ถ้าพูดถึง Pixar แล้ว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอนิเมชั่นจากค่ายนี้ล้วนแล้วแต่เนื้อดีทั้งนั้น เป็นหนึ่งในสตูดิโอที่ผลิตผลงานสุดยอดให้ผู้ชมทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และต่างก็โด่งดังแถมยังคว้ารางวัลมามากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Finding Nemo, The Incredibles, Toy Story, Wall-E และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่นอกเหนือจากอนิเมชั่นที่เป็นหนังฉบับยาวแล้ว ยังมีอนิเมชั่นฉบับสั้นอีกหลายเรื่อง ทั้งที่เป็นเนื้อเรื่องแยกออกมาจากเรื่องหลัก เนื้อเรื่องส่วนที่ขาดหายจากในหนัง หรือที่ฉายก่อนหน้าอนิเมชั่นหลายๆ เรื่อง ที่ล้วนแล้วแต่ตราตรึงใจ สร้างความประทับใจไปไม่น้อยกว่าหนังฉบับยาวเลยทีเดียว และเราจะมาพูดถึงอนิเมชั่นสั้นที่ฉายปะหน้าหนังแต่ละเรื่องกันดีกว่าครับ
1. The Adventures of André and Wally B. (1984)
สำหรับเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกของ Pixar สร้างตั้งแต่ยังไม่เป็นบริษัทใหญ่ของตัวเอง โดยในตอนนั้นทำงานร่วมกับ Lucas Film โดยในอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ André ที่ตื่นขึ้นมาเพราะผึ้ง และวิ่งหนีกลัวโดนผึ้งต่อย แต่สุดท้ายก็โดนต่อยอยู่ดี แล้วเจ้าผึ้งก็โดนเขวี้ยงหินใส่ จบ สั้น เรียบง่าย ธรรมดา แต่ในยุคนั้นถือว่ามันดูล้ำและน่าตื่นตาตื่นใจมาก
2. Luxo Jr. - ฉายปะหน้า Toy Story 2 (1986)
ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 59 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม โดยอนิเมชั่นนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโคมไฟและลูกบอล Luxo ที่เป็นสัญลักษณ์และ Easter Egg ของ Pixar มาจนถึงทุกวันนี้ ผู้สร้างได้ทำให้สิ่งไม่มีชีวิต ได้มีชีวิตอย่างน่าเอ็นดูและน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
3. Tin Toy - ฉายปะหน้า Toy Story (1988)
เป็นหนัง CGI เรื่องแรกที่ชนะรางวัล Oscar ครั้งที่ 61 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวของของเล่น ที่กลัวจะโดนเด็กทารกจับไปเล่นจนพัง ถึงแม้ตัวโมเดลจะยังไม่สวยมาก แต่ดูองค์ประกอบต่างๆ แสงและเงา ถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลย
4. Geri’s Game - ฉายปะหน้า A Bug’s Life (1997)
ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 70 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวของชายแก่ที่เล่นหมากรุกอยู่คนเดียว แบบเอาจริงเอาจังมาก สลับกันเล่นกับตัวเอง ที่ทำให้ดูแล้วอมยิ้มในหลายๆ ฉากเลย ด้วยความตลกนี้ทำให้เอาชนะใจผู้ชมหลายๆ คนได้ไม่ยาก
5. For the Birds - ฉายปะหน้า Monster, Inc. (2000)
ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 74 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนกเกาะสายไฟ ที่มีนกตัวใหญ่หน้าซื่อๆ อยากจะมาเกาะ แต่แล้วในตอนจบเหล่านกตัวเล็กก็พยายามจิกนกตัวใหญ่ให้ตกจากสายไฟฟ้า แต่ด้วยความที่สายไฟมันดึงลงมาถึงพื้นแล้ว นกตัวใหญ่ก็ที่โดนจิกจนร่วง ก็ทำให้สายไฟดีดกลับข้างบน ตัวที่เหลือก็ลอยขึ้นไปและตกลงมา ขนหลุดหมดเลย ด้วยความบื้อของหน้าตาเจ้านก มุกตลกในตอนจบ บวกกับอนิเมชั่นที่สวยงาม ทำให้ไม่แปลกใจเลยทำไมเรื่องนี้ถึงได้รางวัลออสการ์ไปครอบครอง
6. One Man Band - ฉายปะหน้า Cars (2005)
ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้รางวัลออสการ์ แต่ก็ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 78 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เรื่องราวเกี่ยวกับนักดนตรีสองคนที่พยายามเล่นดนตรีแข่งกันเอาชนะใจเด็กหญิงคนหนึ่ง เพื่อที่จะได้รับการบริจาคเหรียญจากเด็กหญิงคนนั้น เพราะเจ้าตัวมีอยู่เหรียญเดียว แต่ตอนจบ... ต้องไปดูเอาครับ 555
7. Presto - ฉายปะหน้า Wall-E (2008)
ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 81 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวของนักมายากลที่ใช้กระต่ายแสดง แต่ไม่ยอมให้แครอทกระต่ายกิน เรื่องเลยบันเทิง จนทำให้เกิดการกลั่นแกล้งของกระต่ายกับนักมายากลคนนั้น เป็นการกลั่นแกล้งและมุกตลกแบบเจ็บตัว ได้อย่างสร้างสรรค์และสนุกมากๆ
8. Partly Cloudy - ฉายปะหน้า Up (2009)
ในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับก้อนเมฆและนกกระสา ก้อนเมฆจะเป็นคนผลิตเด็ก หรือสัตว์น่ารักๆ เพื่อให้นกกระสาไปส่ง แต่มีอยู่ก้อนนึงทำไม่ได้ เลยไม่มีนกกระสาตัวไหนอยากมาหา แต่มีอยู่ตัวหนึ่งมาหาเจ้าก้อนเมฆนี้ และพยายามจะเอาไปส่งอยู่เสมอๆ เราจะได้เห็นมิตรภาพน่ารักๆ จากเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
9. Day & Night - ฉายปะหน้า Toy Story 3 (2010)
เรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่โดยส่วนตัวชอบเป็นอันดับต้นๆ จากเรื่องทั้งหมดเลย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 83 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวของตัวการ์ตูนสองตัวที่มีชีวิตอยู่คนละช่วงเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก เป็นการเล่าเรื่องทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ ภาพสวย และสื่อออกมาได้ยอดเยี่ยม ในช่วงเวลากลางวันและกลางคืนต่างก็มีความสวยงามในตัวของมันเองในแต่ละช่วงเวลา
10. Blue Umbrella - ฉายปะหน้า Monster University (2013)
เรื่องราวของร่มสีน้ำเงินกับการพบเจออุปสรรค ฝ่าฟันต่างๆ ก่อนที่จะไปพบกับร่มสาวสีแดง โดยอนิเมชั่นเรื่องนี้ลงตัวมาก เพลงก็เพราะชวนน่าติดตาม บวกกับภาพที่สวยงาม แม้ความยาวจะยาวเพียงไม่กี่นาที แต่สามารถทำให้เราติดตามได้ตลอดเวลาเลยแหละ
11. Lava - ฉายปะหน้า Inside out (2014)
หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคย กับอนิเมชั่นสั้นเรื่องนี้ และเพลงติดหูมากๆ "I have a dream, I hope it will come true" เรื่องราวของภูเขาไฟที่ตามหารักแท้ ยิ่งบทพูดที่ร้องเป็นเพลง ทำออกมาได้อย่างลื่นหูและดีมาก เพลงก็เพราะ เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่หนัง Inside out ยังไม่ฉายเลย และในช่วงนั้นนับว่าถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย
12. Piper - ฉายปะหน้า Finding Dory (2016)
ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 89 สาขาอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เป็นอนิเมชั่นขนาดสั้นที่ชอบที่สุด และนับว่าเป็นอนิเมชั่นสั้นที่ภาพสวยที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ โมเดลตัวละคร ขน น้ำ ทุกๆ องค์ประกอบของอนิเมชั่นสั้นเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมากๆ โดยเป็นเรื่องราวของลูกนกตัวหนึ่งที่กำลังเติบโต และแม่นกอยากให้ลูกนกตัวนี้เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง มันจะสะท้อนให้เห็นถึงการเรียนรู้ การสอนให้ใช้ชีวิต และการดำเนินชีวิตของลูกนกอย่างน่าเอ็นดู
และมีข่าวคราวว่าอนิเมชั่นสั้นปะหน้าเรื่องล่าสุด ที่จะฉายปะหน้าอนิเมชั่นครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่ Incredibles 2 โดยมีชื่อเรื่องว่า "Bao"
ไม่เพียงแต่หนังอนิเมชั่นชื่อดังทั้งหลายเท่านั้น เราก็ยังเห็นได้ว่าทาง Pixar ก็พิถีพิถันใส่ใจรายละเอียดกับอนิเมชั่นขนาดสั้น และทุกผลงานที่พวกเขาได้ทำออกมาให้เราได้รับชมกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาเป็นสตูดิโอชั้นนำของโลก
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |