ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นหนังสงครามที่เน้นประเด็นโรแมนติก แต่หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society หนังชื่อยาวเรื่องนี้กลับทำธีมช่วงหลังสงครามออกมาได้อย่างครบรสและมีกลิ่นอายของการโหยหาอดีตอยู่ในตัว
ที่มาภาพ: https://www.denofgeek.com/movies/the-guernsey-literary-and-potato-peel-pie-society-review/
หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society เล่าเกี่ยวกับจูเลียต แอชตัน นักเขียนหญิงที่ประสบความสำเร็จในลอนดอน เธอได้รับจดหมายจากชายหนุ่มที่บอกว่าตนเองอยู่ใน “สโมสรวรรณกรรมเกิร์นซีย์และพายเปลือกมันฝรั่ง” เขาเจอที่อยู่ของเธอในหนังสือเล่มหนึ่ง และเขียนมาเล่าถึงการชุมนุมของพวกเขาในช่วงสงคราม ที่เยอรมันยึดครองเกาะเกิร์นซีย์ของอังกฤษ
แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาเพียงรวมตัวกันเพื่อแบ่งปันอาหารในยามที่เยอรมันขโมยอาหารทุกอย่างไปจากชาวบ้าน แต่ก็ต้องกุเรื่องขึ้นมาว่าเป็นสโมสรวรรณกรรมเพื่อไม่ให้พวกเยอรมันจับได้ จูเลียต ที่กำลังจะหมายหมั้นกับทหารชาวอเมริกันในตอนนั้นจึงประทับใจและตัดสินใจไปเยี่ยมพวกเขาที่เกาะเกิร์นซีย์ และเธอก็ได้พบว่า ภายใต้เรื่องราวอันบันดาลใจ มีความลับและความขมขื่นซ่อนอยู่มากมาย นั่นแหละคือหนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society
ที่มาภาพ: https://medium.com/@priscilatarle/2019-in-movies-the-guernsey-literary-and-potato-peel-pie-society-4be5f876b1cc
จูเลียตนั้นตั้งใจจะไปเยี่ยมสโมสรในฐานะเพื่อน แต่หมวกอีกใบหนึ่งที่เธอสวมอยู่คือการเป็นสื่อ เธอต้องการเขียนเรื่องของสโมสรนี้ลงในหนังสือพิมพ์ ซึ่งเธอได้พูดถึงเจตนาตนเองในตอนท้ายของการพบปะครั้งแรก แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือ พวกเขาไม่อนุญาตให้เธอเขียน เพราะ “เธอไม่มีวันเข้าใจ และคนในลอนดอนก็ไม่มีวันเข้าใจ” ประโยคนี้ในหนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society แสดงให้เห็นถึงความห่างทางประสบการณ์ระหว่างคนทำสื่อกับคนต้นเรื่อง
คนทำสื่อนั้นอาจมีธงในใจบางอย่างเกี่ยวกับคนต้นเรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เข้าใจคนเหล่านั้นจริงๆ นี่อาจเป็นสาเหตุให้คนทำสื่อหลายคนต้องไปแฝงตัวอยู่กับคนต้นเรื่องนานๆ เพื่อให้เข้าใจบริบทของคนเหล่านั้นทั้งหมด ซึ่งหนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society จูเลียตก็ทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society สะท้อนออกมาก็คือเรื่องอำนาจ อำนาจในการชี้ขาดความจริงดูจะอยู่ในมือของคนเมืองที่มีสถานภาพและต้นทุนทางสังคมสูงกว่า อย่างจูเลียต ในขณะที่คนห่างไกลในชนบทได้รับความเชื่อถือในคำพูดน้อย คนตัวเล็กๆ มีความจริงในเวอร์ชันของตัวเองซ่อนอยู่ แต่ก็มักถูกกลบด้วยเสียงของชนชั้นนำ
หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ในชุมชนของชาวเกาะเกิร์นซีย์ก็มีความจริงหลายเวอร์ชัน ที่ถูกพูดกันไปต่างๆ นานา โดยที่แต่ละกลุ่มก็เลือกเชื่อความจริงที่ตรงกับจริตของตัวเองมากที่สุด แต่ความเชื่อเหล่านี้เทียบไม่ได้เลยกับการที่สื่อใหญ่เอาเรื่องบางเรื่องไปเขียน แล้วสถาปนาความจริงกระแสหลักขึ้นมา
ที่มาภาพ: https://variety.com/2018/film/reviews/the-guernsey-literary-and-potato-peel-pie-society-review-1202753994/
อย่างไรก็ตาม หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society พยายามจะเข้าข้างคนชนบท และทำให้วิถีของคนชนบทโรแมนติก ด้วยการให้จูเลียตละทิ้งความตั้งใจที่จะเขียนเล่าเรื่องของพวกเขา และกลายมาเป็นพวกเขาเสียเอง
หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ทำให้อำนาจตกมาอยู่ในมือของคนชนบทอีกครั้ง และทำให้พวกเขามีเสียงของตนเอง ซึ่งอันที่จริงก็เป็นแนวทางที่เดาได้ไม่ยากนักในหนังโรแมนติก ในมุมหนึ่ง ความจริงที่สื่อใหญ่ตีข่าวก็ไม่สำคัญอีกต่อไปเมื่อเราได้สัมผัสคนต้นเรื่องในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เท่าเทียม และให้น้ำหนักความจริงของเขาเท่ากับของเรา
นอกจากความโรแมนติกแล้ว ในแง่ของความเป็นดราม่าของหนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ถือว่าหนังทำได้ไม่หนักจนเกินไป แต่ก็มีพอที่จะสร้างความรู้สึกร่วมและความเห็นใจต่อคนบนเกาะให้แก่ผู้ชม
หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Societyใช้วิธีตัดสลับระหว่างปัจจุบัน และอดีตที่ชาวเกาะแต่ละคนต้องเผชิญ ทำให้เห็นที่มาและสร้างมิติของตัวละครได้ค่อนข้างดี อีกเรื่องที่เด่นคือเรืองฉาก ซึ่งทีมงานได้เนรมิตรชนบทช่วงหลังสงครามโลกขึ้นมาให้เป็นชนบทที่น่าอยู่ ผู้คนไม่ห่างเหินต่อกันเหมือนคนในเมือง และมีความอบอุ่น
ที่มาภาพ: https://www.rogerebert.com/reviews/the-guernsey-literary-and-potato-peel-pie-society-2018
หนัง The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ในแง่ของนักแสดงหลัก ลิลี่ เจมส์ ได้ฝากผลงานที่น่าจดจำในฐานะนักพิมพ์ดีดของวินสตัน เชอร์ชิล ไว้ใน Darkest Hour ซึ่งในเรื่องนี้เธอก็ยังคงทำงานกับเครื่องพิมพ์ดีด และแสดงบทของนักเขียนผู้เห็นอกเห็นใจออกมาได้อย่างหมดจด อย่างไรก็ตามมีจุดที่น่าหักคะแนนเล็กน้อย คือเรื่องความรักระหว่างพระเอกกับนางเอกที่ดูเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกมากเกินไป และเคมีของนักแสดงอาจยังไม่เข้ากันนัก ทำให้ความน่าเชื่อในเรื่องนี้ดูน้อยลง
รับชม The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ได้แล้ว ทาง Netflix
ที่มาภาพ: https://www.imdb.com/title/tt1289403/mediaviewer/rm1746226944
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |