หนัง ภาพยนตร์ Green Book เป็นหนังที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 91 เรื่องราวเกี่ยวกับโทนี ลิป ชายวัยกลางคนชาวอิตาเลียนที่กลายมาเป็นคนขับรถให้กับดอน เชอร์ลี นักดนตรีผิวสีที่ต้องการทัวร์คอนเสิร์ตทางตอนใต้ของอเมริกา โทนีเป็นคนที่ทำงานในบาร์มาโดยตลอด เขาจึงรู้วิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน รวมทั้งรักษาความปลอดภัยให้กับดอน ทั้งสองกลายมาเป็นเพื่อนกันในเวลาต่อมา เพราะมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างการเดินทางในครั้งนี้
ที่มาภาพ: https://www.sanook.com/movie/83929/
ในหนัง ภาพยนตร์ เรื่อง Green Book นี้ ตัวละครเอก คือดอน เป็นคนผิวสีที่มีสถานะทางสังคมสูง เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงของคนผิวขาว แต่เมื่อเขาลงจากเวที เขาก็กลายเป็นเพียงคนดำที่โดนเหยียด เขามีความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพออยู่ตลอดเวลา และพยายามต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในสังคมนี้ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ต่างจากโทนี ที่เป็นคนผิวขาวอพยพมาจากอิตาลี แต่ด้วยความเป็นคนผิวขาว เขาจึงใช้ชีวิตในอเมริกาได้อย่างไม่มีปัญหา โทนีเป็นคนที่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา ต่างจากดอน จนทำให้ครั้งหนึ่งพวกเขาถูกตำรวจจับ ดอนได้มีโอกาสสอนโทนีว่า “ความรุนแรงไม่ช่วยอะไร ศักดิ์ศรีต่างหากที่จะช่วยให้เราชนะ”
ที่มาภาพ: https://www.sanook.com/movie/83929/
ตัวเอกของหนัง ภาพยนตร์ Green Book คือดอนนั้น นอกจากเป็นคนผิวสีแล้ว เขายังเป็นเกย์อีกด้วย ความที่โตมาเป็นคนผิวดำ แต่ใช้ชีวิตร่ำรวยและอยู่ในสังคมชั้นสูงไม่ต่างจากคนผิวขาว ทำให้เขาโดดเดี่ยว เขารู้สึกว่าตัวเองนั้น “ไม่ดำพอ ไม่ขาวพอ และไม่แมนพอ” เพราะไม่มีสังคมไหนรับเขาไว้ได้เลย ตอนแรกโทนีเพียงต้องการแหย่เขาเล่นๆว่าโทนีรู้จักวัฒนธรรมผิวดำมากกว่าเขาเสียอีก แต่ประโยคนี้กลับทำให้ดอนเสียใจอย่างมาก
ที่มาภาพ: https://www.sanook.com/movie/83929/
ในหนัง ภาพยนตร์ Green Book การมีที่ยืนเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดตัวตนของคน แม้กระทั่งชนชายขอบเองก็ต้องการมีตัวตนร่วมกับคนกลุ่มน้อยที่มีอัตลักษณ์เดียวกัน การที่ดอนไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นของคนกลุ่มไหนจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะเขาไม่มีกลุ่มให้นิยามตนเองเข้าไปได้ เขาอยู่ในสภาวะ “ติดอยู่ตรงกลาง” ตลอดเวลา ถ้าเขาจะเข้าไปสังกัดกับกลุ่มคนผิวดำ เขาก็ไม่เป็นที่ต้อนรับ เพราะคนผิวดำจะเห็นว่าเขาไม่รู้วัฒนธรรมผิวดำ แถมยังไปสมาคมกับคนผิวขาว ถ้าเขาจะเข้ากลุ่มกับคนผิวขาว สีผิวของเขาก็กลายเป็นอุปสรรค ถ้าเขาจะสมาคมกับเหล่าชายแท้ เขาก็ไม่รู้วัฒนธรรมแบบแมนๆอีก เพราะเขาเป็นเกย์
ที่มาภาพ: https://www.sanook.com/movie/83929/
โทนี ลิป ในหน้ง ภาพยนตร์ Green Book จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมเขาเข้ากับกลุ่มสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสังคมแบบกรรมกร หรือกลุ่มสังคมของคนผิวขาว เพราะโทนีไปอยู่ได้ในทุกที อีกทั้งโทนีนั้นไม่ตัดสินดอนจากสิ่งที่เขาเป็น แม้ในตอนต้นของหนังโทนีจะแสดงอาการเหยียดสีผิวออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม โทนีช่วยเขาแก้ปัญหาหลายอย่างระหว่างทาง และทำให้การเล่นคอนเสิร์ตของดอนราบรื่น
ในหนัง ภาพยนตร์ Green Book นั้น แม้ดอนจะมีปัญหาด้านอัตลักษณ์หลายอย่าง แต่เขาเป็นคนที่กล้าหาญมาก เขาสามารถไปเล่นดนตรีในนิวยอร์คแล้วได้รับเงินมากกว่านี้สามเท่า แต่เขาไม่ทำ เพราะเขาเชื่อว่า “แค่อัจฉริยภาพนั้นไม่พอ ต้องใช้ความกล้าหาญในการเปลี่ยนใจคน” เขาออกเดินทางเพื่อทำให้คนรู้ว่ายังมีคนผิวสีที่เป็นแบบเขาอยู่ และคนผิวสีก็ไม่จำเป็นต้องถูกกดขี่ ใช้เป็นแรงงานทาส หรือต้องจนเสมอไป
ถ้า หนัง ภาพยนตร์ Green Book จะให้อะไรกับคนดู คงเป็นการให้ข้อคิดเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ และการทำตามความฝัน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของมิตรภาพของคนต่างสถานะ ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ขอเพียงเราเปิดใจก็เท่านั้น
รับชม Green Book ได้ทาง HBO Go
ที่มาภาพ: https://www.sanook.com/movie/83929/
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |