8 เคสคดีดังที่ Ed และ Lorraine Warren ต้องเผชิญเรื่องจริงยิ่งกว่าแฟรนไชส์ The Conjuring

8 เคสคดีดังที่ Ed และ Lorraine Warren ต้องเผชิญเรื่องจริงยิ่งกว่าแฟรนไชส์ The Conjuring 

เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ ผี ปีศาจ ซาตาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ยากจะอธิบาย แน่นอนว่ามีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ แต่สำหรับบางคนเรื่องนี้คือชีวิตของพวกเขา Ed และ Lorraine Warren 

Lorraine และ Ed Warren
ที่มาภาพ : creppyaddict.wordpress.com

หลายคนน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกับพวกเขามาจากจักรวาล The Conjuring - คนเรียกผี ซึ่งในหนังทั้ง 3 ภาคคือการหยิบเอาเรื่องราวคดีที่เกิดขึ้นจริง ๆ ที่คู่สามีภรรยา Warren เกี่ยวข้อง และในคลิปนี้เราจะมาเปิดแฟ้มคดีดัง กับ 8 เคสคดีดังที่ Ed และ Lorraine Warren ต้องเผชิญเรื่องจริงยิ่งกว่าแฟรนไชส์ The Conjuring 

คำเตือน: โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม :)

1. ANNABELLE (ตุ๊กตาอาถรรพ์ต้องคำสาป)

Annabelle ตัวจริงในพิพิธภัณฑ์ Occult Museum หรือบ้านของครอบครัว Warren
ที่มาภาพ : creepyshake.com

มาเริ่มกันที่คดีแรก ฉากเปิดเรื่องของ The Conjuring ในภาคแรก เราจะได้เห็นคดีนึงที่เกิดขึ้น และน่าจะเป็นคดีที่ทำให้ใครหลายคนรู้จัก Ed และ Lorraine Warren นั่นก็คือ ตุ๊กตาอาถรรพ์ต้องคำสาป Annabelle ที่ความโด่งดังของมันได้ถูกหยิบนำมาทำเป็นหนังถึง 3 ภาค ได้แก่

• Annabelle - ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
• Annabelle Creation - ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)
• Annabelle Comes Home - ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

เรื่องมันเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ซื้อตุ๊กตาโบราณที่ถูกเรียกว่า Raggedy Ann Doll จากร้านขายของแห่งหนึ่ง ซึ่งตุ๊กตาตัวนี้เขาตั้งใจจะให้มันเป็นของขวัญวันเกิดกับลูกสาวของเขา Donna ซึ่งในตอนนั้น Donna ใกล้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยพยาบาลแล้ว เธออาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์เล็ก ๆ กับ Angie รูมเมทของเธอ และเมื่อเธอได้ตุ๊กตามา เธอก็นำมามาวางไว้แถวเตียงเหมือนของตกแต่งชิ้นนึง และเรื่องราวความน่าสะพรึงมันก็เริ่มขึ้นตรงนี้

Raggedy Ann Doll
ที่มาภาพ : hollywoodreporter.com

ตุ๊กตาตัวนี้มันมักจะเคลื่อนที่ได้เอง ตั้งแต่เริ่มตกพื้น เปลี่ยนท่านั่ง จนมันเริ่มย้ายจากอีกห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งทั้ง ๆ ที่ห้องนั้นปิดอยู่ด้วยซ้ำ หนักเข้ามันเริ่มเขียนข้อความในกระดาษ Help Us และ Help Lou และนานวันเข้าตุ๊กตาก็เริ่มมีคราบเลือด

ไม่นานเธอก็ติดต่อร่างทรง จนเธอได้ทราบว่าวิญญาณที่อยู่ในตุ๊กตาตัวนี้มีชื่อว่า Annabelle Higgins เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 7 ปีที่ตายก่อนที่อพาร์ทเม้นนี้จะถูกสร้าง ร่างทรงบอกเด็กคนนี้อยากอยู่ด้วยทำให้ สองเพื่อนรักสงสารและยอมให้อยู่ แต่มันไม่ใช่แบบที่พวกเธอคิด มันเริ่มคุกคามเพื่อนชายที่ชื่อ Lou ทั้งมาหาถึงบนเตียง และโดนทำร้ายร่างกาย 

จนในที่สุด Donna ก็ตัดสินใจให้ครอบครัว Warren มาช่วยเหลือ ผลคือจริง ๆ ที่สิงในตุ๊กตาตัวนี้ไม่ใช่วิญญาณเด็กสาว แต่เป็นอมนุษย์ที่ใช้ตุ๊กตาเป็นสื่อกลางหลอกว่ามีวิญญาณสิงอยู่ มันอยากสิงร่างคน บทสรุปในการติดต่อกับสิ่งเหนือธรรมชาติในครั้งนี้คือครอบครัว Warren เรียกบาทหลวงนามว่า Cooke มาทำพิธีให้ และ Donna ก็ขอร้องให้ครอบครัว Warren เอาตุ๊กตาไปไว้ด้วย

Lorraine Warren กับ Annabelle
ที่มาภาพ : reddit.com

แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น เพราะระหว่างทางกลับบ้านที่ตุ๊กตาอยู่เบาะหลัง ครอบครัว Warren ต้องเจอเรื่องผิดปกติมากมาย ทั้งพวงมาลัยกับเบรคไม่ทำงานจนเกือบเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จนต้องจอดรถแล้วเอาน้ำมนต์สาดแถมทำเครื่องหมายไม้กางเขน ถึงจะได้ขับกลับอย่างปลอดภัย

ตอนมาอยู่ที่บ้านของครอบครัว Warren แรก ๆ พวกเขาก็เห็นตุ๊กตาลอยไปมาและตกลงเองบ้าง ย้ายที่บ้าง เคยมีบาทหลวงมาบ้านและพูดจาไม่ดีใส่ Annabelle จนทำให้ระหว่างขับรถกลับบ้านเขาประสบอุบัติเหตุเกือบตาย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ครอบครัว Warren จึงสร้างตู้พิเศษขึ้นมาสำหรับ Annabelle โดยเฉพาะไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Occult Museum หรือบ้านพวกเขานั่นแหละ จนมันมีชื่อเสียงและมีคนอยากมาลองของจนต้องเซ่นสังเวยชีวิต

คู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งได้มาหยอกล้อ Annabelle ทุบตู้มัน จนโดน Ed ไล่กลับบ้านไป และในระหว่างทางกลับบ้านมอเตอร์ไซต์พวกเขาก็เสียการควบคุมพุ่งชนต้นไม้อย่างแรก ฝ่ายชายเสียชีวิตคาที่ ฝ่ายหญิงอาการสาหัสนอนโรงพยาบาลนานหลายปี 

Ed ได้กล่าวไว้ว่า…

อย่าท้าทายปีศาจ ไม่มีมนุษย์คนไหนมีอำนาจเหนือซาตาน

2. The Perron Family Haunting (ที่ดินผีสิงของครอบครัว Perron)

ครอบครัว Perron
ที่มาภาพ : learnex.com.mx

นี่คือเรื่องราวที่เราได้เห็นกันในภาคแรกของ The Conjuring ซึ่ง Andrea Perron ลูกสาวของครอบครัว Perron ก็ได้นำเรื่องนี้มาเขียนเป็นหนังสือในชื่อ House of Darkness House of Light กับเรื่องราวที่บอกเล่าถึงครอบครัว Perron จุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ Roger และ Carolyn Perron กับลูกอีก 5 คน ได้ย้ายบ้านมาอยู่ในที่แห่งใหม่กับที่ดินกว่า 200 เอเคอร์ในแถบ Harrisville, Rhode Island โดยไม่รู้ประวัติความเป็นมาของที่ดินแห่งนี้เลย ว่าคนกว่า 8 รุ่น เสียชีวิตบนที่แห่งนี้ และทันทีที่พวกเขาเข้าอยู่ก็ได้พบกับสิ่งที่ยากจะอธิบาย

บ้านของครอบครัว Perron
ที่มาภาพ : allthatsinteresting.com

มันเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ สิ่งของขยับได้ ได้ยินเสียง ผีมาเล่นกับลูก ๆ จนทำให้ Carolyn เริ่มสืบเรื่องราวและได้รู้ว่ามีการตายอย่างปริศนาและน่าสยดสยองเกิดขึ้นบนที่ดินแห่งนี้ ทั้ง เด็กหลายคนเสียชีวิตจากการจมน้ำในลำธารใกล้ ๆ มีคนถูกฆาตกรรมและบางคนก็แขวนคอตัวเองในห้องใต้หลังคา แต่วิญญาณที่ร้ายที่สุดมีนามว่า Bathsheba Sherman

Bathsheba Thayer Sherman
ที่มาภาพ : divinus.skyrock.com

ซึ่งที่พักอาศัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1736 (พ.ศ. 2279) และมีเจ้าของชื่อว่า Bathsheba Thayer Sherman เธอได้แต่งงานและมีลูก 4 คน บ้างก็บอกว่ามีข่าวลือว่า Sherman เป็นพวกลัทธิซาตาน มีหลักฐานว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายกับลูกของเธอและเด็ก ๆ ในระแวกบ้าน

นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาด้วยว่าเด็กบางคนที่เสียชีวิตมีร่องรอยของเข็มเย็บผ้าขนาดใหญ่ทิ่มที่กระโหลกศีรษะ จนได้ทำให้ชาวเมืองรู้สึกคับแคลงใจว่าเธอทำแบบนั้นเพื่อบูชาซาตาน และในที่สุดเธอก็เสียชีวิต สาเหตุการตายของเธอมีมากมาย บ้างก็บอกว่าเธออยู่จนแก่และเสียชีวิต, บ้างก็ว่าติดโรค และบ้างก็ว่าเธอแขวนคอตัวเองในสวนหลังบ้านของเธอ

รูปถ่ายบ้านของครอบครัว Perron ในอดีต ที่เชื่อว่าคนตรงกลางคือ Bathsheba Thayer Sherman
ที่มาภาพ : allthatsinteresting.com

ทำให้สองสามีภรรยา Warren ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือในช่วงปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) แต่การปรากฏตัวของพวกเขาทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลง ถึงแม้ในหนังครอบครัว Warren จะทำพิธีไล่ผี แต่ในเรื่องจริง Lorraine ยืนกรานว่าเธอและสามีจะไม่ทำพิธีไล่ผี มันต้องเป็นบาทหลวงคาทอลิกทำพิธีเท่านั้น พวกเขาก็ได้ทำพิธีติดต่อกับวิญญาณเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม Carolyn ก็ได้ถูกผีสิงชั่วคราว ซึ่งลูกของเธอคนนึงเล่าถึงเหตุการณ์เอาไว้ว่า

แม่ของฉันเริ่มพูดภาษาแปลก ๆ ที่ไม่ได้มาจากโลกใบนี้ ด้วยเสียงที่ไม่ใช่เสียงตัวเองด้วยซ้ำ เก้าอี้ที่เธอนั่งก็ลอยขึ้นกลางห้อง แล้วตัวของเธอก็โดนเหวี่ยงข้ามไปอีกมุมห้อง

จนทำให้ Roger ไล่ครอบครัว Warren กลับไป เพราะห่วงสุขภาพภรรยาของตน หลังจากนั้นครอบครัว Perron ก็ตัดสินใจอาศัยอยู่ที่นั่นต่อเพราะความไม่มั่นคงทางการเงิน จนในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) พวกเขาก็ตัดสินใจย้ายออก และวิญญาณก็ไม่มาตามหลอกหลอนพวกเขาอีก

Lorraine ในฐานะที่เธอเป็นที่ปรึกษาในหนังเรื่องนี้ ได้บอกว่าส่วนมากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังมันเกิดขึ้นจริง ๆ ตลอดเวลาที่เธอข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นเวลากว่า 40 ปี 

สิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน มันยังคงส่งผลกระทบกับฉันอยู่ทุกวันนี้

3. THE AMITYVILLE HOUSE (บ้านผีสิงที่ AMITYVILLE) 

ตัวบ้านที่ Amityville และ Ronald DeFeo Jr. ผู้ก่อเหตุฆาตกรรม
ที่มาภาพ : AP

บ้านผีสิงที่ Amityville นี่น่าจะเป็นคดีที่โด่งดังที่สุดของ Ed และ Lorraine Warren เราได้เห็นคดีนี้นิดหน่อยในช่วงเปิดหนังของ The Conjuring 2

เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัว Lutz ที่ย่านชานเมือง Dutch Colonial ใน 112 Ocean Ave, Amityville, Long Island ช่วงปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้ามามีบาทหลวงคนหนึ่งได้ไปทำพิธีเหมือนขึ้นบ้านใหม่ให้ และในระหว่างนั้นบาทหลวงก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นว่า “ออกไป!” เมื่อหันไปบาทหลวงคนนั้นก็ไม่เจอใคร

เพียง 1 ปีก่อนที่ครอบครัว Lutz จะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ มันเคยเป็นที่เกิดเหตุสังหารหมู่อันน่าสยดสยอง เมื่อคนก่อเหตุนามว่า Ronald DeFeo Jr. ได้ลงมือสังหารสมาชิกในครอบครัวของเขา 6 คนในขณะที่พวกเขาหลับอยู่ อย่างไร้ความปราณี โดยเขาได้ให้การณ์ว่าเหตุผลที่เขาทำไป เพราะมีเสียงในหัวบอกให้เขาลงมือ ผลคือเขาต้องติดคุกและเสียชีวิตในคุกด้วยวัย 69 ปี

Ronald DeFeo Jr. ถูกควบคุมตัว
ที่มาภาพ : mercurynews.com

ระยะเวลา 28 วันที่ครอบครัว Lutz ได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน พวกเขาได้ยินเสียงแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย สิ่งของเคลื่อนย้ายเอง ผู้เป็นพ่อตื่นทุกคืนตอนตี 3.15 โดยเขาเชื่อว่าเป็นเวลาที่ DeFeo ลงมือฆาตกรรมหมู่ ทำให้ Ed และ Lorraine Warren ถูกเรียกตัวมาช่วยเหลือครอบครัวนี้

ในครั้งนี้ได้มีสำนัก TV ท้องถิ่นมาร่วมถ่ายภาพเหตุการณ์นี้ด้วย หนึ่งในภาพเหล่านั้น มีภาพนึง คือภาพเด็กชายคนนึงตาเรืองแสง 

ภาพเด็กตาเรืองแสง
ที่มาภาพ : bloody-disgusting.com

ซึ่งภายหลังไม่นานครอบครัว Lutz ก็ย้ายออก และเรื่องราวนี้ก็ถูกเขียนเป็นหนังสือในชื่อ The Amityville Horor: A True Story ที่ภายหลังหลายฝ่ายก็พิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องแต่งเท่านั้น

และเหมือนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับครอบครัว Lutz จะเป็นเรื่องหลอกลวง จริงแค่คดีฆาตกรรม เพราะมีหลายฝ่ายพยายามพิสูจน์มากมายว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น ไม่มีการระบุตัวตนของบาทหลวงที่ทำพิธีตอนขึ้นบ้านได้ ไม่มีพยานยืนยันจากเพื่อนบ้านสักคน คนที่มาอยู่ต่อก็ไม่เคยมีรายงานว่าเขาเจอเหตุการณ์ประหลาดแต่อย่างใด แถมมีการเปิดเผยว่าครอบครัว Lutz ได้ส่วนแบ่งจากเรื่องนี้มากมายเลยทีเดียว 

และจากการให้สัมภาษณ์ภายหลังของ DeFeo บอกด้วยตัวเองว่า

ผมเบื่อเต็มทีที่คนมองในตาผมแล้วบอกว่าผมโดนผีสิง

และเขาก็บอกด้วยว่าเหตุผลที่ในตอนนั้นเขาบอกว่าได้ยินเสียงสั่งให้เขาฆ่าเพราะว่าเขาอยากจะสร้างข้ออ้างให้ตัวเองดูวิกลจริตจะได้โดนโทษเบาขึ้นเท่านั้น 

มีเพียงแค่นักปีศาจวิทยาที่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ Lorraine Warren ได้บอกว่าบ้านที่ Amityville เป็นหนึ่งในเคสที่ตามหลอกหลอนเธอมานาน 

มันแย่มาก มันตามหลอกหลอนฉันและสามีข้ามประเทศเลยทีเดียว และฉันจะไม่ไปเหยียบที่บ้านหลังนั้นอีกเป็นอันขาด

4. THE ENFIELD POLTERGEIST (บ้านวิญญาณหลอนที่ ENFIELD)

ลูกของครอบครัว Hodgson (Johnny, Janet, Margaret จากซ้ายไปขวา)
ที่มาภาพ : mylondon.new 

บ้านวิญญาณหลอนที่ Enfield นี่คือคดีเนื้อเรื่องหลักที่เกิดขึ้นใน The Conjuring 2 ในคราวนี้เรื่องราวเกิดขึ้นข้ามทวีปมายังเกาะอังกฤษ กับเรื่องราวสุดโด่งดังที่ London ใน Enfield โด่งดังมากถึงขนาดเป็นข่าวในสำนักพิมพ์ท้องถิ่นและลง BBC เลยทีเดียว 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่ Endfield, London เมื่อ Peggy Hodgson คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยกับลูก 4 คน มีคืนนึงลูก 2 คน Janet และ Margaret บอกแม่ของเธอว่าลิ้นชักในห้องมันเลื่อนออกมาได้เอง แต่แม่เธอไม่เชื่อ จนกระทั่งมันกระเด็นมากระแทกประตู ทำให้ Peggy และลูก ๆ ของเธอรีบวิ่งไปอยู่กับเพื่อนบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ และโทรเรียกตำรวจทันที ตำรวจมาที่เกิดเหตุและแน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อ

Peggy Hodgson
ที่มาภาพ : Telegraph.co.uk

ทำให้ครอบครัว Hodgson ต้องทนทุกข์ทรมาณกับการคุกคามจากสิ่งที่อธิบายไม่ได้เป็นเวลากว่า 18 เดือน ทั้งเฟอร์นิเจอร์เคลื่อนย้ายได้เอง ของเล่นถูกโยนไปมา เสียงเคาะจากกำแพงบ้าน กำแพงถูกขีดเขียน ถ้วยน้ำเต็มเอง ของในบ้านไฟลุก และเสียงประหลาดที่สื่อสารกับพวกเขา 

Peggy จึงติดต่อสำนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อนักข่าวมาบ้านทุกอย่างกลับแย่ลงกว่าเดิมมาก ทำให้สำนักข่าวได้ถ่ายภาพสุดโด่งดัง เป็นภาพ Janet ลอยขึ้นเหนือพื้น หลายฝ่ายมองว่าเธอกระโดดขึ้นเอง แต่มีพยานจากนอกบ้านเห็นว่าเธอลอยขึ้นกระแทกกระจกเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็มีผู้คนกว่า 30 ชีวิต ทั้งเพื่อนบ้าน นักปีศาจวิทยา นักข่าว ต่างเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดในบ้านหลังนี้ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา 

ภาพ Janet ลอยขึ้นเหนือพื้น
ที่มาภาพ : Telegraph.co.uk

และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่โจษจันจนถึงทุกวันนี้ คือการสัมภาษณ์ Janet โดยในขณะนั้นเหมือนกับว่าเธอถูกผีสิง และเสียงของเธอได้เปลี่ยนไปเป็นเสียงอื่น คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเลย 

คลิปตอนนักข่าวสัมภาษณ์ Janet

และสิ่งที่ทำให้มันน่าเชื่อว่าเธอถูกเข้าสิงจริง ๆ คือเสียงที่เข้าสิงเธอบอกว่าเขาชื่อ Bill Wilkins ซึ่งชายคนนี้ก็มีตัวตนจริง ๆ และได้เสียชีวิตบนเก้าอี้ตัวนั้นจริง ๆ 

ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) Ed และ Lorraine Warren ก็ได้เข้ามาสืบเรื่องราวในบ้านของครอบครัว Hodgson แต่ไม่ได้เข้ามามีส่วนเหมือนในหนังมากขนาดนั้น จริง ๆ ทั้งคู่มาที่บ้านนี้แค่คืนเดียว และการมาของทั้งคู่เป็นการมาแบบไม่ได้รับเชิญด้วยซ้ำ แต่ Ed ได้บอกเอาไว้ว่าคุณสามารถถ่ายปรากฏการณ์ Poltergeist ได้ที่บ้านหลังนี้จริง ๆ เลยทีเดียว และแน่นอนว่าผีแม่ชีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงของบ้านหลังนี้ 

ครอบครัว Hodgson
ที่มาภาพ : scarepop.com

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว Hodgson โด่งดังมาก จนทำให้ Janet และพี่น้องของเธอโดนบูลลี่อย่างหนักที่โรงเรียน เธอโดนไม้กางเขนปาใส่หลังอย่างบ่อยครั้ง

สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์สงบจริง ๆ ทางด้าน Janet เชื่อว่าในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) บาทหลวงได้มาบ้านของเธอเพื่อสวดมนต์และทำให้วิญญาณสงบ แต่บางครั้งเธอและพี่น้องของเธอก็ยังคงได้ยินเสียงแปลกประหลาดอยู่

นักสืบเรื่องเหนือธรรมชาติ Maurice Grosse ขณะกำลังจับ Janet ที่เชื่อว่าถูกผีสิง
ที่มาภาพ : Graham Morris

ทั้งหมดนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องหลอกลวงเพราะว่ามีการจับภาพจากนักข่าวได้ว่า Janet เขวี้ยงของและพยายามงอช้อนด้วยตัวเอง ซึ่งในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) เธอก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเธอทำแบบนั้นจริง ๆ ครั้งสองครั้ง เพื่อดูว่าคนจะจับเธอได้มั้ย แถมยังบอกด้วยว่า 2% จากทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือเรื่องโกหก

แล้วอีก 98% ล่ะ ? แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่ามันจริงหรือโกหกนอกจากครอบครัวของ Hodgson เอง

… แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็น่าเศร้าไม่ใช่น้อย ทางด้าน Janet แต่งงานตอนอายุ 16 ปีจนออกจากบ้านหลังนี้ไปมีลูก และเมื่อเธออายุ 46 ปี ลูกของเธอในวัย 18 ปีก็เสียชีวิตขณะนอนหลับ น้องชาย Johnny เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตอนอายุ 14 ปี และ Peggy ผู้เป็นแม่ก็มาเสียชีวิตตามไป น้องชายอีกคน Billy ก็ย้ายออกจากบ้านไป 

หลังจาก Peggy เสียชีวิตไม่นาน ก็มีครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามา Clare Bennett กับลูกชายทั้ง 4 ของเธอ ซึ่ง Clare ยืนยันว่าเธอรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ส่วนลูกชายของเธอก็เจอทั้งเสียงและมีอยู่คืนหนึ่ง หนึ่งในลูกของเขาก็ตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมเห็นวิญญาณอยู่รอบห้อง และในเวลาไม่ถึง 2 เดือนพวกเขาก็ทนไม่ไหวและย้ายออกไปในที่สุด

5. THE DEVIL MADE ME DO IT (ลงมือสังหารเพราะปีศาจเข้าสิง)

Arne Cheyenne Johnson
ที่มาภาพ : nypost.com/

คดีนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน The Conjuring 3 (The Conjuring: Devil Made Me Do It) ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นจริง เกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า Arne Cheyenne Johnson เป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่มีการกล่าวอ้างว่าการกระทำความผิดครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ

ถูกปีศาจเข้าสิง

ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Brookfield, Connecticut มีรายงานว่าเจ้าของที่ดินวัย 40 ปี นามว่า Alan Bono ถูกแทงด้วยมีดพกขนาด 5 นิ้ว 4 - 5 แผล และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจากฝีมือของ Arne Cheyenne Johnson วัย 19 ปี หลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกัน พยานในที่เกิดเหตุมีแค่น้องสาว 2 คนของ Johnson และแฟนสาวของเขาเท่านั้น

Arne Cheyenne Johnson
ที่มาภาพ : courant.com

Johnson ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม แต่เจ้าตัว “ไม่ยอมรับผิด” ซึ่งตัวของ Johnson ไม่เคยพูดออกมาจริง ๆ ว่าเขาโดนสิง เขาบอกเพียงแต่ว่าเขาจำเหตุการณ์ตอนแทงคนตายไม่ได้ ทนายความของเขาจึงตั้งข้อแก้ต่างทางกฏหมายว่าเขา “ถูกปีศาจเข้าสิง” ในตอนที่ลงมือสังหารชายคนนั้น สื่อต่าง ๆ จึงพาดหัวข่าวกันใหญ่โตว่าคดีนี้เกิดขึ้นเพราะปีศาจ รวมถึง Lorraine Warren ก็บอกเช่นนั้น 

พาดหัวข่าวคดีฆาตกรรม Alan Bono
ที่มาภาพ : historyvshollywood.com

ตามรายงาน Deborah Glatzel แฟนสาวของ Johnson อ้างว่า Johnson ได้เข้าร่วมพิธีไล่ผีของ David น้องชายของ Deborah และนั่นคือเหตุที่ทำให้เขากลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งคำกล่าวอ้างนี้ถูกยืนยันโดย Ed และ Lorraine Warren ที่ได้รับการติดต่อจากครอบครัว Glatzel ให้ช่วยทำพิธีไล่ผีให้ David - ซึ่ง Ed และ Lorraine Warren บอกว่า David พูดน้ำเสียงและภาษาแปลก ๆ มากมาย ภายในโบสถ์ St. Joseph ที่ Brookfield

เสียงขณะทำพิธีไล่ผีให้ David Glatzel

Lorraine Warren บอกกับสำนักข่าวในการเป็นพยานครั้งนี้ตอนพิธีไล่ผีว่า เธอได้ยิน Johnson บอกกับปีศาจว่า ปล่อย David ไป แล้วเอาเขาไปแทน 

ภาพ David Glatzel กำลังกอดแม่ขณะอยู่ในระหว่างพิธีไล่ผี
ที่มาภาพ : historyvshollywood.com

ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ผู้พิพากษายกคำร้องเนื่องจากไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ ทางคณะลูกขุนถกกันกว่า 15 ชั่วโมง ก็ได้ตัดสินให้ Johnson มีความผิดฐานฆ่าคนตาย รับโทษจำคุก 10 - 20 ปี แต่เขาก็ติดคุกเกือบ 5 ปีเท่านั้น เพราะประพฤติตัวดี ในระหว่างอยู่ที่คุกเขาก็ได้ประกาศนียบัตรชั้นมัธยมปลายและได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยหลายหลักสูตร แถมยังแต่งงานกับ Deborah พอออกมาทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกัน 2 คน

ในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) พี่ชายของ David อย่าง Carl ได้ออกมาฟ้อง Lorraine Warren ว่าเรื่องผีสิงน้องชายเขาเป็นเรื่องหลอกลวงเธอและสามีพยายามจะหากินกับเรื่องนี้ จริง ๆ น้องเขาแค่ป่วยทางจิตเท่านั้น แต่คดีก็ถูกยกฟ้องไป และหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่าง The Devil in Connecticut ก็หยุดพิมพ์

6. THE SOUTHEND WEREWOLF (ปีศาจหมาป่า)

Bill Ramsey ขณะกำลังถูกทำพิธีไล่ปีศาจหมาป่า
ที่มาภาพ : paranorms.com

นี่คือหนึ่งในเคสที่แปลกประหลาดที่สุดที่ Ed และ Lorraine Warren เคยเจอ ซึ่งมันเคยมีข่าวว่า The Conjuring 3 จะบอกเล่าเรื่องราวของเคสนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ เคสนี้เป็นอีกเคสที่อยู่นอกอเมริกา เรื่องราวเกิดขึ้นใน Essex, England มีชายคนหนึ่งนามว่า Bill Ramsey ที่คนว่ากันว่า เขาถูกปีศาจหมาป่าเข้าสิง

ความผิดปกติของ Bill เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) เมื่อครั้งอายุ 9 ขวบ เขาก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป ร่าเริงดูมีความสุข แต่อยู่มาวันหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็เริ่มแสดงท่าทีที่ไม่เหมือนมนุษย์ เจ้าตัวบอกว่าเขาได้วิ่งเล่นอยู่ที่สนามหลังบ้าน และจู่ ๆ ก็รู้สึกถึงความเย็นที่มาปกคลุมตัวเขาอย่างฉับพลัน

และทันใดนั้นเองจมูกของเขาก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรง เกิดอาการฉุนเฉียวและถอนเสารั้วบ้านออก และแทะตาข่ายลวดของมัน แต่ Ramsey ก็เติบโตขึ้นดั่งคนธรรมดาไม่มีอะไรผิดปกติ กลายเป็นสามีและพ่อที่น่ารักของลูก 3 คน จนกระทั่งช่วงปี ค.ศ. 1960s (พ.ศ. 2503-2512)

Bill Ramsey
ที่มาภาพ : slappedham.com

ในช่วงปีแรก ๆ ที่แต่งงาน Bill มักจะฝันร้ายซ้ำ ๆ เหงื่อแตก จนทำให้เขาตื่น และได้ยินเสียงหายใจของสัตว์ป่า จนเขาตระหนักได้ว่ามันคือเสียงจากตัวเขาเอง

ในช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523 - 2532) Bill เริ่มรู้สึกว่าเขาถูกครอบงำหนักขึ้น เขาไปเที่ยวกับเพื่อน และตอนกลับเขาจู่โจมเพื่อนของเขาบนรถในระหว่างกลับจากผับแห่งหนึ่ง หลังจากโดนจับก็จู่โจมตำรวจอีกหลายครั้งด้วยกัน

พาดหัวข่าว Bill จู่โจมตำรวจ 4 นาย
ที่มาภาพ : slappedham.com

ด้วยเหตุนี้ทำให้ Bill ต้องถูกขังในโรงพยาบาลหลายครั้ง โดยเขามีอาการหนักขึ้น มีอารมณ์ฉุนเฉียว มีพละกำลังเหนือมนุษย์ มีเขี้ยวงอกออกมา เริ่มคำรามเหมือนสัตว์ และเหมือนมีกรงเล็บงอกมาด้วย 

ในที่สุด Ed และ Lorraine Warren ก็ได้ยินเรื่องราวนี้และเดินทางไปหา Bill เพื่อโน้มน้าวให้เขาเดินทางมายังโบสถ์ใน Connecticut และทำพิธีไล่ผีกับ Bishop Robert McKenna ซึ่ง Bill ก็ตกลงยอมเดินทางมากับภรรยาของเขา ซึ่งในคืนก่อนทำพิธีไล่ผี Bill ได้พยายามบีบคอภรรยาของเขาขณะหลับ

เมื่อพิธีไล่ผีเริ่มขึ้น Bill ต่อต้านในทุกอย่าง รูปลักษณ์ของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเริ่มบิดเบี้ยว มือทั้งสองเริ่มมีกรงเล็บงอกออกมา McKenna ก็ได้ทำพิธีต่อไปและขอให้ปีศาจตนนี้ออกจากร่างนี้ซะ จนปีศาจร้ายนี้ก็ออกจากร่างและเกือบมาสิง McKenna แต่ในที่สุดมันก็หายไปแต่โดยดี

Ed กล่าวว่า 

Bill เป็นคนขอให้ขังเขาไว้ในห้องขังเพื่อปกป้องตัวเขาเองและปกป้องคนอื่น

7. THE HAUNTING IN CONNECTICUT / THE SNEDEKER HOUSE
(บ้านผีสิงแห่ง CONNECTICUT)

 
ภาพครอบครัว Snedeker
ที่มาภาพ : TVnewsblogger

คดีนี้เคยถูกนำมาทำเป็นหนังในชื่อ The Haunting In Connecticut ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) กับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) เมื่อ Carmen และ Al Snedeker กับลูกทั้ง 4 ของเธอ ได้เช่าบ้านหลังหนึ่งใน Southington, Connecticut โดยหารู้ไม่ว่าบ้านหลังนี้มีอดีตอันแปลกประหลาดและน่าสยดสยองอยู่

มันเริ่มจาก Carmen ได้เจอเครื่องมือแปลก ๆ ที่ห้องใต้ดิน และไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เคยเป็นโรงเก็บศพ และสมาชิกครอบครัวแต่ละคนก็เริ่มเจอกับประสบการณ์แปลก ๆ ตั้งแต่ลูกชายเห็นวิญญาณปรากฏตัว ทั้งขณะกำลังถูบ้าน น้ำในถังกลายเป็นเลือดและมีกลิ่นเหมือนปลาเน่า และทั้ง Carmen กับ Al บอกว่าพวกเขาโดนปีศาจคุกคามทางเพศตลอดระยะเวลาสองปีที่อยู่ที่นั่น

ภาพจากหนังสือพิมพบ้านของครอบครัว Snedeker
ที่มาภาพ : Twitter

จนในที่สุดครอบครัว Snekeder ก็ทนไม่ไหว และได้ติดต่อไปขอความช่วยเหลือจาก Ed และ Lorraine Warren ผลจากการสืบเรื่องเหนือธรรมชาติในครั้งนี้ ปรากฏว่าสิ่งที่ตามหลอกหลอนครอบครัว Snekeder คือวิญญาณที่อยู่ในห้องเก็บศพ พวกเขาถูกฆ่าและร่างที่เป็นศพก็โดนนักฆ่าข่มขืน หลังจากนั้นไม่นานครอบครัว Snekeder ก็ย้ายออกจากบ้านหลังนั้นไป 

8. THE SMURL HAUNTING (ปีศาจหลอนหลอกครอบครัว SMURL)

ครอบครัว Smurl
ที่มาภาพ : bloody-disgusting.com

ในปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) Jack และ Janet Smurl ได้ย้ายบ้านใหม่มาอยู่ที่ Chase Street West Pittston, Pennsylvania และเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นทำให้ครอบครัว Smurl เชื่อว่าบ้านหลังนี้มีปีศาจสิงอยู่

พวกเขาบอกว่าปีศาจได้เหวี่ยงหมาพันธุ์ German Shepherd กระแทกกำแพงอย่างแรง Jack โดนกัดที่หู และหนึ่งในลูกสาวของเขาโดนผลักตกบันได และทั้ง Jack และ Janet ก็โดนปีศาจคุกคามทางเพศอยู่บ่อยครั้ง

จนทำให้ในปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ทั้งคู่ได้ติดต่อไปยัง Ed และ Lorraine Warren เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งทั้งคู่ก็ยืนยันว่าบ้านหลังนี้โดนสิง และสิ่งที่อยู่ที่นี่มีพลังมาก 

Ed กล่าวว่าไม่นานอุณหภูมิในบ้านก็เย็นลงอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยมีการปรากฏของ “หมอกมืด” ลอยอยู่ภายในบ้าน และปีศาจก็ได้เขียนข้อความผ่านกระจกว่า “Get Out” บอกให้พวกเขา “ออกไป” 

Janet บอกว่าได้มีบาทหลวงมาทำพิธีไล่ผีอยู่สามหน แต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้ง จนมีอยู่ช่วงหนึ่งหลังจากที่พวกเขาได้สวดมนต์อย่างหนัก ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสงบลง แต่ในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) Janet บอกว่าเธอยังคงได้ยินเสียงเคาะและเห็นเงามืดตามติดตัวเธออยู่ ทำให้ในที่สุดครอบครัว Smurl ก็ย้ายออกไป

Jack และ Janet Smurl ยืนอยู่หน้าบ้าน
ที่มาภาพ : frightfind.com

ทั้งนี้ทั้งนั้นในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ก็ได้มีคนย้ายเข้ามาอยู่ และเคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่าไม่เคยพบเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติขณะอาศัยอยู่ที่นี่แต่อย่างใด

และเรื่องราวนี้ก็ได้ถูกเขียนเป็นหนังสือในชื่อ The Haunted และกลายมาเป็นหนังในชื่อเดียวกันช่วงปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534)

บ้างก็ว่าพวกเขา บ้า บ้างก็ว่าพวกเขา หลอกลวง คงมีแต่พวกเขาและคนที่เกี่ยวข้องที่จะตอบได้ว่าเรื่องเหล่านี้จริงหรือไม่ ถึงแม้ทั้งคู่จะเสียชีวิตไปแล้ว และถึงแม้จะมีใครเชื่อหรือไม่ก็ตาม ชื่อของพวกเขาจะถูกจดจำในฐานะนักสืบเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ หรือจะเรียกว่านักปีศาจวิทยา แต่พวกเขาเพียงอยากให้เรียกว่า Ed และ Lorraine Warren เท่านั้น

Lorraine และ Ed Warren
ที่มาภาพ : travelchannel.com