Pokémon Detective Pikachu เป็นหนังจากแฟรนไชส์ Pokémon สุดฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่ในเรื่องนี้จะไม่ได้เล่าเรื่องราวแบบในการ์ตูนที่มีพระเอกเป็น ซาโตชิหรือแอช มาเล่า แต่จะเป็นเรื่องราวที่เอามาจากในเกมที่มีชื่อเดียวกับหนังอย่าง Detective Pikachu ในเครื่อง Nintendo 3DS โดยเรื่องราวในเกมกับในหนังนั้นจะเหมือนกันตรงที่จะเล่าเรื่องผ่านตัวละครอย่าง Tim Goodman ที่ต้องมาตามหา Harry Goodman พ่อของเขาที่หายตัวไป โดยมีโปเกม่อนยอดนักสืบอย่าง Pikachu คู่หูของ Harry มาคอยช่วยตามหา ร่วมกันไขคดีปริศนาในเมือง Ryme City ที่ซึ่งมนุษย์และโปเกม่อนอยู่ร่วมกัน
Detective Pikachu จะเป็นเรื่องราวที่แยกออกมาจากจักรวาลอื่นๆ โดยไม่ได้มีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับภาคหลัก เพราะในเวอร์ชันนี้ Pikachu พูดได้! โดยในหนังได้นักแสดงสุดเกรียนอย่าง Ryan Reynolds มาพากย์เสียงเป็นเจ้านักสืบ Pikachu ที่ฟังแล้วยังไง๊ยังไงก็สลัดภาพ Deadpool ไม่ออกเลยจริงๆ เปรียบเสมือนว่าเขาคือ Deadpool Pikachu เลย เสียงในหนังเป็นไง เสียงในเกมก็เคร่งขรึมไม่ต่างกันเลย 555
Pikachu คือ Pokémon ธาตุไฟฟ้าตัวแรก ที่มีความสูง 1 ฟุตกับอีก 4 นิ้ว มันถูกออกแบบโดย อะสึโกะ นิชิดะ และได้รับการตรวจทานโดย เค็น ซุงิโมะริ โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจมากจากหนูไพกา
และถึงแม้ว่าชื่อมันจะถูกนำมาเรียกเป็นอวัยเพศชายในประเทศไทยก็ตาม แต่มันคือตัวชูโรงและเป็นไอค่อนของ Pokémon เลยก็ว่าได้ แบบนี้ เราจะมาพูดถึงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเจ้าตัว Pikachu กันหน่อยดีกว่า กับ “10 เรื่องน่ารู้ของ Pikachu ผู้น่ารัก”
ก่อนที่ชื่อ Pikachu จะเป็นที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ มันไม่ได้เพี้ยนมาจาก Peekaboo แต่อย่างใด แต่มันมีที่มามาจากเสียงในภาษาญี่ปุ่น โดยคำแรก Pika เป็นเสียงของประกายไฟฟ้า และ Chu เป็นเสียงร้องของหนู ซึ่งชื่อ Pikachu เป็นชื่อตัวละครที่คิดและสร้างยากที่สุด เนื่องจากมันจะต้องโด่งดังและดึงดูด ไปปรากฏให้คนดูเห็นทั้งในเวอร์ชันอังกฤษ และญี่ปุ่น
ในฉบับอเนิเมะ เราได้เจอกับ Pikachu ที่มีชื่อ เช่น Sparky อย่างไรก็ตาม Ash หรือ ซาโตชิ ไม่ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการให้กับมัน แต่ใช้ชื่อพันธ์ของมันนั่นแหละเรียก “Pikachu ฉันเลือกนาย”
แต่ในตอนสองของหนังสือการ์ตูน The Electric Tale of Pikachu Ash กับ Misty หลังจากที่ทั้งคู่ชนะ Pewter Gym และได้ตรามา Misty ได้ถามกับ Ash ว่า นายไม่ได้ตั้งชื่อให้กับโปเกม่อนของนายหรอ เขาก็ตอบไปทันทีว่า เขาตั้งชื่อนะ ชื่อว่า “Jean-Luc Pikachu” และดูเหมือนว่า Pikachu จะจำชื่อนั้นได้เสียด้วยสิ
Pikachurin คือชื่อโปรตีนที่ถูกค้นพบในร่างกายมนุษย์ในปี 2008 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Shigeru Sato ซึ่งมันเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ส่งแรงกระตุ้นไฟฟ้าจากดวงตาของมนุษย์ไปสู่สมอง มันทำงานโดยไฟฟ้า นักวิทยาศาสตร์รายนี้จึงตั้งชื่อมันตามตัวละครในโปเกม่อน อย่าง Pikachu ซะเลย
ไม่เพียงแต่มันถูกนำไปใช้ตั้งชื่อโปรตีนเท่านั้น ด้วยความโด่งดังของมันทำให้เกาะหนึ่งทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกที่ปกครองตัวเองอย่าง นีวเว มีพื้นที่ประมาณ 100 ตร.กม. กับประชากรอีกประมาณ 1200 คน พวกเขาจึงเอา Pikachu ไปทำเป็นเหรียญดอลลาร์ซะเลย
และในปี 2001 ก็ได้ผลิตเพิ่มเติมออกมาเป็น Meowth, Squirtle, Bulbasaur และ Charmander ใครอยากได้สะสมก็ลองไปเที่ยวดู หรือไม่ก็สั่งซื้อจากทาง Ebay ได้เลยจ้าาาา
เมื่อพูดถึง Pokemon แวปแรกหลา่ยๆ คนคงนึกถึงตัวละครอย่าง Pikachu แน่นอน แต่หารู้ไม่ว่า ดั้งเดิมนั้นมีหนึ่งตัวละครที่ถูกวางให้เป็นมาสคอตของโปเกม่อน
นั่นก็คือ Clefairy หรือ Pippi แท้จริงแล้วทั้ง Pikachu และ Pippi ถูกวางไว้ให้เป็นมาสคอตคู่กัน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อตอนปี 1998 โปเกม่อนได้ออกฉายทางทีวี กลับเป็นตัวละคร Pikachu ที่ดูโดดเด่นกว่า และถูกใจทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากกว่า มันไม่ใช่แค่นั้น แต่สีเหลืองเป็นสีพื้นฐานที่ทำให้เกิดการจดจำ เพราะฉะนั้นจึงทำให้ Pikachu เป็นที่ชื่นชอบและจดจำได้มากกว่า
แน่นอนว่า Pikachu ที่อยู่กับ แอชหรือซาโตชิ เป็นเพศผู้ แต่ก็มีบางตอนที่มีการปรากฏตัวของ Pikachu เพศเมีย แต่จะดูยังไงหล่ะ? คำตอบคือที่หาง Pikachu เพศผู้จะมีหางเหลี่ยมๆ ส่วน Pikachu เพศเมียจะมีหางเป็นมนๆ คล้ายรูปหัวใจ
เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเหมือนกัน ตลอดหลายภาคที่ผ่านมา Ash/ซาโตชิ ไม่เคยจับโปเกม่อนธาตุสายฟ้าตัวไหนเลย เพราะเขามี Pikachu เป็นธาตุสายฟ้าเพียงตัวเดียวแล้ว
อันนี้เป็น Fact ที่น่าสนใจและตลกไม่น้อย มีหลายครั้งในอนิเมะที่เราจะเห็น Pikachu เอ็นจอยกับซอสมะเขือเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้ง meme ต่างๆ ก็มีให้เราได้เห็น
จริงๆ การหลงไหลซอสมะเขือเทศนี้ น่าจะมีที่มาจาก Pikachu ชอบกินของทุกอย่างที่เป็นสีแดง เพราะสิ่งที่เราเห็นมันกินมักจะมีสีแดงเสมอ ไล่ตั้งแต่ซอสมะเขือเทศ แอปเปิล และเบอรี่สีแดง หรือ บางทีซอสมะเขือเทศอาจจะทำให้นึกถึง Ash คู่หูของเขาก็เป็นได้ เพราะซอสมะเขือเทศ ภาษาอังกฤษคือ Ketchup ซึ่งบังเอิญไปตรงกับนามสกุลของ Ash อย่าง Ketchum พอดิบพอดี
มีตอนหนึ่งในอนิเมะที่ชื่อตอนว่า Hocus Pokemon ตัวละครอย่าง Ash/ซาโตชิ ได้โดนร่ายมนต์ที่ผิดพลาดใส่ ทำให้ตนเองกลายเป็น Pikachu แต่ยังคงเอกลักษณ์ใส่หมวก พูดได้ มีเสียงเป็นปกติเหมือน Ash/ซาโตชิทุกประการ สุดท้ายเขาได้ถูกเรียกว่า Ashachu ซึ่งการแปลงร่างในครั้งนั้น เป็นชั่วคราวเท่านั้น เขาก็กลับคืนร่างเดิมในตอนต่อมา
หลายคนคงจะหลงรักเจ้า Pikachu จากความน่ารักของมันจากภายนอกแล้ว คงต้องหลงรักจากเสียงมันแน่นอน “Pika” เธอไม่ได้ให้เสียงพากย์แค่ในอนิเมะเวอร์ชันญี่ปุ่นเท่านั้น เธอยังให้เสียงพากย์ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษอีกด้วย รวมไปถึงเกมส์ เวอร์ชันต่างๆ และเธอยังคงให้เสียงพากย์ตัวละครนี้จนถึงทุกวันนี้ ล่าสุด เธอได้ให้เสียงพากย์ Pikachu ใน Pokemon the Movie: Mewtwo Strikes Back Evolution
หากใครคุ้นเคย เธอก็คือเจ้าของเสียงตัวละครอย่าง Tony Tony Chopper ด้วยเช่นกัน
Pokémon Detective Pikachu ถือเป็นหนัง Live-Action เรื่องแรกของ Pokémon เลยก็ว่าได้ แถมมันยังส่อแววดีและน่าสนใจตั้งแต่วันปล่อยตัวอย่างแรกใน Youtube ได้ยอดไลค์ถึง 1 ล้านภายใน 24 ชม. (ณ ตอนนี้ 1.4 ล้านเข้าไปแล้ว) แถมยังได้รับคะแนนวิจารณ์ไปในแง่บวก ได้ 7.3/10 จาก IMDb และได้ 66% จาก Rotten Tomatoes (10/5/2019) ถือว่าไม่เลวเลย ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นหนังที่ทำออกมาจากเกมที่ดีที่สุดตั้งแต่มีมาเลยก็เป็นได้ ซึ่งถ้ามันทำรายได้ดี เสียงวิจารณ์ดี ประสบความสำเร็จ จักรวาล Pokemon มาแน่! ไปพิสูจน์กันด้วยตาตัวเอง ร่วมไขปริศนา ไล่ล่าเบาะแส และผจญภัยไปกับยอดนักสืบ Pikachu ได้ใน Pokémon Detective Pikachu - โปเกม่อน ยอดนักสืบพิคาชู
ตัวอย่าง POKÉMON Detective Pikachu
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |