หาก Mona Lisa คือ ภาพวาดบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพทิวทัศน์ที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลกก็อาจจะเป็นภาพคลื่นยักษ์แห่งคานางาวะ
เมื่อพูดถึงผลงานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น สัญชาตญาณจะทำให้เรานึกถึงพระอาทิตย์สีแดงบนภาพวาดพู่กัน, ปลาคาร์ป (KOI), นกกระเรียน, ซามูไร, ภูเขาไฟฟูจิ และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ภาพคลื่นทะเลสีฟ้าที่อยู่ด้านล่างนี้
หลายคนน่าจะเคยเห็นภาพดังกล่าวกันมาบ้างแล้ว เพราะมันถูกทำซ้ำหลายต่อหลายครั้ง ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์หลายอย่าง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ที่มาของภาพนี
ภาพจาก https://www.overstock.com/Home-Garden/Katsushika-Hokusai-The-Great-Wave-Off-Kanagawa-3-piece-Gallery-wrapped-Canvas/9915160/product.html
ภาพนี้เป็นผลงานเก่าแก่ของคัตสึชิกะ โฮกูไซ (Katsushika Hokusa) ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีชีวิตในสมัยเอโดะ (เกิด 31 ตุลาคม ค.ศ. 1760 เสียชีวิต 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1849) ตลอดชีวิตของโฮกูไซสร้างสรรผลงานศิลปะขึ้นมามากมาย ผลงานภาพแนวอูกิโยะ (Ukiyo-e) ที่เขาวาด หรือพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ไม้แกะสลัก ความงดงามของผลงานที่เขาสร้าง ทำให้เขามีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเมืองเอโดะ (ปัจจุบันคือเมืองโตเกียว)
Ukiyo-e คือ ภาพศิลปะเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนชั้นกลางในยุคเอโดะ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพสาวงามแห่งยุค, ตัวละครคาบูกิ, นักซูโม่ หรือไม่ก็สัตว์ในตำนานท่ามกลางทิวทัศน์ |
แต่ภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือภาพที่มีชื่อว่า 神奈川沖浪裏 (Kanagawa-oki Nami Ura / The Great Wave off Kanagawa) หรือภาษาไทยในความหมายว่า "คลื่นยักษ์แห่งเมืองคานางาวะ"
ภาพคลื่นยักษ์แห่งเมืองคานางาวะนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพชุด "Thirty-six Views of Mount Fuji" (ทัศนียภาพจาก 36 มุมของภูเขาไฟฟูจิ) ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นตอนอายุที่เขาอายุได้ประมาณ 70 ปีแล้ว โดยคาดว่าเป็นช่วงประมาณระหว่างปี 1829 -1832 ใช้เทคนิคการพิมพ์ภาพด้วยแม่พิมพ์ไม้ ทำให้ภาพนี้มีการพิมพ์ซ้ำขึ้นมาหลายครั้ง คาดว่ามีภาพนี้แบบดั้งเดิมถูกพิมพ์ขึ้นประมาณ 5,000-8,000 ชิ้น
หากสังเกตตรงมุมซ้ายบนของภาพบริเวณที่มีลายเซ็นต์ของศิลปิน จะมีข้อความในกรอบ และนอกกรอบอยู่ บริเวณในกรอบ 冨嶽三十六景/神奈川冲/浪裏" (Fugaku Sanjūrokkei / Kanagawa oki / nami ura) คือ ชื่อของภาพ และข้อมูลสถานที่ ส่วนที่อยู่นอกกรอบเขาเขียนว่า 北斎改爲一筆 (Hokusai aratame Iitsu hitsu) ที่หมายความว่า จากปลายพู่กันของโฮกูไซ ผู้เปลี่ยนนามเป็นลิสึ
ชื่อที่ คัตสึชิกะ โฮกูไซ เคยใช้ Katsushika Hokusai, Katsukawa Shunro, Gummatei, Tawaraya Sori, Hyakurin Sori, Hokusai Sori, Kako, Okimasa, Gakyo Rojin, Gakyojin, Kintaisha, Kukushin, Taito, Raishin, Iitsu, Saki no Hokusai Iitsu, Manji, Fusenkyo Iitsu, Getchi Rojin, Gakyo Rojin Manji, Tsuchimochi Ninsaburo, Tokitaro Kako, Katsushika, Nakajima, Tetsuzo, Miuraya Hachiemon, Tokitaro และ Hishikawa Sori |
กว่าจะที่โฮกูไซจะสร้างภาพ The Great Wave off Kanagawa ได้สำเร็จ เขาได้ทำการ "ทดลอง" ผ่านผลงานชิ้นอื่นๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อหารูปแบบของ "คลื่น" ที่งดงามที่สุด ซึ่งปรากฏอย่างเด่นชัดอยู่ในสามภาพที่มีชื่อว่า Springtime in Enoshima, View of Honmoku off Kanagawa และ Fast Cargo Boat Battling The Waves
ภาพ Springtime in Enoshima ปี ค.ศ. 1797
ภาพ View of Honmoku off Kanagawa ปี ค.ศ. 1803
ภาพ Fast Cargo Boat Battling The Waves ปี ค.ศ. 1805
ทุกวันนี้ พิพิธภัณฑ์ชื่อดังหลายแห่งทั่วโลก อย่างเช่น Metropolitan Museum of Art, Art Institute of Chicago, Los Angeles County Museum of Art และ British Museum ต่างก็มีภาพ The Great Wave off Kanagawa เวอร์ชันดั้งเดิมจัดแสดงอยู่
แม้ภาพนี้จะถูกพิมพ์ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 1829 แต่กว่าที่มันจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับโลก ตัวโฮกูไซก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ปัญหาเกิดจากการที่ในยุคนั้นประเทศญี่ปุ่นยังใช้นโยบายปิดประเทศอยู่ มีเพียงแค่ชาติจีน, เกาหลี และชาวดัตช์บางส่วนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามาทำการค้าด้วย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1859 ที่ประเทศญี่ปุ่นถูกกดดันจากนานาชาติให้เปิดประเทศ ช่วงเวลานั้นเองที่ศิลปะในประเทศญี่ปุ่นถึงได้มีโอกาสถูกส่งออกไปยังโลกตะวันตกด้วย
จากข้อมูลในประวัติศาสตร์ พบว่ามีศิลปินชื่อดังในเวลานั้นให้ความสนใจกับศิลปะจากประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพวกงานสไตล์ Ukiyo-e ศิลปินมีชื่อหลายคนได้พยายามหามาสะสม ตัวอย่างเช่น เอดัวร์ มาแน (Édouard Mane), โกลด มอแน (Claude Monet), เจมส์ แม็คนีลล์ วิสต์เลอร์ (James Abbott McNeill Whistler), แอดการ์ เดอกา (Edgar Degas) และฟินเซนต์ ฟัน โคค (Vincent Van Gogh) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่าวินเซนต์ แวน โก๊ะ
หากใครเคยไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ฟัน โคคที่อัมสเตอร์ดัม จะรู้ว่านอกจากมีจัดแสดงภาพเขียนของฟัน โคคเป็นจำนวนมากแล้ว ก็มีของสะสมของฟัน โคคด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือเหล่าภาพ Ukiyo-e จากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง มีหลักฐานปรากฏในจดหมายที่ฟัน โคคส่งถึงน้องชายธีโอ ฟัน โคค (Theo van Gogh) เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1888 ได้มีการระบุว่าเขาเห็นอนาคตใหม่ในผลงานจากประเทศญี่ปุ่น และหลงรักมันมาก ภาพสไตล์ญี่ปุ่นนี้ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนไป ในปารีสเขาต้องนั่งวาดภาพเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ภาพเรือสักลำ แต่สไตล์ญี่ปุ่นนั้นเรียบง่ายแต่ชัดเจนกว่ามาก ไม่ต้องวัดค่าอะไรให้แม่นยำ แค่ปล่อยปากกาไปตามความรู้สึก"
ในจดหมายอีกฉบับของฟัน โคค เมื่อวันที่ 8 กันยายน 1888 ได้วิจารณ์ภาพ The Great Wave off Kanagawa เอาไว้ว่า "คลื่นเสมือนกรงเล็บ เรือถูกมันจับเอาไว้ คุณสามารถรู้สึกได้"
https://www.theartnewspaper.com/blog/was-van-gogh-inspired-by-hokusai-s-great-wave-when-he-painted-his-starry-night
คามิล คลอเด (Camille Claudel) นักประติมากรรมหญิงผู้มากด้วยพรสวรรค์ เธอถูกโอกุสต์ รอแด็ง (Auguste Rodin) ผู้เป็นอาจารย์ช่วยผลักดันให้มีชื่อเสียง แต่ผลนั้นกลับย้อนมาทำร้ายเธอเอง เมื่อคนในวงการต่างมองว่าเธอไม่ใช่ของจริงที่อาศัยชื่อเสียงของอาจารย์เท่านั้น
เพื่อให้หลุดพ้นจากคำครหานั้น เธอจึงพยายามหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อมาสร้างแนวทางของเธอเองที่ต่างออกไปจากสไตล์ของรอแด็ง สุดท้ายเธอก็สามารถสร้างผลงานที่น่าจดจำของเธอเองออกมาได้สำเร็จ มันมีชื่อว่า La Vague (ที่แปลว่าคลื่น) ซึ่งเธอเองเผยว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากคตินิยมศิลปะญี่ปุ่น และโฮกูไซ
ไม่น่าเชื่อว่าผลงานที่มีอายุเกือบ 200 ปีแล้ว ทุกวันนี้มันยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยที่มันไม่ได้ดูล้าสมัยเลยแม้แต่น้อย คำกล่าวที่ว่าศิลปะอยู่เหนือกาลเวลา "คลื่นยักษ์แห่งเมืองคานางาวะ" ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้ว
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |