รีวิว Canon EOS 200D กล้องโปรระดับเริ่มต้น ตัวเล็ก สีสวยโดดเด่น พร้อมชิป DIGIC 7

ก่อนหน้านี้ มีพรีวิว Canon EOS 200D สีน่ารักมุุ้งมิ้งไปให้ชมกันแล้ว ล่าสุดเราได้มีโอกาสนำกล้อง DSLR ระดับ New-Entry นี้ ไปลองใช้งานกันจริงๆ เลยขอมารีวิวการใช้งานให้ได้อ่านกัน แต่ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า เราไม่ได้จับกล้อง DSLR มานานมากแล้ว ส่วนใหญ่จะมีกล้องคอมแพคค่ายเขาญี่ปุ่น กับมือถือเป็นกล้องคู่ใจเสียส่วนใหญ่ การเปรียบเทียบในการรีวิวนี้ ก็จะเอนไปทางคนชอบถ่ายรูปทั่วไป มากกว่าการเล่นกล้องแบบมืออาชีพนะครับ

ก่อนอื่น มาสำรวจ สเปคของกล้อง DSLR ระดับเริ่มต้นอย่าง Canon EOS 200D กันก่อนดีกว่า

วิดีโอรีวิวกล้อง Canon EOS 200D

กล้อง DSLR ไซส์เพรียว

เชื่อว่าตากล้องหลายๆ คน ได้หลีกหนีจากกล้อง DSLR มาสู่กล้อง Mirrorless กันพักใหญ่ๆ แล้ว ซึ่งทางฝั่ง DSLR ก็ไม่ได้ยอมแพ้ พยายามออกแบบกล้อง DSLR ใหม่ๆ ให้มีน้ำหนักเบาลงและขนาดกะทัดรัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง EOS 200D ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นกล้องในระดับ Entry-Level แต่ก็เชื่อว่า จะสามารถดึงให้คนเริ่มเล่นกล้อง หันกลับมาเลือก DSLR ใช้งาน แทนที่จะเป็น Mirrorless กันได้พอสมควร เพราะนอกจากไซส์ที่เล็กพกพาง่ายแล้ว EOS 200D ยังมีสไตล์ที่เตะตาสายแฟชั่นอีกด้วย

สีสวยเหมาะกับสายแฟชั่น

อย่างตัวที่ได้มารีวิวนี้ เป็นสีเงิน Sophisticated Silver ซึ่งพอเป็นสีอ่อนๆ เลยทำให้ตัวกล้องดูละมุนไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มต่างๆ ตัวหนังสือโลโก้สีเทาเข้ม ที่ตัดกับบอดี้สีเทาอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกริ๊ปหนังสีน้ำตาล ตัดกับสีเทาได้เป็นอย่างดี ดูเป็นกล้องน่ารักๆ ดีไซน์สวย เป็นพรอพสำหรับคนชอบแต่งตัวอยู่ไม่น้อย (จริงๆ แล้ว เราชอบสีขาว Trendy White มากกว่า แต่ว่าเสียดายที่กริ๊ปของรุ่น Trendy White เป็นสีเทา ซึ่งเรามองว่า สีน้ำตาลมีเสน่ห์กว่า แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ)

คอนเซ็ปต์ที่ดีงามของรุ่นนี้ก็คือ เลนส์คิทที่ให้มาด้วย จะเป็นเลนส์สีเดียวกับตัวบอดี้ แต่ตอนแกะกล่องก็ขัดตาหน่อยๆ กับฝาปิดเลนส์และยางครอบช่องมองภาพที่เป็นสีดำ ตัดกับสีของตัวกล้อง

ดีไซน์ของเลนส์คิทตัวใหม่ วงแหวนโฟกัสเวลาหมุน จะไม่ไปขยับตัวเลนส์เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่เสียดายนิดๆ ที่ค่า F ของเลนส์ตัวนี้เริ่มต้นที่ 4 (4 - 5.6) ซึ่งเลนส์คิทตัวเก่าเริ่มที่ 3.5 ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ง่ายกว่าเลนส์ใหม่อยู่หน่อยๆ แต่เลนส์คิทใหม่ ก็มีระบบ STM มาชดเชยในด้านของการถ่ายวิดีโอ ที่ระบบออโต้โฟกัสค่อนข้างจะเงียบ

ปุ่มควบคุมต่างๆ

ปุ่มควบคุมต่างๆ ของกล้องให้มาน้อยตามคอนเซ็ปต์ของกล้องระดับ New-Entry แต่ก็สามารถกดคำสั่งต่างๆ จากหน้าจอที่เป็นทัชสกรีนได้ (แอบไม่ถนัดการตั้งค่าต่างๆ ของกล้องจากหน้าจอ) ที่แอบขัดใจเวลาใช้งานมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ ปุ่มล็อกแสง (สัญลักษณ์ '*') ที่อยู่ถัดจากตำแหน่งที่วางนิ้วโป้ง ต้องเอื้อมนิ้วไปขอบกล้องนิดๆ ทำให้การจับกล้องไม่ค่อยมั่นคง, ไม่มีปุ่มปรับ Drive mode คือพอเป็นกล้องสารพัดประโยชน์แล้ว ก็จะถูกสลับไปถ่ายเซลฟี่ หรือตั้งกล้องถ่ายบ้าง ที่ต้องเปลี่ยนระหว่างโหมดตั้งเวลาบ้าง เวลาเปลี่ยนไปเปลี่ยนกลับ เลยใช้เวลาควานหา หรือเซ็ตที่หน้าจออยู่พักหนึ่ง, ไม่มีปุ่มปรับไวท์บาลานซ์ อันนี้จะคล้ายๆ กับกรณีก่อนหน้า แต่หนักกว่าตรงที่ว่า ในเมนู Quick Setting ของหน้าจอก็ไม่มีให้ปรับเช่นกัน ต้องไปปรับลึกถึงเมนูด้านใน บ่อยครั้งก็เลยขี้เกียจ แล้วใช้ AWB ซะอย่างนั้น ค่อยมารอลุ้นภาพในภายหลังแทน

ส่วนอื่นๆ ของกล้อง ก็มีหน้าจอทัชสกรีนที่หมุนได้ 360 องศา ถ่ายมุมสูง-ต่ำ หรือเซลฟี่ได้ (ซึ่งน้ำหนักที่เบา ทำให้กล้องนี้เหมาะถ่ายเซลฟี่มาก) ช่องใส่ SD Card จะอยู่ช่องเดียวกับแบตเตอรี่ และด้านซ้ายของตัวกล้องมีสัญลักษณ์ NFC ไว้สแกนกับมือถือ เพื่อเชื่อมต่อกับแอปฯ Canon Camera Connect เพื่อใช้เป็นรีโมทหรือถ่ายโอนภาพได้

ซอฟต์แวร์ช่วยถ่ายภาพในโหมดโปรสำหรับมือใหม่

ด้านซอฟต์แวร์การใช้งานกล้อง ก็มีหน้าจอแนะนำในโหมดต่างๆ ที่ช่วยให้มือใหม่เข้าใจง่ายในการปรับค่าต่างๆ ของกล้อง เช่น ในโหมด Av ก็จะมีไกด์บอกว่า ค่า F ต่ำ ทำให้ฉากหลังเบลอ ค่า F สูง ทำให้ชัดทั้งภาพ, โหมด Tv ก็จะพูดถึงเรื่อง ค่าความเร็วชัดเตอร์ ที่จะส่งผลให้ภาพหยุดนิ่งหรือเคลื่อนไหว, โหมด P ก็จะพูดเรื่องการชดเชยแสง ที่ทำให้ภาพมืดลงหรือสว่างขึ้น เป็นต้น

ชิปประมวลภาพ DIGIC 7 ล่าสุด

กล้อง Canon EOS 200D ได้ใช้ชิปประมวลผลภาพตัวล่าสุด DIGIC 7 ซึ่งจะช่วยให้กล้องตัวนี้ สามารถถ่ายภาพด้วย ISO สูงๆ และยังคงรายละเอียดของภาพได้ดี จัดการจุดรบกวนได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างภาพที่ถ่ายมาก็ใช้ค่า ISO ที่ 25,600 ซึ่งคุณภาพของภาพ ก็ยังถือว่าใช้งานได้ดีทีเดียว หากเป็นภาพที่แสดงผลในหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป จุดรบกวนก็ยังดูสะอาดเนียนตาในระดับหนึ่ง

ในภาพขยาย จะเห็นว่า แม้จะมีจุดรบกวนขึ้นพอสมควร แต่รายละเอียดภาพก็ไม่เละมาก

รูปนี้ถ่ายด้วยค่า ISO 25,600 ในตลาดถนนคนเดิน ซึ่งจุดที่ถ่ายอยู่ในเงามืด มีแสงจากด้านนอกเพียงเล็กน้อย ที่ส่องมายังตัวแบบ แต่พอถ่ายออกมา ก็ได้แสงสีที่ค่อนข้างจะตรงกับสีจริงของวัตถุบนแสงปกติเลยทีเดียว

อีกจุดหนึ่งก็คือ Dual Pixel CMOS AF ที่ทำให้กล้องตัวนี้โฟกัสได้ไว รวมทั้งในโหมด Live view ซึ่งยอมรับเลยว่า ในโหมดไลฟ์วิวถ่ายสนุกมาก เลือกจุดโฟกัสด้วยการทัชสกรีนแล้วถ่ายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ขัดใจแต่อย่างใด และความเร็วก็แทบจะใกล้เคียงกับการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้องระดับ New-Entry ทั่วๆ ไป การโฟกัสในไลฟ์วิว จะทำได้ค่อนข้างช้า

รูปที่ได้จากกล้อง Canon EOS 200D

จากการที่เราไม่ได้จับกล้อง DSLR มานาน ส่วนมากอยู่กับกล้องคอมแพคกับกล้องมือถือ ที่เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก การกลับมาใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพ จึงมีอะไรหลายๆ อย่างที่ประทับใจอยู่นะ แต่ก็มีข้อสังเกตในบางจุดเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันต่อได้เลย

รายละเอียดภาพและสีสันครบถ้วน

ด้วยเซ็นเซอร์ของกล้องเป็นขนาด APS-C ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ากล้องคอมแพ็คและกล้องมือถือ ทำให้การบันทึกภาพต่างๆ มีมิติและรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งกว่า อย่างเช่นในภาพตัวอย่าง เราได้ลองถ่ายภาพวิว ในหลายๆ สภาพแสง ทั้งการถ่ายทิวทัศน์ทั่วไป ถ่ายแบบย้อนแสง รวมทั้งถ่ายในจุดที่สภาพแสงต่างกันมากๆ เช่นรูปใต้หลังคา แล้วยิงไปกลางแดด ผลปรากฏว่า เมื่อเราวัดแสงพอดี รายละเอียดของพื้นที่ต่างๆ ในภาพทั้งจุดที่มืดที่สุดและสว่างที่สุด ก็ยังคงอยู่ไม่หายไป สามารถนำมาตกแต่งต่อในคอมฯ หรือแอปฯ มือถือเพื่อทำให้ภาพสมบูรณ์ได้สบายๆ

โบเก้จากเลนส์คิทกลมสวย

ด้วยเลนส์คิทที่ติดกล้องมาด้วย สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ในระดับหนึ่ง (เน้นซูมเยอะๆ) ซึ่งก็ทำให้เกิดเป็นวงโบเก้ ที่กลมสวยใช้ได้เลย สำหรับคนที่ชอบเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ก็ถ่ายได้สนุกอยู่ในระดับหนึ่ง

แสงโบเก้ (Bokeh) จะเกิดจากการที่เราถ่ายรูป แล้วมีแสงหรือดวงไฟอยู่ในองค์ประกอบภาพนอกระยะโฟกัส ทำให้เกิดเป็นวงตามรูปแบบของหน้าเลนส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงกลม

โหมด Auto White Balance ภาพมักจะติดเหลืองหน่อยๆ

จากที่กล่าวไปข้างต้น ว่าขี้เกียจปรับ WB บ่อยๆ เลยมักจะใช้ AWB ในการถ่ายรูปไปเลย ซึ่งเมื่อสังเกตจากภาพแทบทั้งหมดในรีวิว จะเห็นว่าภาพจะไปทางโทนร้อน ติดเหลืองซะมากกว่า แต่การถ่ายอาหารแล้วติดเหลืองก็ทำให้ดูน่ากินไปอีกแบบนะ

สรุปกล้อง Canon EOS 200D

เคยมีความคิดที่ว่า เมื่อได้จับกล้องรุ่นใหญ่ๆ ขึ้นไปแล้ว การจะกลับมาจับกล้องระดับ New-Entry อาจจะรู้สึกหงุดหงิดพอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆ พอได้ลองนำ Canon EOS 200D ตัวนี้ไปลองใช้งานดู ก็ค่อนข้างถ่ายสนุกพอสมควรเลย ทั้งงานประกอบปุ่มต่างๆ ที่กดแล้วรู้สึกแน่นกระชับ ปุ่มชัตเตอร์ที่ให้ความรู้สึกในการกดที่ดี การโฟกัสที่รวดเร็วด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ลดระยะห่างของคุณภาพการโฟกัสกับกล้องระดับโปรได้เยอะพอสมควร รวมทั้งความโดดเด่นด้านตัวเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้พกพาไปถ่ายรูปได้แบบไม่ลำบากเลย สีสันของตัวกล้องก็เหมาะเป็นพรอพไว้ให้สาวๆ ถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี