ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 8,134
เขียนโดย :
0 %E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD+Nintendo+%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87+Sony+%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87+PlayStation+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

ถ้าพูดถึงเครื่องเกมคอนโซลที่ขายดีที่สุดตลอดกาลโดยไม่นับเครื่องเกมแบบพกพา (ข้อมูลปี 2019) อันดับหนึ่ง คือ PlayStation ส่วนอันดับสอง คือ PlayStation 2 จาก Sony  ส่วน Wii จาก Nintendo ซึ่งเป็นเครื่องเกมคอนโซลที่ขายดีที่สุดอยู่ที่อันดับสาม การถือกำเนิดของเครื่องเกม PlayStation มีความเป็นมาที่จัดว่า "สนุก" มากทีเดียว เพราะเดิมทีเทคโนโลยีที่ Sony ใช้สร้างเครื่อง PlayStation นั้น ถูกสร้างขึ้นมาให้เครื่องเกมรุ่นใหม่ของ Nintendo ใช้

ในปี 1988 ขณะนั้น Nintendo ถือเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเครื่องคอนโซล ไม่ว่าจะเครื่อง Nintendo Entertainment System (NES) หรือ Super Nintendo Entertainment System (SNES) ต่างก็ทำยอดขายได้อย่างมหาศาล ขณะนั้น สื่อบันทึกข้อมูลอย่าง CD-ROM ได้ถือกำเนิดขึ้น แล้วกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

บทความเกี่ยวกับ Nintendo อื่นๆ

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://metro.co.uk/2013/08/14/you-must-defeat-my-dragon-punch-to-stand-a-chance-the-ten-best-super-nintendo-snes-games-ever-3922426/

ยุคนั้น ยังมีผู้ครอบครองเครื่องเล่น CD ไม่มาก แต่มันก็มีศักยภาพที่เหมาะสมต่ออนาคตของอุตสาหกรรมเกมอย่างชัดเจน ตลับเกมในยุคนั้นอย่างมากก็สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 2MB ในขณะที่แผ่น CD-ROM ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าสามารถเก็บข้อมูลได้เกือบ 600MB นักพัฒนาเกมสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ขนาดมหาศาลในการใส่วิดีโอความละเอียดสูง, ดนตรีประกอบที่มีคุณภาพสูง ฯลฯ เข้าไปในเกมได้

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://www.redbull.com/cz-cs/nostalgicky-ctvrtek-10-nintendo-snes-her

อ้างอิงจากนิตยสารของนินเทนโด "Nintendo Power" ฉบับเมษายน ในปี 1992 ทาง Nintendo ได้ให้คำสัญญาว่าจะเปิดตัวเครื่องเกมให้รองรับการเล่นจากแผ่น CD ได้ด้วยตอนเดือนมกราคมปี 1993 ในราคา $200 (ประมาณ 6,100 บาท) แต่ระหว่างนั้น NEC Home Electronics ผู้ผลิตเครื่องเกมคู่แข่ง ก็ได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เครื่อง PC Engine สามารถเล่นเกมจากแผ่น CD ได้ รวมถึง SEGA ก็ทำ Mega-CD ออกมาด้วยเช่นกัน ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเจ้าตลาดอย่าง Nintendo จะไม่ยอมตกเทรนด์นี้อย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วกว่า Nintendo จะยอมเลิกใช้ตลับเกมก็โน่นเลย เครื่องเกม GameCube ที่เปิดตัวในปี 2001 การตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้ของ Nintendo ได้กลายเป็นการสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นมา นั่นก็คือ PlayStation เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันต่อครับ

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://www.nintendolife.com/news/2019/02/all_secret_snes_data_has_just_been_removed_from_nintendo_switch_onlines_nes_app

ความสัมพันธ์ระหว่าง Sony กับ Nintendo เริ่มต้นขึ้นจากเคน คุตารางิ (Ken Kutaragi) วิศวกรหนุ่มไฟแรงของ Sony ที่ภายหลังได้ชื่อว่าเป็น "บิดาผู้ให้กำเนิดเครื่อง PlayStation" ได้แอบไปตกปากรับคำกับ Nintendo ว่าจะช่วยสร้างชิปเสียงให้กับเครื่อง Super NES โดยไม่ขออนุญาตจากเบื้องบน เนื่องจากตอนนั้น Sony ไม่มีความสนใจในอุตสาหกรรมเกมเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ชิป S-SMP ที่เขาได้สร้างให้ SNES นั้นออกมาดี และได้รับคำชื่นชมว่าออกแบบได้อย่างชาญฉลาด นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Sony และ Nintendo เริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://bankbiografi.blogspot.com/2016/08/biografi-ken-kutaragi-penemu-mesin.html

เมื่อ Nintendo สนใจที่จะนำสื่อ CD มาใช้ในเครื่องเกมของตนเองบ้าง จึงไม่แปลกใจที่ Sony จะเป็นพันธมิตรที่ดีที่จะมาช่วยพัฒนาเครื่องเกมระบบใหม่ที่มีชื่อว่า Super NES CD-ROM ดีลธุรกิจนี้เริ่มต้นในปี 1988 โดยเคน คุตารางิตกเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการนี้ โดย Sony จะได้สิทธิ์ในการเครื่องเกมที่สามารถเล่นเกมจากตลับ SNES และแผ่น Super Disc (เหมือนแผ่น CD นี่แหละ) เครื่องเกมต้นแบบพัฒนาสำเร็จหลังจากผ่านการสร้างเครื่องต้นแบบกว่า 200 เครื่อง ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี Sony วางแผนที่จะเปิดตัวเครื่องเกมดังกล่าวร่วมกับ Nintendo ภายในงาน Consumer Electronics Show (CES) ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 1991 

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://www.hypable.com/sony-to-ditch-dualshock-controller-for-ps4-sells-nyc-headquarters/

และแล้วงาน CES 1991 เริ่มต้นขึ้น วันที่โลกคาดหวังว่าจะได้เห็นภาพเครื่องเกม Super NES CD-ROM ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Nintendo กับ Sony แต่เรื่องราวช๊อคโลกก็เกิดขึ้น เพราะ Nintendo ได้ประกาศบนเวทีว่าได้ตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับ Philips ในการสร้าง Super NES CD-ROM แทน นั่นเป็นเรื่องราวส่วนใหญ่ที่เรามักจะได้ยินกัน อย่างไรก็ตาม ความจริงมันมีความซับซ้อนมากกว่านั้น

เพราะความจริง Sony รู้ตัวมาก่อนแล้ว ว่าทาง Nintendo จะหักหลัง แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า Sony รู้ตัวก่อนวันงาน CES เพียงไม่นาน อ้างอิงจากข้อมูลในหนังสือ Game Over ของ David Sheff ที่ได้มาจากการสัมภาษณ์ฮาวเวิร์ด ลินคอล์น (คนที่ Nintendo ส่งไปทำสัญญากับ Phillips) ได้เผยว่า Sony รู้เรื่องนี้ก่อนวันงานประมาณ 48 ชั่วโมง แน่นอนว่าไม่ได้รู้จากการประชุมกับ Nintendo หรือ Phillips แต่อย่างใด 

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://www.goodreads.com/book/show/339583.Game_Over

ข่าวนี้ได้รั่วถึงหู Sony จากหนังสือพิมพ์ The Seattle Times ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม 1991 ที่ได้พาดหัวว่า "Nintendo และ Philips ร่วมมือกันทำเกมบน CD" ก่อนวันงาน CES แค่เพียงสองวันเท่านั้น ในเนื้อข่าวได้ระบุว่า "โฆษกจาก Nintendo บรรลุข้อตกลงกับ Philips ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติดัตช์ในการทำเกมบน CD"

ดังนั้น การที่ Sony ได้ประกาศเปิดตัวเครื่อง PlayStation ในวันที่ 1 มิถุนายน 1991 ล่วงหน้าก่อน Nintendo หนึ่งวัน น่าจะเป็นการกดดันทางอ้อมให้ Nintendo ยังคงร่วมมือกันต่อ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว Nintendo ก็ไม่เปลี่ยนใจ หันไปร่วมมือกับ Phillips เปิดตัวเครื่องเกมที่มีชื่อว่า CD-i อย่างเป็นทางการ

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Philips_CD-i

ทำไม Nintendo ถึงหักหลัง Sony?

สาเหตุที่ Nintendo ตัดสินใจหักหลัง Sony มีที่มาจาก สัญญาที่ทั้งคู่ตกลงร่วมกันในตอนแรกทำให้ทาง Nintendo รู้สึกไม่สบายใจในระยะยาว ตัวสัญญาได้ตกลงว่า Sony สามารถสร้าง และขายเกมในรูปแบบ CD สำหรับเล่นบนเครื่อง Super NES CD-ROM อย่างอิสระ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงิน หรือผ่านการอนุญาตจาก Nintendo เลย ในมุมกลับกัน Nintendo จะไม่มีรายได้เลยจากส่วนนี้ นอกจากกำไรที่ได้จากการจำหน่ายตัวเครื่อง

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://miketendo64.com/2019/04/09/this-april-is-the-time-buy-huge-eshop-games-on-switch-with-nintendos-blockbuster-sale/

หลายคนอาจจะสงสัยว่า Nintendo ยอมให้สัญญาที่ตัวเองดูเสียเปรียบเต็มประตูขนาดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? คำตอบก็คือ อย่าลืมว่า Nintendo ไม่เชื่อว่า CD จะได้รับความนิยม แล้วก็ Sony ได้ให้คำมั่นว่ามีความสนใจในหลากหลายธุรกิจยกเว้นก็แต่วิดีโอเกม เนื่องจากมันไม่ใช่ของที่เคยทำมาก่อน โดยจะเน้นไปพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความบันเทิง อย่างคาราโอเกะ, เพลง หรือภาพยนตร์ ที่สามารถเล่นผ่านเครื่อง Super NES CD-ROM เสียมากกว่า แต่ในสัญญาก็ไม่มีระบุห้ามไม่ให้ Sony ทำเกมแต่อย่างใด

ฮิโรชิ ยามากูจิ (Hiroshi Yamauchi) ประธานของ Nintendo ในขณะนั้น เริ่มมองเห็นปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว จึงตัดสินใจสั่งให้ ฮาวเวิร์ด ลินคอล์น (Howard Lincoln) ประธานบริษัท และมิโนรุ อาราคาวา (Minoru Arakawa) ประธานใหญ่ของ Nintendo สาขาอเมริกาเดินทางไปเนเธอร์แลนด์เพื่อเซ็นต์สัญญากับบริษัทฟิลลิป (Phillip) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้วางมาตรฐานของ CD ร่วมกับ Sony โดยสัญญาฉบับนี้ ทาง Nintendo จะได้กำไรจากการจำหน่ายซอฟต์แวร์เกมที่ทางฟิลลิปผลิตขึ้น รวมถึงอนุญาตให้นำตัวละครจาก Nintendo ไปใช้ได้ด้วย แน่นอนว่าเวลานั้น Sony ยังไม่รู้ว่ามีดีลนี้เกิดขึ้น

Sony พยายามผลิตเครื่อง Super NES CD-ROM ต่อด้วยตนเอง

หลังจบงาน CES 1991 อย่างเจ็บปวด ทาง Sony ตัดสินใจที่จะพัฒนาเครื่อง PlayStation ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Nintendo ต่อไป แต่ทาง Nintendo ได้ยืนยันว่าในสัญญาข้อตกลงไม่ได้มอบอำนาจให้ทาง Sony สามารถผลิตเครื่องเกมเองได้ นำพาไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล ผลการตัดสินออกได้ข้อสรุปในปี 1992 ว่า Sony จะสามารถใช้ชื่อ PlayStation ได้ต่อไป ในขณะที่ Nintendo จะได้กำไรทั้งหมดจากการขายตลับเกม SNES

อย่างไรก็ตาม Sony ก็ไม่ได้พัฒนาเครื่องเกมให้ Nintendo แต่ตัดสินใจหันมาพัฒนาเครื่องเกมของตนเองแทน โดยมุ่งเน้นไปที่การก้าวเข้าสู่ระบบเกมแบบ 3 มิติ ซึ่งตอนนั้นในตลาดถือว่าเป็นของใหม่มาก มีการแยกแผนกออกมาก่อตั้งเป็น Sony Computer Entertainment, Inc. (SCEI) ในปี 1993 สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ จนกระทั่งในปี 1994 ทาง Sony ก็ได้เปิดตัวเครื่อง PlayStation ออกมา เครื่องเกมแบบ 32 บิต ที่สนับสนุนการเล่นเกมแบบ 3 มิติ อย่างสมบูรณ์แบบ (ณ เวลานั้น) กลายเป็นเครื่องเกมที่ทำยอดขายดีที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน 

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/PlayStation_(console)

ส่วนเครื่อง Super NES CD-ROM ต้นแบบที่มีอยู่กว่า 200 เครื่องได้ถูกทำลายไปหมด และไม่มีใครเคยเห็นว่าหน้าตาของมันเป็นอย่างไร จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 ได้มีการค้นพบเครื่องต้นแบบในห้องเก็บของ ของ Ólafur Jóhann Ólafsson อดีตพนักงานในทีมที่พัฒนาเครื่อง PlayStation คาดว่าเขาน่าจะแอบเก็บมันเอาไว้เป็นที่ระลึก ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นหน้าตาของมัน ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่มีถาดใส่ CD อยู่ด้านหน้า และช่องใส่ตลับอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมจอยที่เหมือนกับของเครื่อง SNES แต่สกรีนคำว่า PlayStation แทน

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด

ในขณะที่ Nintendo ยังคงผลิต SNES ไปจนถึงปี 1999 ระหว่างนั้นก็ได้เปิดตัวเครื่องเกมรุ่นใหม่ Nintendo 64 ออกมาในปี 1996 ตามหลัง PlayStation สองปี โดยมาพร้อมกับการทำงานแบบ 64 บิต และสเปคเครื่องที่ดีกว่า PlayStation มาก แต่ด้วยความที่ยึดติดกับระบบตลับ ที่ต้นทุนสูงกว่า 30 เท่า แถมยังมีความจุสูงสุดต่อตลับเต็มที่แค่ 64 MB เท่านั้น (แผ่น CD ของ PS1 มีความจุ 650MB) ทำให้เกมไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้มากนัก เนื่องจากพื้นที่อันแสนจำกัดจำเขี่ย รวมกับการที่ Nintendo งกไม่ยอมให้นักพัฒนาใช้ Microcode tools เพื่อให้เกมที่ตนเองพัฒนาออกมาดูดีกว่าค่ายอื่น และลดปริมาณเกมที่ไร้คุณภาพ แต่เห็นได้ชัดว่ามันทำให้การพัฒนาเกมทำได้ยากขึ้นไปอีก จนไม่มีใครอยากทำเกมลงเครื่อง Nintendo 64

แม้แต่เกม Final Fantasy VII ซึ่งเดิมทีตั้งเป้าว่าจะพัฒนาลงให้เครื่อง Super NES CD-ROM ก็เจอข้อจำกัดมากมายของ Nintendo 64 จนตัดสินใจย้ายไปพัฒนาลง PlayStation แทน (แถมยังต้องใช้ CD ถึง 3 แผ่นในการเล่น) เปลี่ยนระบบกราฟิกจาก 2D เป็น 3D สุดอลังการ จนกลายเป็นเกมที่ทำยอดขายได้สูงถึง 9,720,000 ชุด ตลอดอายุของ Nintendo 64 มีเกมออกมาแค่เพียง 388 เกมเท่านั้น ในขณะที่เครื่อง PlayStation 1 มีให้เล่นถึง 3,052 เกม

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://auction.catawiki.com/kavels/6827119-sony-playstation-ps1-game-final-fantasy-vii-complete-in-box

หลังจากนั้น Nintendo ก็ยังพลาดท่าอย่างต่อเนื่อง GameCube ที่ทำมาแข่งกับ PlayStation 2 ก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า แม้จะยอมหันมาใช้แผ่นเป็นสื่อในการเล่นเกมแล้ว ด้วยเหตุผลเดิมๆ แม้ว่าสเปคจะแรงกว่า แต่แผ่นที่ใช้มีความจุเพียง 1.5GB ในขณะที่ PlayStation 2 แผ่นมีความจุเริ่มต้นที่ 4.7GB แล้ว ทำให้เกมมีข้อจำกัดเดิมๆ รวมถึง Nintendo ก็ไม่ค่อยง้อผู้ผลิต 3rd-party เท่าไหร่ด้วย ทำให้พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง กว่าจะพลิกตัวกลับมาได้ก็ต้องสมัยเครื่อง Wii ที่เปิดตัวในปี 2006 เลยทีเดียว

เมื่อ Nintendo หักหลัง Sony ศัตรูสุดแกร่งอย่าง PlayStation เลยได้แจ้งเกิด
ภาพจาก https://www.phonearena.com/news/Why-Super-Mario-Run-was-a-flop-and-we-shouldve-seen-it-coming_id89442


ที่มา : www.thoughtco.com , www.mirror.co.uk , www.ladbible.com , kotaku.com , www.techradar.com , en.wikipedia.org , www.trustedreviews.com , nintendosoup.com , en.wikipedia.org , twitter.com , en.wikipedia.org , en.wikipedia.org , www.vgmpf.com , en.m.wikipedia.org

 

0 %E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD+Nintendo+%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87+Sony+%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87+PlayStation+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น