"Dell" แบรนด์คอมพิวเตอร์ชั้นนำที่ถือครองภาพลักษณ์ความเป็น "มืออาชีพ" ตลอดมา ด้วยการบริการหลังการขายชั้นเลิศที่พร้อมแก้ไขปัญหาทางเทคนิคให้ผู้ใช้งานอย่างทันท่วงที ผนวกกับคุณภาพฮาร์ดแวร์และวัสดุตัวเครื่องระดับสูง
ซึ่ง XPS 13 12-in-1 อัลตร้าบุ๊คตัวล่าสุดของ Dell นี้เอง ก็ยังอุดมไปด้วยจุดเด่นนานาชนิดของทางค่ายเช่นเดิม แต่เพิ่มเติม คือ ดีไซน์และหน้าจอสุดล้ำพับหามุมใช้งานได้ 360 องศา และสเปคเครื่องประสิทธิภาพสูง! เกริ่นมาซะขนาดนี้ คงอยากรู้รายละเอียดทั้งหมดแล้วล่ะสิ? เอาละ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ตามไปอ่านรีวิวของเจ้าอัลตร้าบุ๊คสุดเทพตัวนี้ต่อได้เลยครับผม!
มาเริ่มกันที่จุดเด่นที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดของเจ้าเครื่องนี้กันเลยดีกว่า นั่นก็คือ "ดีไซน์ภายนอก" ที่ออกแบบมาได้บางเรียบ เฉียบคมเลยทีเดียว และไม่ว่าจะหันดูมุมไหน หลืบใด ก็ไม่เจอพื้นที่นูนๆ มากระทบตาเลย ซึ่งดีไซน์ในส่วนนี้นั้น ดีงามมาก อารมณ์แบบถ้าเอาไปตั้งทำงานที่ร้านกาแฟ โต๊ะข้างๆ ต้องมีชายตามองมาบ้างละ
Dell XPS 13 2-in-1 มีขนาดความกว้างของหน้าจอเพียง 13.3 นิ้ว ที่แม้จะดูให้มาน้อย แต่ผู้เขียนมองว่าก็เพียงพอแล้วละสำหรับคอมพิวเตอร์ใช้งานฉบับพกพา แถมรูปแบบหน้าจอที่มีขอบบางอย่าง InfinityEdge และความละเอียดของหน้าจอแบบ Quad-HD (2K) ก็น่าจะทดแทนขนาดได้อยู่นะ
นอกเหนือจากฟังก์ชั่นความละเอียดของหน้าจอที่ดีแล้วนั้น ยังสามารถป้อนคำสั่งด้วยการสัมผัสหน้าจอโดยตรง หรือที่เรียกว่า Touch Screen ได้อีกด้วย อีกทั้งหน้าจอที่พับบิดได้แบบ 360 องศา! ก็ทำให้เจ้าอัลตร้าบุ๊คดีไซน์หรูเครื่องนี้ ใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์เอามากๆ อยากพรีเซนต์งาน ก็แค่บิดหน้าจอประกบเข้ากับตัวเครื่องเพื่อทำงานในรูปแบบ Tablet Mode อยากจะเอนกายพักผ่อนดูซีรีย์ ก็แค่บิดหน้าจอหามุมให้เหมาะกับระดับสายตาแล้วเพลิดเพลินไปกับการรับชม และก็ไม่ต้องห่วงว่าการบิดพับในแต่ละครั้ง จะทำให้ข้อที่เชื่อมต่อหน้าจอกับแป้นพิมพ์พัง นี่กำลังพูดถึง Dell อยู่นะ! มีหรือที่คุณภาพจะไก่กาตลาดนัด!
เอาเข้าจริงๆ อัลตร้าบุ๊คฉบับไฮบริด ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการแต่อย่างใด หากแต่เมื่อรูปแบบอัลตร้าบุ๊คดังกล่าวอยู่ภายใต้ชื่อสินค้าของ Dell "คุณภาพวัสดุ" จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ซึ่งใน XPS รุ่นล่าสุดนี้ ก็ไม่ทำให้ "ผิดหวัง" เพราะวัตถุที่ใช้ในการประกอบตัวเครื่องภายนอกนี้เป็นอลูมิเนียม เหล็กที่ขึ้นชื่อเรื่องทนรับแรงกระแทกได้แบบพอสมควร พร้อมน้ำหนักที่เบากว่าเหล็กทั่วไป ทำให้มั่นใจได้ระดับหนึ่งเลยละว่าการร่วงหล่น จะไม่ทำให้เครื่องเสียหายจนใช้การไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูระดับความสูงด้วยละ คือถ้าจากหอไอเฟลลงพื้นนี่ไม่พังก็บ้าแล้ว...
นอกจากที่ตัวเครื่องภายนอกจะแข็งแกร่งราวกับคนเหล็ก ปุ่มกดป้อนคำสั่งภายใน ทั้ง แป้นพิมพ์ และ Touchpad ก็เจ๋งใช่ย่อยเช่นกัน โดยแป้นพิมพ์นั้นมีไฟ Backlit ที่ทำให้เราสามารถทำงานในพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้ อีกทั้งช่องว่างระหว่างปุ่มก็ห่างกันแบบพอดิบดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
ทางด้าน Touchpad ก็น่าชมเชยไม่ต่างกันครับ โดยบริเวณดังกล่าวเมื่อได้สัมผัสนั้น จะให้ความรู้สึกที่เรียบไม่ติดนิ้ว แถมยังรองรับการสั่งการแบบหลายนิ้วมือหรือ Gesture control ที่ตอบสนองได้ดีสมราคา แถมเผลอๆ ใช้ไปสักพัก อาจเพลินจนลืมไปเลยว่าต่อเมาส์ได้
เห็นตัวเครื่องเรียบๆ คูลๆ แบบนี้ แต่ขอโทษครับ มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้วยนะจะบอกให้โดยจะทำงานสัมพันธ์กับ Window Hello หรือระบบรักษาความปลอดภัยใน Window 10 นั่นเองครับ ซึ่งเซ็นเซอร์ตรวจลายนิ้วมือนี้ ก็แม่นยำพอสมควรเลย ทำให้เราหายกังวลได้ในระดับหนึ่งว่าจะมีใครมาปลดล็อกเครื่องของเราง่ายๆ และถ้ามองในมุมเฮฮาหน่อย มันก็เป็นการเข้าใช้งานเครื่องที่โคตรจะเท่เลยทีเดียว ฮ่าๆ ชอบ! บ่องตง!
ช่องเสียบอุปกรณ์เดียวที่โน้ตบุ้ค Dell XPS 13 2-in-1 มีเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา คือ รูเสียบหูฟังขนาด 3.5 ครับ เพราะหากเพ่งไปที่พอร์ตหรือช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์หลักอื่นๆ แล้วละก็ จะพบว่าเจ้าเครื่องนี้มาพร้อมกับความยุ่งยากในการเชื่อมต่ออุปกรณ์พอสมควรเลยละ
เริ่มกันที่ช่องแรกกับที่เสียบการ์ด MicroSD กันเลยละกันครับ พอร์ตนี้ผู้เขียนเข้าใจว่าคงจะมีไว้รองรับไฟล์ภาพจากกล้องประเภทแอคชั่นแคมทั้งหลายที่ใช้รูปแบบการ์ดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นหลัก เพราะหากมองในนัยแฝงแล้วละก็ จะพบว่าอัลตร้าบุ๊คและแอคชั่นแคม คืออุปกรณ์ที่ลืมตาดูโลกในระยะเวลาใกล้เคียงกัน โดยทั้งสองต่างก็ถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ไว้ใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ แลัวจะเป็นอะไรละหากอุปกรณ์ทั้งสองนี้จะมีการเชื่อมต่อที่สัมพันธ์กัน
แต่เอาเข้าจริงๆ พอร์ตที่ชวนฉงนในเครื่องนี้ที่สุด ก็ดูจะเป็นพอร์ตหลักของเครื่องทั้งสองที่เป็น Type C ที่แม้จะเป็นพอร์ตใช้งานที่ออกมาได้สักพักใหญ่ๆ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นพอร์ตหนึ่งเดียวที่ใช้กันในปัจจุบัน และถึงแม้จะแถม Adapter ที่แปลงพอร์ต Type C เป็น USB 3.0 มาให้หนึ่งชิ้น แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ แต่ถ้าคิดกันอย่างตรงไปตรงมาว่า Dell XPS 13 2-in-1 เครื่องนี้
แต่คือจริงๆ ก็พอเข้าใจ Dell ในจุดนี้ ที่เขาคงจะอยากให้เราได้เข้าสู่การใช้งานแบบอนาคตอันใกล้นี้ และให้เหมาะสมกับความเป็นอัลตร้าบุ๊คที่เกือบทุกกระบวนการต้องจบภายในเครื่องเดียว แต่มันติดที่คำว่า "เกือบ" นี่แหละครับ เพราะยังไงซะผู้เขียนเชื่อว่าพอร์ต USB 3.0 ก็ยังเป็นพอร์ตให้เราใช้งานไปอีกนานอย่างน้อยต่ำๆ ก็ 2 - 3 ปี
ภายนอกที่ดูไฮโซเรียบหรูเพียงอย่างเดียว คงจะไม่สามารถจำกัดความเจ้า Dell XPS 13 2-in-1 เครื่องนี้ให้อยู่ในหมวดหมู่อัลตร้าบุ๊คได้หรอกนะครับ แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับสเปคของเครื่องที่แรงด้วย ก็เขาเรียกกันอัลตร้าบุ๊คนี่น่า ไม่ใช่มินิมอลบุ๊ค (มุกอะไรของตู...)
Dell XPS 13 2-in-1 ใช้หน่วยประมวลผล Core i7 7Y75 หรือที่เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่า i7 เจน 7 ที่ก็ถือว่าแรงและไม่ตกรุ่นไปอีก 3 - 4 ปีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งด้าน Ram ที่ให้มาถึง 16 GB ก็มากพอจะทำให้การทำงานบนเจ้าเครื่องนี้รวดเร็วและเปิดหลายๆ โปรแกรมได้ในคราเดียวกัน เช่น เปิดเบราว์เซอร์หลายหน้าต่างไปด้วย พิมพ์งานไปด้วย, ตัดต่อวิดีโอพร้อมตรวจเช็คฟุตเทจของวิดีโอที่จะนำมาใช้ด้วยโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอต่างหาก เป็นต้น
แต่ที่ดูจะน่าเสียดายที่สุด ก็คงจะเป็นด้านการประมวลผลของกราฟฟิกหรือการ์ดจอ ที่เป็นแบบออนบอร์ด ซึ่งการ์ดจอรูปแบบนี้ จะดึงทรัพยากรจาก Ram และ Cpu มาใช้งานครับ ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว การนำมาเล่นเกมส์ยุคใหม่ๆ บนเจ้าอัลตร้าบุ๊คเครื่องนี้ ก็ดูจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเกมส์ในช่วงปี 2012 เป็นต้นไป ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ลื่นปรื้ดๆ
ดังนั้น หากจะซื้อเจ้าเครื่องนี้ไปใช้งาน ก็คงต้องถามตัวเองสักหน่อยล่ะครับ ว่าเราจะมีรูปแบบการใช้งานไปในทิศทางไหน ถ้าเป็นงานที่เน้นด้านกราฟฟิกแบบหนักๆ (ปั้นโมเดล 3 มิติ ฯลฯ) เล่นเกมส์ภาพสวยอลังการ เจ้าเครื่องนี้ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใช้งานจิปาถะหลากหลาย ไม่ว่าจะทั้ง ตัดต่อ/ทำเอฟเฟควิดีโอในระดับปานกลาง, พิมพ์งาน, เปิดเบราว์เซอร์ หรือ นานาโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานทั่วไป Dell XPS 13 2-in-1 สามารตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ในระดับสูงเลยทีเดียว
โดยรวม Dell XPS 13 2-in-1 ก็ถือได้ว่าเป็นอัลตร้าบุ๊คที่สามารถนำมาใช้งานในเชิงออฟฟิศหรือเชิงสันทนาการได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสเปคของเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงในการนำมาใช้งานรูปแบบที่กล่าวไป พร้อมดีไซน์และขนาดที่ออกแบบมาไว้ให้พกพาได้อย่างสะดวกสบาย แต่กระนั้นด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นการ์ดจอแบบออนบอร์ด จึงไม่เหมาะสมกับการไว้เล่นเกมส์หรือใช้งานเชิงกราฟฟิกขั้นสูงสักเท่าไหร่ อีกทั้งพอร์ตหลักๆ ที่ตัวเครื่องให้มาอย่าง Type C ก็ดูจะมาก่อนกาลไปเสียหน่อย ไม่อยู่กับปัจจุบันไปอนาคตเลย
แต่หากใครที่มีความพร้อมเข้าสู่ยุคการใช้งานในอนาคตแบบเต็มตัวที่เน้นความรวดเร็วสะดวกสบาย หรือกำลังมองหาอัลตร้าบุ๊คทนไม้ทนมือแล้วล่ะก็ Dell XPS 13 2-in-1 อาจเป็นสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่ ก็เป็นได้ครับ
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |