Halloween | สรุป Timeline และเรื่องราวในแฟรนไชส์ Halloween ทั้ง 10 ภาค

เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ได้มีหนังที่ปลุกกระแสหนังแนว Slasher ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และยังสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นไอค่อนจวบจนทุกวันนี้ไม่แพ้พวก เจสัน ศุกร์ 13, เฟรดดี้ นิ้วเขมือบ หรือ เลเธอเฟส สิงหาสับเลยแม้แต่น้อย ซึ่งคอหนังแนวสยองขวัญต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เขามีชื่อเสียงมาก เป็นทั้งการ์ตูน นิยาย หรือแม้กระทั่งเกม กับหนังฆาตกรหน้ากากขาว Michael Myers จากหนังเรื่อง Halloween

จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้นั้น เป็นผลงานจากฝีมือการกำกับของผู้กำกับที่คลั่งไคล้หนังสยองขวัญอย่าง John Carpenter เขาเป็นทั้งผู้กำกับ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ และยังประพันธ์เพลงเองในหนังของเขาอีกหลายเรื่องด้วย ณ ตอนนั้นถือว่าเรื่องนี้เป็นหนังทุนต่ำมากเพราะใช้ต้นทุนไปเพียง 325,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่มันกลับทำกำไรได้ไม่น้อยเลย ในประเทศได้ไปถึง 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรวมทั่วโลกได้ไปถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเป็นการเปิดตัวฆาตกรที่ก้าวเข้ามาเป็นไอค่อนของวงการฆาตกรหน้ากาก และหนังแนว Slasher เลยทีเดียว

นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ได้ถูกทำภาคต่อออกมาหลายต่อหลายภาค ทั้งรีเมคใหม่เอย อะไรเอย โดยทั้งหมดก็ถูกทำออกมาแล้วถึง 10 เรื่องด้วยกัน!!! ไม่ว่าจะเป็นรวมไปถึงซึ่งในแต่ละภาคผู้กำกับก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละภาคด้วย

และในปี 2018 นี้ หนัง Halloween ก็ได้ถูกทำขึ้นมาอีกครั้ง โดยเป็นผลงานการกำกับของ David Gordon Green และยังได้ John Carpenter มารับหน้าที่ดูแลด้านตัวละคร บริหารงานสร้าง และประพันธ์เพลงในเรื่องนี้อีกด้วย การกลับมาในครั้งนี้ของฆาตกรหน้ากากขาวไม่ธรรมดาแน่นอน

แน่นอนว่าด้วยความที่ฆาตกรตัวนี้มีหลายภาคเหลือเกิน หลายคนอาจอยากลองไล่ดู อาจสงสัยว่า เอ๊ะ ควรจะดูภาคไหนก่อน มีไทม์ไลน์เป็นยังไง เดี๋ยวเราจะมาสรุปเรื่องราวในแต่ละภาคให้ฟังว่ามันเป็นยังไง มารับชมกันได้เลยครับ

*คำเตือนภาพอาจมีความรุนแรงระคายตาบ้าง และมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่องราวที่ผ่านมา*

คือมันจะแบ่งเป็นไทม์ไลน์หลักๆ ดังนี้ ภาคต้นฉบับ 1-6 มีเนื้อเรื่องต่อกัน (ยกเว้นภาค 3)

และไทม์ไลน์ใหม่ H20 กับ Reseruction เป็นเหตุการณ์ที่เล่าต่อจากภาค 2 ของต้นฉบับ แต่จะเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาค 4 ของต้นฉบับแทน

และฉบับรีบูท Halloween ของ Rob Zombie อีก 2 ภาค

และล่าสุดที่กำลังจะเข้าโรง Halloween 2018 ที่เล่าเรื่องราวต่อจากเนื้อเรื่องในภาค 1 ต้นฉบับ

ต้องบอกว่าทั้ง 10 ภาคนั้น ภาคที่ไม่ต้องไปดูหรือไม่ต้องไปสนใจมันเลยนั่นก็คือ ภาค 3 Halloween III: Season of the Witch (1982) เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Michael Myers เลย นับว่าเป็นอีกเรื่องราวเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นดูข้ามไปเลยก็ได้

ภาคแรก
Halloween (1978)

เรามาพูดถึงเรื่องราวในภาคแรกกันก่อนดีกว่า Michael Myers เป็นฆาตกรโรคจิตใส่หน้ากากสีขาว ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังแฟรนไชส์เรื่อง Halloween ในปี 1978 เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1957 มีพี่สาวชื่อ Judith Myers และน้องสาวอีก 1 คน Laurie Strode พวกเขาอยู่บ้านเลขที่ 45 Lampkin Lane ในเมือง Haddonfield

เมื่อ Michael โตขึ้นเขาได้ฝันร้ายบวกกับได้ยินเสียงประหลาดในหัวของเขา สั่งให้ฆ่าคน เมื่อเขาอายุได้ 6 ขวบ เขาได้เริ่มลงมือฆาตกรรมครั้งแรกในคืนวันที่ฮาโลวีนที่ 31 ตุลาคม 1963 Michael ได้ใส่ชุดตัวตลก และหยิบมีด เข้าไปสังหารพี่สาวของตนเอง Judith ตายอย่างโหดเหี้ยม และก็มายืนทำนิ่งอยู่หน้าบ้านจนพ่อแม่มาเจอ แต่ด้วยความเป็นเด็กเขาจึงไม่ได้ติดคุก แต่โดนส่งไปที่สถานบำบัด Smith Grove แทน โดยคนที่ดูแลเขาก็คือ Dr. Sam Loomis

15 ปีต่อมาก่อนคืนวันฮาโลวีนหนึ่งวัน Michael ได้หนีออกมาจากสถานบำบัด Smith Grove กลับไปยังบ้านเกิด Haddonfield เพื่อไปตามล่าน้องสาวของตัวเอง Laurie Storde นั่นเอง

Michael ได้ตามไล่ล่า Laurie อย่างไม่ลดละ และยังฆ่าเพื่อนๆ ของเธอ ในตอนท้ายของภาคนี้เรายังได้เห็นหน้าที่แท้จริงของ Michael ด้วย จนในที่สุด Dr. Sam Loomis ก็เข้ามาช่วยเธอเอาไว้ด้วยการยิงปืนใส่ Michael ไป 6 นัด ทำให้ตกจากระเบียงลงไป แต่พอตามมาดูเขาก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ภาค 2
Halloween II (1981)

โดยในภาค 2 เราก็จะได้พบว่า Michael ยังไม่ตาย เขาได้ตาม Laurie มาถึงโรงพยาบาลที่เธอรักษาตัวอยู่ และฆ่าคนอีกเป็นเบือ แต่แล้ว Dr. Sam Loomis ก็มาได้ทันเวลาพอดี เขาได้มาช่วย Laurie ไว้อีกครั้ง ด้วยการระเบิด! มันซะเลย ภาพสุดท้ายที่เราเห็นคือ Michael โดนไฟคลอกและล้มลงต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย

ภาค 3
Halloween III: Season of the Witch (1982)

อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่าภาค 3 นั้นไม่ได้มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ Michael Myers แต่อย่างใด แต่แอบมีการปรากฏตัวของเขามาอยู่หนึ่งฉากถ้วน ซึ่งคือฉากในบาร์ เราจะเห็นการปรากฏตัวของ Michael ในทีวี ซึ่งเป็นฉากจากภาคแรกตอนกำลังไล่ล่า Laurie นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรจึงขออณุญาตข้ามไปก็แล้วกันนะครับ

ภาค 4
Halloween 4: The Return of Michael Myers (1988)

โดยภาคนี้จะเริ่มต้นเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาค 2 หลังจากที่ Michael โดนไฟคลอกแล้ว ก็ได้ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 10 ปีด้วยกัน และก็อีกเช่นเคย ก่อนคืนวันฮาโลวีนหนึ่งวัน เขาก็ฟื้นขึ้นมาฆ่าทุกคนทิ้ง! และหนีไปตามล่า Laurie เช่นเดิม แต่เรื่องมันก็น่าตลกดีตรงที่ Laurie ได้ตายไปแล้ว เขาเลยไปไล่ล่าลูกของ Laurie หรือหลานสาวของเขาแทน เธอคือ Jamie Lloyd นั่นเอง (เหมือนคนนี้ตายและ เอาอีกคนก็ได้ฟะ อะไรทำนองนั้น 555)

ความซวยจึงตกไปอยู่ที่ Jamie เต็มๆ เพราะเธอโดนไล่ฆ่า แต่แล้ว Dr. Sam Loomis ก็ปรากฏตัวดั่งฮีโร่ออกมาช่วยเหลือเธอให้ปลอดภัยอีกครั้ง

แต่เรื่องมันไม่ได้จบง่ายๆ แบบนั้น เมื่อ Jamie เริ่มฝันถึง Michael Myers และเริ่มมีอาการเห็นภาพหลอนคิดว่าตัวเองคือ Michael ตอนเด็ก

Michael ก็ได้มาตามล่า Jamie อีกครั้ง แต่ในคราวนี้พี่สาวของ Jamie ก็รับมือกับ Michael ได้เป็นอย่างดี เธอได้ขับรถชน Michael ซะกระเด็นเลย ด้วยความที่สงสาร Jamie จึงเดินไปเช็คศพลุงตัวเอง ปรากฏว่าเขาฟื้นขึ้นมา แต่โชคดีที่เหล่าตำรวจได้ตามมาและกระหน่ำซัดลูกกระสุนให้ Michael กินอย่างไม่บันยะบันยัง ทำให้เขากระเด็นตกไปในหลุมอย่างรุนแรง

เรื่องราวตอนจบในภาคนี้ Jamie ได้มีครอบครัวบุญธรรมรับไปเลี้ยง เราจะได้เห็นภาพเดียวกับที่เราเห็น Michael ทำในตอนเด็ก Jamie ได้ใส่ชุดตัวตลก พร้อมถือกรรไกรแทงแม่บุญธรรมของเธออย่างโหดร้ายทารุณ ด้วยหน้าตาที่นิ่งเฉย และตัดจบ…

ภาค 5
Halloween: The Revenge of Michael Myers (1989)

มาในภาค 5 นี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจากภาค 4 ในฉากที่ Michael โดนยิงตกลงไปในหลุม ตำรวจเหล่านั้นก็ตามมาทิ้งระเบิดใส่เพื่อฆ่าเขาซะ แต่หารู้ไม่ว่า เขาสามารถหนีออกมาได้และไหลไปตามลำธาร จนกระทั่งได้เจอกับบ้านหนึ่ง ซึ่งชายที่อาศัยในบ้านนั้นก็ได้ช่วยเหลือ Michael และคอยดูแลเขาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม

แต่ด้วยความไม่สำนึกบุญคุณ รู้ความกตัญญู เขาฟื้นขึ้นมาเขาก็ฆ่าชายคนนั้นซะ (เอ้า!) แล้วออกไปไล่ล่าหลานสาว Jamie ของเขาเช่นเดิม!

เช่นเดิม Dr. Sam Loomis ได้ปรากฏตัวออกมาช่วย Jamie อีกครั้ง โดยการบอกว่าถ้าอยากได้ตัว Jamie ให้ตามมาที่บ้านเก่าของ Michael สิ ทั้งตัว Dr. Sam Loomis และตำรวจต่างก็ติดตั้งกับดักเอาไว้ทั่วทั้งบ้าน

แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อ Michael ไม่หลงกลและหลอกล่อตำรวจด้วยการไปก่อเหตุฆาตกรรมที่อื่น และก็ตามมาไล่ล่า Jamie ในบ้าน ก่อนที่เขาจะสังหาร Jamie ทิ้ง ตัวเธอได้ขอเห็นหน้าที่แท้จริงของ Michael ได้ไหม

และนั่นเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นใบหน้าตอนโตของฆาตกรหน้ากากขาว แถมน้ำตาอีกด้วย! แต่หลังจากนั้นเขาก็ไล่ฆ่าเธอต่อในทันที แต่ดั่งเช่นเดิมชายคนนี้อยู่ถูกที่ถูกเวลาตลอด Dr. Loomis ก็ได้มาช่วยและจับ Michael ไปขังคุกจนได้

แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น เมื่อมีชายชุดดำลึกลับมาช่วย Michael แหกคุก ทั้งคู่หายตัวไป รวมถึง Jamie ด้วย

ภาค 6 (ภาคสุดท้ายของต้นฉบับ)
Halloween: The Curse of Michael Myers (1995)

ซึ่งภาคนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชัน เป็นเวอร์ชันธรรมกับเวอร์ชัน Producer Cut ซึ่งมันจะตากกันตรงที่ฉากการเหตุผลการตั้งท้องของ Jamie และตอนจบ

ในภาคนี้ชายชุดดำได้พา Michael กับ Jamie มายังสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง โดยตอนนั้น Jamie อายุ 15 ปีแล้ว และถูกทำให้ท้องโดย Michael ลุงของเธอเอง!!! หลังจากเธอคลอดเธอก็ได้หนีออกมาจากที่แห่งนั้นพร้อมลูกของเธอ

เธอได้โทรบอก Dr. Loomis และทิ้งลูกของเธอไว้ที่สถานี ก่อนตัวเธอจะหนีไป แต่จนแล้วจนรอด ในที่สุดเธอก็โดน Michael ตามมาเจอและสังหารเธอลงอย่างโหดเหี้ยม

แล้วลูกของเธอหล่ะ? นอกเหนือจาก Dr. Loomis แล้ว Tommy Doyle ก็ได้ยินความช่วยเหลือของเธอ จึงไปนำตัวลูกของเธอมา และตั้งชื่อให้เด็กคนนั้นว่า Stephen

ซึ่งเขาเคยปรากฏตัวแล้วในตอนที่เป็นเด็กที่ Laurie เคยมาเป็นพี่เลี้ยงให้

ในภาคนี้ได้มีการเปิดเผยว่า Michael ได้โดนคำสาปให้ฆ่าคนจากตัวอักษรรูน ที่ถูกเรียกว่า Curse of Thorn

ณ ตอนนั้นบ้านเก่าของ Michael ได้มีครอบครัวใหม่เข้ามาอยู่ เขาเลยตามค้างล้างบางครอบครัวทิ้งซะ เหลือแต่ Danny และแม่ของเขา

และชายชุดดำลึกลับที่เคยช่วย Michael ไว้ เขาก็คือเพื่อนของ Dr. Loomis ชื่อ Terence Wynn เขาและกลุ่ม Cult of Thorn ได้พาตัว Michael, Stephen, Danny และแม่ของ Danny ไปที่สถานบำบัด Smith Grove

โดยเรื่องนี้มีตอนจบอยู่ 2 แบบ ซึ่งเวอร์ชันปกติ Tommy กับ Dr. Loomis ก็ได้ตามไปช่วยทัน และด้วยสกิลพระเอกจ๋าของ Tommy ก็ได้ซัด Michael ซะเละเทะ แต่ตัดกลับมาอีกที ก็เจอเพียงแต่หน้ากากสีขาวของ Michael กับเข็มฉีดยาตกอยู่พร้อมเสียงร้องของ Dr.Loomis และเหตุผลที่เค้าร้องนั้นต้องดูในเวอร์ชัน Producer Cut เท่านั้น และก็จบลง

แต่เวอร์ชัน Producer Cut จะจบโดยการที่ Tommy กับ Dr. Loomis ไปช่วยเหมือนเดิม แต่ Tommy ต้องปะทะกับ Michael ซึ่งๆ หน้า และเขาได้ทำพิธีบางอย่างพร้อมพูดว่า SAMHAIN จนทำให้ Michael หยุดนิ่งไป เขาจึงหนีไปได้ แต่พอจะหนี Dr. Loomis ก็ขอไปสะสาง โดยกลับมาก็เจอ Terence เพื่อนของเขานอน อยู่ และทำให้ Dr. Loomis โดนคำสาป Curse of Thorn แทน นี่คือเสียงและเหตุผลที่ร้องที่ปรากฏในเวอร์ชันปกติ ส่วน Michael ก็หนีไปได้อีกเช่นเคย

Halloween H20 (1998)

ภาคนี้จะเป็นไทม์ไลน์ใหม่ ซึ่งถ้าตามไทม์ไลน์ปกติ Laurie จะเสียชีวิตไปแล้วในภาค 4 แต่ในภาคนี้ Laurie จะยังไม่เสียชีวิต และไม่ได้มีลูกสาว แต่มีลูกชายแทน และคนที่เสียชีวิตแทนคือ Dr. Sam Loomis ที่เสียชีวิตจากโรคชรานั่นเอง

โดยจะเป็นเรื่องราวต่อจากภาค 2 ที่ Michael โดนระเบิดจากโรงพยาบาลและหายสาบสูญไป ส่วนทางด้าน Laurie ได้ปล่อยข่าวว่าเธอตายแล้ว และหนีไปที่อื่น มีชีวิตใหม่ ชื่อใหม่ แต่ถึงเธอจะหนีไปไกลแค่ไหนก็ตาม Michael ก็มาปรากฏตัวไล่ล่าเธออีกครั้ง!!!

แต่เธอเลือกที่จะสู้ และทำให้ Michael แน่นิ่งไปเลย แต่ก่อนเธอจะปิดฉากจริงๆ ก็โดนห้ามไว้และตำรวจก็มา หลังจากตำรวจมาเก็บศพของ Michael เธอไม่สบอารมณ์ และเพื่อความแน่ใจของเธอ เธอได้เอารถที่ขนศพ Michael ไปจัดการต่อเพื่อปิดบัญชีจริงๆ เธอได้ตัดหัว Michael ด้วยขวาซะขาดลงมากลิ้งกับพื้นเลย และจบ

Halloween Resurrection (2002)

เหมือนจะจบแต่ยังไม่จบ เพราะคนที่ Laurie ฆ่า ไม่ใช่ Michael ซะนี่ แต่กลับเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ Michael จับสวมชุดให้

และแน่นอนว่า Michael ก็ไปตามล่า Laurie อีกเช่นเคย และคราวนี้ Michael ก็ปิดบัญชีได้เสียที...ในที่สุดเขาก็ได้กลับบ้านไปอาศัยอยู่ใต้บ้านของเขาเอง

แต่แล้วก็มีคนมาทำเกมโชว์โดยให้กลุ่มวัยรุ่นไปอยู่ในบ้านเก่าของ Michael และหลังจากนี้คงเดาไม่ยาก เหล่าวัยรุ่นก็โดนไล่ฆ่ากันไปทีละคนทีละคน เหลือเพียงแต่หญิงสาว Sara Moyer และ Freddie Harris คนจัดเกมโชว์เท่านั้นที่รอด

Freddie ได้ใช้ไฟช็อต Michael จนทำให้เขาโดนเผาไปพร้อมกับบ้านที่รักของเขาเอง และร่างของ Michael ก็ถูกนำไปห้องเก็บศพ แต่แน่นอนว่า...เขา….ยัง...ไม่...ตาย!!!

Halloween (2007)

โดยนี่จะเป็นการรีบูทใหม่ และบอกเล่าถึงต้นกำเนิดของฆาตกรรายนี้แทน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภาคแรกของแฟรนไชส์ Halloween ในปี 1978 ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวของ Michael ตั้งแต่ตอนเด็กๆ

ในภาคนี้เราจะเห็นได้ว่า Michael เป็นเด็กมีปัญหาอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหา และตัวเองก็ชอบฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์อย่างโหดเหี้ยม แถมยังโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งอยู่เสมอๆ และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นกำเนิดของฆาตกรหน้ากากขาวคนนี้ เมื่อเขาได้เริ่มฆ่าศพแรกคือเพื่อนที่ชอบแกล้งเขานั่นเอง พ่อเลี้ยง แฟนพี่สาว และพี่สาวของเธอ

เรื่องก็ดำเนินตามแนวทางของภาคแรก โดยในที่สุดเขาก็ได้ถูกส่งตัวไปสถานบำบัด Smith Grove ภายใต้การดูแลของ Dr. Sam Loomis แต่แม่ของ Michael ก็มาเยี่ยมเป็นระยะๆ

แต่เหมือนกับว่าการรักษาจะไม่ได้ผล เมื่อ Michael ยังคงฆ่า!!! อยู่ดี และแม่ของเขาก็รับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้แม่ของเขาฆ่าตัวตายไปในที่สุด Dr. Loomis เลยสั่งขัง Michael ซะเลย

ตามเนื้อเรื่องเดิมเป๊ะๆ โตขึ้นเขาก็ได้หนีออกมาเพื่อไล่ล่า Laurie แต่คราวนี้ Laurie ได้ยิงกระสุนสังหาร Michael เข้าไปเต็มๆ

Halloween II (2009)

มาที่ภาคต่อของหนังรีบูท เมื่อ Michael ยังไม่ตาย และเห็นภาพหลอนของแม่กับม้าสีขาว เขามีความต้องการที่จะให้ Laurie กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง

โดนในตอนจบภาคนี้ก็จะมีสองเวอร์ชันเช่นกัน โดยในเวอร์ชันปกติ ได้จับตัวเธอมาที่กระท่อมร้างแห่งหนึ่ง แถมเธอยังเห็นภาพหลอนของ Michael ตอนเด็กกับ แม่ของเธออีกด้วย เช่นเดิม Dr. Loomis ก็ตามมาช่วย แต่เหมือนคราวนี้จะไม่พระเอกสักเท่าไหร่ เพราะโดน Michael จ้วงแทงไปหลายแผล ตายอย่างง่ายดาย และคราวนี้ Michael พลาดท่าโดนตำรวจ Sniper ส่องทำให้ล้มลงเสียชีวิต

Laurie เดินไปหา Michael พร้อมบอกว่ารักเขา และใช้มีด Michael แทงลงไปที่ตัวของเขาอย่างไม่ยั้ง พร้อมสวมหน้ากากขาวของ Michael เดินออกมา

อีกเวอร์ชันหนึ่ง เธอก็โดนจับตัวไปที่กระท่อมร้างเช่นกัน แต่คราวนี้ Dr. Loomis มาช่วย ก็โดนฆ่าเช่นกัน แต่โดนฆ่าข้างนอกกระท่อม แต่พอโดนฆ่าข้างนอก Michael เลยเป็นเป้านิ่งโดนกระหน่ำยิงไม่ยั้ง สักพัก Laurie ก็เดินออกมาหยิบมีดของ Michael เดินมาหา Dr. Loomis เธอเลยโดนกระหน่ำยิงอีกเช่นกัน

โดยในตอนจบทั้งสองเวอร์ชัน เธอได้ถูกส่งไปสถานบำบัด เป็นภาพเธอนั่งยิ้ม พร้อมเห็นภาพหลอนของแม่ตัวเองและม้าสีขาว จบ...

ซึ่งเรื่องราวใน Halloween 2018 นี้จะเป็นอีกหนึ่งไทม์ไลน์ใหม่ ที่เป็นเรื่องราวต่อจากภาคแรกของต้นฉบับในปี 1978 หลังจากเหตุการณ์นั้นอีก 40 ปี Laurie Strode ทีหนีออกมาจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ ก็ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับฆาตกรหน้ากากขาว Michael Myers รายนี้อีกครั้ง เรียกได้ว่าตอนจบภาคนั้นทำให้สามารถมีเรื่องราวที่เล่าต่อได้อีกมากมายเลยทีเดียว และนักแสดงคนเดิมอย่าง Jamie Lee Curtis จะกลับมารับบท Laurie Strode อีกครั้ง หลังจากเคยรับบทเดียวกันในภาคต้นฉบับปี 1978 อีกทั้งยังได้ John Carpenter กลับมารับหน้าที่บริหารงานสร้างอีกด้วย

เมือง Haddonfield จะกลายเป็นลานสังหารอีกครั้ง เพราะปีศาจกำลังจะกลับมา! กับ Halloween