลัว

โดยจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อปลาที่ลูกของเขาโดนมนุษย์จับไป ด้วยความเป็นพ่อเขาจึงว่ายข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรสุดฟ้าเพื่อตามหาลูกชายที่เค้าเลี้ยงมากับครีบเพียงคนเดียวของเขา

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าหนังอนิเมชั่นของดิสนีย์แฝงไปด้วยข้อคิด คติ และเรื่องราวความผูกพัน ความสัมพันธ์ของตัวละครได้ดีจริงๆ และยิ่งในเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดคำว่าพ่อออกมาผ่านสัตว์อย่างปลาได้ออกมาดีไม่แพ้หนังที่แสดงด้วยคนเลยทีเดียว ทำให้มันคว้ารางวัลออสการ์ในปี 2004 สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครองอย่างไม่ยากเย็น

จริงๆ แล้วหนังที่เกี่ยวกับเรื่องราวของความสัมพันธ์ หรือความผูกพันที่เกี่ยวกับคนเป็นพ่อนี่มีเยอะเหลือเกิน มีมากกว่า 11 เรื่องนี้แน่นอน แต่นี่คือทั้ง 11 เรื่อง 11 รสชาติที่อยากให้ลองรับชมกันดู หากใครมีเรื่องไหนเพิ่มเติม หรือมีเรื่องไหนในดวงใจอยากนำมาบอกกล่าวเล่าต่อ ก็สามารถพิมพ์มาบอกกันได้เลย และสุดท้ายนี้...

อย่าเขินอายที่จะบอกรักพ่อกันนะครับ