เคยไหมที่ดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วมันโดนใจมาก จนต้องไปค้นหางานอื่น ๆ ของผู้กำกับมาดู สำหรับคอหนัง ความสุขเล็ก ๆ อาจเป็นการได้ดูหนังของผู้กำกับคนโปรด และในลิสต์นี้ เราได้รวม 3 ผู้กำกับระดับโลกที่มีลายเซ็นเป็นที่จดจำ มาฝากกันค่ะ
ผู้กำกับ นักเขียนบท และผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฮ่องกง กับบุคลิกชอบสวมแว่นดำเป็นเอกลักษณ์ หนังของเขามีเสน่ห์ตรงที่มักนำเสนอความเหงา เปล่าเปลี่ยว ว้าวุ่น และว้าเหว่ของคนเมือง จนชาวเน็ตสร้างคำว่า “สไตล์หว่อง ๆ” ขึ้นมาอธิบายความเปลี่ยวเหงาที่เจอในโลกสมัยใหม่
ที่มาภาพ : https://www.insidehook.com/article/style/how-wong-kar-wai-cultivated-cool
งานของ หว่อง กาไว (Wong Kar-wai) อย่างเช่น หนัง ภาพยนตร์ In the Mood for Love ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เป็นเรื่องราวของความรักที่เป็นไปไม่ได้ ระหว่างหญิงชายคู่หนึ่ง ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่คู่ของพวกเขาไม่ค่อยมีเวลาให้พวกเขาเท่าใดนัก ทั้งสองที่เปลี่ยวเหงาได้มาเจอกัน และมีความสัมพันธ์กันแบบปราศจากเรื่องเพศ ในห้องเช่าที่คับแคบของฮ่องกง ที่พวกเขาต้องคอยระวังว่าจะมีคนค้นพบความสัมพันธ์ลับ ๆ นี้
ที่มาภาพ : https://www.scmp.com/magazines/style/article/3084877/how-wong-kar-wais-mood-love-became-modern-masterpiece-20-years
ในขณะที่หนัง ภาพยนตร์ Chungking Express ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ก็เล่าเรื่องราวของนายตำรวจสองคน คนหนึ่งถูกแฟนทิ้งและฝังใจเจ็บจนต้องตามจีบสาวในบาร์ ส่วนอีกคนก็โดนแฟนแอร์โฮสเตสตีจาก และมีพนักงานประจำร้านฟาสต์ฟู้ดมาตกหลุมรัก หนังเรื่องนี้เป็นการนำเสนอชีวิตคนเมืองที่แปลกแยก ที่ซึ่งสิ่งของต่าง ๆ กลายเป็นสิ่งโรแมนติกให้ผู้คนพูดคุยกับพวกมัน และเป็นหนังเรื่องแรกของหว่องกาไว ที่เควนติน ทารันติโน นำไปฉายที่อเมริกาจนได้รับคำชมมากมาย
ที่มาภาพ : https://bleedingcool.com/movies/wong-kar-wai-is-planning-a-sequel-to-chungking-express/
นักสร้างหนังที่หาตัวจับยากแห่งฮอลลีวูด ผู้เป็นที่รู้จักในเรื่องการนำเสนอฉากรุนแรงอย่างมีศิลปะ งานของเขามักจะมีความกวนแบบดิบ ๆ เท่ ๆ ซ่อนอยู่ และไม่เดินเรื่องเป็นเส้นตรง อีกทั้งยังแฝงกลิ่นอายของความหลงใหลในฮอลลีวูด ไม่ต่างจากการสะท้อนบุคลิกภาพของตัวเขาเอง
ที่มาภาพ : https://collider.com/wp-content/uploads/quentin-tarantino-reservoir-dogs1.jpg
ผลงานของ เควนติน ทาแรนติโน (Quentin Tarantino) อย่างเช่น หนัง ภาพยนตร์ Kill Bill ภาคแรกออกฉายในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เรื่องราวของนักฆ่าหญิงที่ถูกหักหลังในงานวิวาห์ของตนเอง จนทำให้เธอออกเดินทางแก้แค้นคนที่ทำให้เธอโคม่า นำแสดงโดย อูมาร์ เธอร์แมน (Uma Thurman) หนังเรื่องนี้เป็นการเคารพหนังซามูไรสไตล์ญี่ปุ่น มีฉากต่อสู้แบบเลือดสาด และใช้ภาพการ์ตูนและขาวดำในซีนที่รุนแรง จนทำให้มีความเท่และแปลกใหม่ และมีภาคต่อมาอีกถึง 2 ภาค
ที่มาภาพ : https://i-d.vice.com/en_uk/article/yw4zam/why-do-so-many-queer-people-love-kill-bill
อีกเรื่องหนึ่งคือ Once Upon a Time... in Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เล่าเรื่องของดาราชายที่เริ่มตกอับ และสตั๊นท์แมนคู่หูของเขา นับเป็นหนังที่ได้ดาราแม่เหล็ก อย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) และ แบรด พิทท์ (Brad Pitt) มาแสดงนำ วาดลวดลายความกวนประสาทและความห่ามแบบแมน ๆ ได้อย่างถึงใจ ปิดท้ายด้วยการจบที่รุนแรงสนองความสะใจของคนดู และมีเอกลักษณ์ด้านงานภาพที่ทำให้เห็นฮอลลีวูดในยุคก่อน
ที่มาภาพ : https://www.filmstarts.de/nachrichten/18526868.html
คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) หรือเสด็จพ่อโนแลนของชาวเน็ตหลาย ๆ คน มีลายเซ็นเป็นเอกลักษณ์ในด้านการกำกับหนังที่มีพล็อตด้านจิตวิทยาและระทึกขวัญ เขาชอบค้นหาวิธีการนำเสนอพล็อตเรื่องอันซับซ้อนด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของฮอลลีวูด และมีงานภาพสุดอลังการที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล
ที่มาภาพ : https://stanforddaily.com/2021/08/24/christopher-nolans-11-movies-ranked/
งานของโนแลน เช่น Inception ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) เป็นเรื่องของการเข้าไปในอาณาจักรจำลองของจิตใจ และมีฉากอันสวยงาม ซับซ้อน ชวงพิศวงอันเป็นที่เลื่องลือ นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้กำกับ The Dark Knight Trilogy หนังแบทแมนสามภาคที่ทำให้แบทแมนมีความดาร์ค มืดมน และซับซ้อน อีกภาพยนตร์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Tenet ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เรื่องราวของการเดินทางทวนเข็มนาฬิกา ย้อนกระแสเวลา ที่มีงานภาพแปลกใหม่ และนักแสดงต้องแสดงฉากต่าง ๆ แบบกรอย้อนหลัง นับเป็นงานที่มีผู้พูดถึงมากทีเดียว
ที่มาภาพ : https://www.creativebloq.com/news/tenet-logo-changed
ที่มาภาพ : https://www.filmcompanion.in/features/hollywood-features/15-years-of-christopher-nolans-the-dark-knight-trilogy-6-of-its-best-moments/
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |