ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 288,991
เขียนโดย :
0 21+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99+%2821+Recommended+War+Movies%29
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)

เฉพาะคนตายเท่านั้นที่จะเห็นจุดจบของสงคราม
- George Santayana ค.ศ. 1922 (พ.ศ. 2465)

สงคราม...ความขัดแย้ง การศึก การสู้รบ ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง และก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็ได้มีการหยิบเอาเหตุการณ์จากในสงครามหลาย ๆ ช่วงมาบอกเล่าทำเป็นหนัง ทั้งอิงประวัติศาสตร์ แต่งเติมบ้าง สร้างใหม่บ้าง อาจจะมีทั้งแนวแอ็คชันมันส์ยิงกันกระจาย หรือดราม่าน้ำตาแตก แต่ที่แน่ ๆ หนังทุกเรื่องก็สะท้อนภาพความเลวร้ายของมันออกมาให้เราเห็นอยู่เสมอ และมันก็มักจะให้ข้อคิดอะไรบางอย่างกับคนดูเช่นกัน แต่ก่อนเนี่ยตัวผมเองดูหนังพวกนี้ก็มองแค่ว่าคนชนะเป็นฮีโร่เก่งจังเลย แต่พอโตขึ้นเราก็ได้รับรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด คนชนะแค่มีสิทธิขีดเขียนประวัติศาสตร์ และสงครามมันเลวร้ายจริง ๆ 

เพราะฉะนั้นเราจะมาแนะนำ 21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน และพยายามจะเอาให้หลาย ๆ แนวมาลองมาได้ดูกัน มาดูกันเลย

1. หนัง ภาพยนตร์ Black Hawk Down - ยุทธการฝ่ารหัสทมิฬ ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ถ้าพูดถึงหนังสงคราม นี่คือหนังสงครามเรื่องแรกที่นึกถึง Black Hawk Down ผลงานการกำกับของ Ridley Scott ดัดแปลงจากหนังสือของ Mark Bowden ที่จัดเต็มด้วยทัพนักแสดงมากมาย

Black Hawk Down บอกเล่าถึงทหารอเมริกาที่ถูกส่งเข้าไปยังโซมาเลีย เพื่อช่วยเหลือประชาชนระแวกนั้น โดยใช้เฮลิคอปเตอร์นามว่า Black Hawk แต่มันก็โดนยิงตก จึงเกิดเป็นวลีในชื่อหนังว่า “Black Hawk Down” ทำให้เหล่าทหารที่รอดชีวิตต้องพยายามดิ้นรนต่อสู้ภายใต้วงล้อมของศัตรู

นี่คือหนังที่โคตรมัน เป็นหนังทดสอบโฮมเทียร์เตอร์ชั้นดี หลายคนอาจจะเคยเดินผ่านพวกโซนขายทีวีโฮมเทียร์เตอร์ หนังเรื่องนี้มักถูกเปิดทดสอบอยู่เสมอ คือถ้าคุณอยู่คอนโดเปิดลำโพงดูเรื่องนี้ดูตอนกลางคืนโดนข้างห้องกระทืบแน่นอน ความยอดเยี่ยมของมันส่งให้มันคว้ารางวัลออสการ์ถึง 2 สาขาเลยทีเดียวเหมาะสมสุด ๆ 

และที่สำคัญนี่คือความเลวร้ายของสงคราม…

2. หนัง ภาพยนตร์ 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi - 13 ชั่วโมง ทหารลับแห่งเบนกาซี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

นี่คือหนังสงครามระเบิดภูเขาเผากระท่อมของ Michael Bay ที่ ดัดแปลงจากหนังสือของ Mitchell Zuckoff นำแสดงโดย John Krasinski ที่บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงเมื่อปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

กับสมรภูมิ ณ สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาใน Benghazi ที่ประเทศลิเบีย เมื่อทหาร 6 นาย พยายามบุกช่วยเหลือตัวประกัน 36 คน แต่ก็โดนคนร้ายโจมตีจากทุกทิศทาง เป็นเวลายาวนานราวกับนรกถึง 13 ชั่วโมง

เป็นหนังที่เฮีย Michael Bay ดึงศักยภาพตัวเองออกมาใช้ได้เยี่ยมจริง ๆ ตู้มต้ามมาก ทั้งภาพและเสียง น่าจะสะใจเฮียแกไม่ใช่เล่น ฉากตามติดระเบิดนี่โคตรเท่ เอาจริง ๆ เราว่าเฮียแกทำหนังเรื่องนี้ได้ดีกว่า Transformer เยอะเลยนะ ส่งให้มันได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 สาขาและชิงลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา

3. หนัง ภาพยนตร์ Lone Survivor - ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ผลงานการกำกับของ Peter Berg ที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่ถูกเขียนเป็นหนังสือในชื่อเดียวกันของ Marcus Luttrell นำแสดงโดย Mark Wahlberg

นี่เป็นเรื่องราวของ Marcus Luttrell และทีมของเขา ที่ได้ส่งไปทำภารกิจ จับหรือสังหารผู้นำกลุ่มตาลิบัน Ahmad Shah ในช่วงปี ค.ศ. 2005 (พ.ศง 2548) แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาดันจับเด็กเลี้ยงแพะมาคนหนึ่งแต่ปล่อยไป จึงทำให้กลุ่มตาลีบันมาล้อมพื้นที่จับตายพวกเขา ทางเดียวที่เขาจะรอดออกไปคือการพยายามเอาชีวิตรอดจากดงกระสุน สมรภูมิเดือดแห่งนี้ และหนังเรื่องนี้ก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขาด้วย

4. หนัง ภาพยนตร์ Fury - วันปฐพีเดือด ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

จากฝีมือการกำกับและเขียนบทของ David Ayer ที่ได้ดาราระดับแม่เหล็กอย่าง Brad Pitt มาแสดงนำ

กับเรื่องราวของพลรถถังในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้รับภารกิจให้ฝ่าการป้องกันที่แน่นหนาของเยอรมัน โดยการใช้รถถังเชอร์แมนของอเมริกานามว่า Fury บุกตะลุยฝ่ากองทัพนาซีเข้าไปใจกลางจุดยุทธศาสตร์ อิงมาจากเรื่องจริงที่นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้อเมริกาได้รับชัยชนะในสงครามโลกครั้งนี้

นี่คือหนังสงครามที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันนัก เพราะมันเป็นการประจัญบานของรถถังแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ระทึก ตื่นเต้น ระเบิด ตู้ต้าม โดยปกติเราจะเห็นทหารราบวิ่งยิงกัน หรือแบบเครื่องบินรบ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่ได้เห็นหนังสงครามที่ใช้รถถังเป็นพระเอก นอกเหนือจากความมันส์ หนังยังมีแง่มุมของความดราม่า แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามอยู่เช่นกัน ที่ถึงแม้จะไม่มีรางวัลติดมือ แต่มันส์พะยะค่ะ

5. หนัง ภาพยนตร์ Saving Private Ryan - ฝ่าสมรภูมินรก ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

นี่คือหนึ่งหนังตำนาน ที่พูดถึงหนังสงครามแล้วใครๆ ต้องยกชื่อนี้มาแน่นอน ติดอยู่ในแทบทุกลิสต์ของหนังสงครามหลายสำนัก ผลงานการกำกับของ Steven Spielberg นำแสดงโดย Tom Hanks 

นี่คือหนังสงครามที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มทหารยกพลขึ้นบกที่ Normandy หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาได้รับภารกิจพิเศษให้ไปติดตามช่วยเหลือพลทหาร Ryan ลูกคนสุดท้ายของตระกูล ที่สูญเสียพี่ชาย 3 คนจากสงคราม เลยทำให้ทางกองทัพอยากตอบแทนส่งเขาคืนสู่อ้อมอกครอบครัว ทำให้ร้อยเอก Miller นำทีมทำภารกิจให้สำเร็จพร้อมกับตั้งคำถามว่าทำไมต้องเอาชีวิตหลายคนไปเสี่ยงกับคนๆ เดียว พวกเขาก็มีครอบครัวต้องกลับไปหาเช่นกัน พวกเขาต้องต่อสู้กับศัตรูฝ่าแนวข้าศึกพร้อมๆ กับต่อสู้กับคำถามในจิตใจไปด้วย

ความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้การันตีคุณภาพด้วยการคว้ารางวัลออสการ์ 5 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 11 สาขา และยังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 5 สาขาอีกด้วย

6. หนัง ภาพยนตร์ Hacksaw Ridge - วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์ ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ผลงานการกำกับชั้นเยี่ยมของ Mel Gibson แสดงนำโดย Andrew Garfield

นี่คือหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเรื่องราวของ Desmond T. Doss ชายผู้รักสงบ สันติ ไม่นิยมความรุนแรง แต่โดนบังคับให้เข้าร่วมรบในสงคราม เขาจึงตัดสินใจทิ้งปืนไม่ยิงคนเลือกที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนในสนามรบ จนกลายเป็นตำนานกล่าวขาน ที่ช่วยเหลือเหล่าเพื่อนทหารหาญกว่า 70-80 ชีวิตโดยไม่ยิงปืนสักนัด จนได้รับเหรียญกล้าหาญถูกกล่าวขานถึงวีรกรรมอันกล้าหาญมาจนถึงทุกวันนี้

ความยอดเยี่ยมของหนังไม่ใช่แค่ชวนทึ่งในเรื่องของวีรกรรมการช่วยเหลือเพื่อนทหารเท่านั้น แต่หนังมีความครบรสมาก หนังความยาวเกือบ 2 ชม. ครึ่ง ที่ไม่มีความน่าเบื่อแม้แต่จุดเดียว หนังมีความครบรสมาก ครึ่งแรกตามติดชีวิตของ Desmond ตั้งแต่เด็ก พาไปเข้าใจความรู้สึกของตัวละคร พาให้ไปผูกพัน รับรู้เรื่องราวความรัก พอมาครึ่งหลังดราม่าจัดๆ สงครามอย่างหนักหน่วง เผชิญวีรกรรมอันน่าทึ่ง เป็นหนังที่ครบรสจริง ๆ

ซึ่งความยอดเยี่ยมของมันส่งให้ตัวหนังคว้ารางวัลออสการ์ 2 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา รวมถึงเข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 3 สาขา แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถคว้าไปได้

7. หนัง ภาพยนตร์ 1917 ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ผลงานจากผู้กำกับอย่าง Sam Mendes กับการยกระดับหนังสงครามเข้าไปอีกขั้นเพราะว่ามันเป็นการนำเสนอแบบถ่ายยาว Long-Take ตลอดทั้งเรื่อง! (เอาจริง ๆ ก็มีการตัดต่อแหละ)

สร้างมาจากคำบอกเล่าของนายทหารที่มีตัวตนจริงๆ ที่ชื่อว่า Alfred H. Mendes หรือคุณปู่ของ Sam Mendes นั่นแหละ ที่บอกเล่าชีวิตตนเองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับเรื่องราวของนายทหารชั้นผู้น้อยที่ได้รับภารกิจให้ไปส่งจดหมายให้แนวหน้าล่าถอยหยุดการโจมตีให้ทัน เพราะพวกเขากำลังจะเดินไปติดกับดักของพวกเยอรมัน 
ถึงแม้มันจะเป็นหนังสงครามแต่หนังมันก็ไม่ได้เน้นสงคราม ฉากสู้รบ ระเบิดตู้มต้าม ฝ่าดงกระสุนอะไรแบบนั้น แต่มันก็มีความลุ้นความตื่นเต้นในแบบของมัน กับการเอาตัวรอดของตัวเอกในสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่า ระหว่างทางเรายังได้เห็นผลกระทบของสงครามอยู่ตลอด เหมือนหนังกำลังพาเราทัวร์สงครามยังไงยังงั้น 

และความยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ส่งให้คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 10 สาขา และยังคว้า 2 ลูกโลกทองคำจากการเข้าชิงทั้งหมด 3 สาขา

8. หนัง ภาพยนตร์ Jarhead - พลระห่ำสงครามนรก ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

พลทหารหัวขวด ผลงานสงครามก่อน 1917 กับการกำกับของ Sam Mendes นำแสดงโดย Jake Gyllenhaal ตัวหนังสร้างมาจากเรื่องจริงที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านหนังสือที่เขียนโดยบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริง Anthony Swofford กับเรื่องราวการตามติดชีวิตทหารเกณฑ์ กับครั้งแรกที่ถูกส่งตัวไปยังทะเลทรายซาอุดิอาระเบีย เพื่อฝึกเตรียมเข้ารบในสงครามอ่าวเปอร์เซีย

ถึงแม้จะชื่อแปลไทยว่า พลระห่ำ สงครามนรก ให้ชวนคิดไปว่ามันคือหนังบู๊ล้างผลาญ ระเบิดตู้มตาม เสียใจด้วย เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น มันคือหนังดราม่าตามติดชีวิตทหารคนหนึ่งกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ ทั้งการรับน้องใหม่ การต่อสู้กับความเบื่อหน่าย พนัน มิตรภาพ ฝึกยิง ฝึกนู่นนี่นั่น และช่วยตัวเอง ง่าย ๆ คือเล่าชีวิตประจำวันต่าง ๆ ในกองทัพ ผ่านมุมมองของเขา แต่หาได้ปลิดชีพศัตรูจริง ๆ สักคน เรียกได้ว่าทั้งเรื่องแทบจะไม่ได้เห็นกระสุนยิงออกจากปืนเลยด้วยซ้ำ 

หนังพาให้เราเห็นอีกแง่มุมของสงคราม สำรวจจิตใจของพลทหาร และให้เห็นถึงชีวิต พร้อม ๆ กับตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เพราะมันเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าร่วมกองทัพ พวกเขาไม่เคยได้รับเลยแม้แต่น้อย

9. หนัง ภาพยนตร์ Full Metal Jacket - เกิดเพื่อฆ่า ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของยอดผู้กำกับชั้นครูระดับตำนานผู้ล่วงลับ Stanley Kubrick ที่หนังแต่ละเรื่องของเขาเรียกได้ว่าขึ้นหิ้งเลยทีเดียว ทำหนังมาหมดทุกแนวแล้ว และนี่คือคราวที่เขามาทำหนังสงคราม 
หนังความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทใหญ่ ๆ อย่างชัดเจน โดยในพาร์ทแรกบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในค่ายทหาร ที่พาเราไปรู้จักเหล่าตัวละครกับการฝึกสุดโหด และพาร์ทหลังเล่าถึงในสนามรบสงครามเวียดนาม

นี่คือหนังสงครามที่ไม่ได้เชิดชูเกียรติยศความกล้าหาญ มิตรภาพ หรือกินใจ แต่มันสะท้อนแง่ลบของสงครามออกมาในหลายๆ แง่ ตั้งแต่การฝึกว่าจริงหรอที่มันคือการฝึกความสามัคคี จริงหรอการแหกปากตะโกนด่าจะทำให้มีวินัย นี่คือหนังสงครามที่เสียดสีหนังสงครามกันเองอย่างยอดเยี่ยม และย้ำให้เห็นกันชัด ๆ ว่าเมื่อขึ้นชื่อว่าสงคราม ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดี มีแต่คำว่าสูญเสีย 

ตัวหนังเข้าชิง 1 ออสการ์ และเข้าชิง 1 ลูกโลกทองคำกับสาขา 

10. หนัง ภาพยนตร์ The Thin Red Line - ฝ่านรกยึดเส้นตาย ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ผลงานการกำกับและเขียนบทของ Terrence Malick แสดงโดยดารามากหน้าหลายตา ซึ่งในเรื่องนี้ไม่มีใครเป็นตัวเอก บทถูกเฉลี่ยนและบอกเล่าผ่านหลายตัวละคร

หนังความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง บอกเล่าเรื่องราวที่บอกเล่าถึงกองร้อยชาลี ที่ถูกส่งไปยังเกาะแห่งหนึ่งที่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีภารกิจให้ยึดและทำลายฐานที่มั่นของญีุ่่ปุ่น เพื่อสะกัดกั้นการเคลื่อนทัพของกองทัพญี่ปุ่น แต่มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นเลย เพราะกองร้อยชาลีต่างเสียกำลังพลไปมากมาย นายทหารชั้นผู้ใหญ่ก็กดดันพยายามบีบให้ยึดที่มั่นให้ได้ไม่ว่าจะเสียทหารไปกี่นายก็ตาม เกิดคำถาม ปัญหา ความขัดแย้งมากมาย และเมื่อยึดสำเร็จมันกลับไม่ได้น่ายินดีอย่างที่พวกเขาคิด สิ่งตรงหน้ามันคืออะไรกันแน่ ที่เราทำกันอยู่นี้คืออะไร สงครามล้วนมีแต่ความโหดร้าย ไม่เพียงแต่ภายนอก มันยังส่งผลถึงจิตใจอย่างรุนแรง

ความยอดเยี่ยมของมันส่งให้มันเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 7 สาขา แต่น่าเสียดายที่ทำได้เพียงแค่เข้าชิง

11. หนัง ภาพยนตร์ The Hurt Locker - หน่วยระห่ำ ปลดล็อกระเบิดโลก ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

นี่คือผลงานการกำกับของ Kathryn Bigelow และได้ Mark Boal อดีตนักข่าวในสงครามอิรักมาเขียนบทให้ 
นี่เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ Anthony Mackie กับ Jeremy Renner ก่อนที่ทั้งคู่จะไปพบกันในจักรวาล MCU ในฐานะ Falcon และ Hawkeye 

กับเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับทหารหน่วย EOD หรือหน่วยกู้ระเบิดในสงครามอิรักที่ประจำการอยู่ที่นั่น ซึ่งทีมนี้ได้สูญเสียหัวหน้าไปจากอุบัติเหตุครั้งหนึ่ง จึงทำให้ทีมต้องมีหัวหน้าใหม่ แต่เขากลับชอบทำงานคนเดียว บ้าบิ่น ชอบเสี่ยง ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่เขากลับทำทำให้ทีมต้องเสี่ยงใจหายใจคว่ำตั้งแต่ภารกิจแรกเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเขาคือชายผู้เสพติดความเสี่ยงอย่างแท้จริง แต่เขาคือไม่กี่คนที่กล้าแบกรับความเสี่ยงขนาดนั้น และเขาคือผู้เดิมพันด้วยชีวิต 

นี่เป็นหนังที่โคตรลุ้น ดูแล้วใจเต้นตุ้บๆ ทุกฉากการกู้ระเบิดหวาดเสียวชิบหาย หนังทำเสียงโคตรดี ไอ้เสียงกึ๊บแก๊บกั๊กๆ มีแต่เสียงอุปกรณ์ เสียงตัดสายไฟ เสียงเครื่องมือ และเสียงหายใจของคนกู้ระเบิด ก็ตื่นเต้น จริงๆ หนังยังสะท้อนผลพวงของสงครามต่อทั้งผู้คนบริสุทธิ เหล่าทหารผู้ที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกวัน 

การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 6 รางวัลออสการ์ จากการเข้าชิงทั้งหมด 9 สาขา แถมด้วยเข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 3 สาขา

12. หนัง ภาพยนตร์ Beasts of No Nation - เดรัจฉานไร้สัญชาติ ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

ผลงาน original จาก Netflix กำกับและเขียนบทโดย Cary Joji Fukunaga ดัดแปลงมาจากนิยายของ Uzodinma Iweala มีดาราบิ๊กเนมอย่าง Idris Elba ร่วมแสดง

นี่เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ อากู เด็กคนหนึ่งที่อยู่ในเมืองท่ามกลางภาวะสงคราม เขาต้องพลัดพรากจากครอบครัว แม่ต้องหนีไปอยู่เมืองอื่น พ่อก็โดนฆ่าตาย เหลือเพียงเด็กน้อยตัวคนเดียวที่ต้องหนีเอาชีวิตรอด และได้มาเจอกับกลุ่มกบฏ ซึ่งผู้บัญชาการตัดสินใจที่จะฝึก อากู ให้เป็นผู้ก่อการร้าย ฝึกให้เขาเป็นนักนักรบ และนักฆ่า

นี่ถือเป็นหนังที่ดูแล้วหดหู่จริง ๆ กับการที่เห็นเด็กน้อยที่เปรียบเสมือนผ้าขาวกำลังแปดเปื้อนไปด้วยมลทินและความโหดร้ายของสงคราม ค่อย ๆ บีบให้เด็กผู้ใสซื่อกลายเป็นปีศาจร้าย จับดาบเฉาะหัวคน จับปืนยิงใส่คน บางฉากแม่งโคตรโหดร้าย และโคตรน่าหดหู่จริง ๆ มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนนึงควรจะเจอ ไม่สิ มันไม่ใช่สิ่งที่ใครควรจะต้องเจอทั้งนั้น การแสดงอันยอดเยี่ยมของ Idris Elba ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้ด้วย

13. หนัง ภาพยนตร์ Schindler’s List - ชะตากรรมที่โลกไม่ลืม ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

หนังสงครามจาก Steven Spielberg อีกเรื่อง ที่แสดงนำโดยดารามากฝีมือทั้ง Liam Neeson, Ben Kingsley และ Ralph Fiennes และสำหรับเรื่องนี้ต้องบอกได้เลยว่าสุดยอดจริง ๆ ส่วนตัวยกให้เป็น The Best of Spielberg เลย

นี่คือหนังที่ถ่ายทอดภาวะสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างมาจากหนังสือของ Thomas Keneally เรื่อง Schindler’s Ark ที่เขียนจากการสัมภาษณ์ชาวยิวผู้รอดชีวิต กับเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดและทุกข์ทรมาณของชาวยิวที่ถูกเหล่านาซีเข่นฆ่าและใช้แรงงานเยี่ยงทาส หนังบอกเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งนามว่า Oskar Schindler นักธุรกิจที่หมายจะใช้แรงงานยิวค่าตัวถูกทำงานสร้างกำไรให้เขา แต่ก็เกิดจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาตัดสินใจช่วยเหลือพี่น้องชาวยิวกว่า 1,100 ชีวิตให้รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 

นี่คือหนังที่เต็มไปด้วยความยอดเยี่ยมในหลากหลายด้านมีโมเมนต์ที่ซึ้ง กินใจ ตราตรึงใจ และหดหู่ไปพร้อมๆ กัน เป็นหนังความยาว 3 ชั่วโมงที่คุ้มค่าจริง ๆ

และความยอดเยี่ยมของมันส่งให้มันคว้ารางวัลออสการ์มากถึง 7 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 12 สาขา และบนเวทีลูกโลกทองคำก็ไม่น้อยหน้า เพราะคว้าไป 3 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา

หนังเรื่องนี้ตัวของ Spielberg ไม่ขอรับเงินใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเขาบอกว่ามันคือ “เงินเปื้อนเลือด” ที่จะมาหากินจากการทำหนังเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวยิวที่ถูกสังหารไม่ได้ เลยทำให้ทั้งเงิน ทั้งค่าลิขสิทธิ์และส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดถูกมอบให้กับมูลนิธิ Shoah Foundation ที่ทำหน้าที่บันทึกและเก็บรักษาพยานหลักฐานต่างๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรและวิดีโอของผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั่วโลก 

14. หนัง ภาพยนตร์ The Pianist - สงคราม ความหวัง บัลลังก์ เกียรติยศ ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

อีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนความโหดร้ายที่ชาวยิวต้องประสบพบเจอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลงานของผู้กำกับ Roman Polanski นำแสดงโดย Adrien Brody ที่อ้างอิงเรื่องราวมาจากหนังสือชีวประวัติของ

Wladyslaw Szpilman นักเปียโนชาวยิวที่อาศัยอยู่ในกรุง Warsaw ประเทศโปแลนด์ ที่ต้องพยายามดิ้นรน หลบหนี เอาตัวรอดจากทหารเยอรมันที่ไล่เข่นฆ่าชาวยิว

หนังเต็มไปด้วยความโหดร้าย สะท้อนภาพความเจ็บปวดที่ชาวยิวต้องเจอ การโดนเข่นฆ่าแบบไร้เหตุและผล ทั้งคนแก่ ผู้หญิง คนท้อง หรือแม้กระทั่งเด็ก มันทั้งหดหู่ น่าเศร้า ไม่แพ้ Schindler’s List เลยทีเดียว แต่ในเรื่องนี้ต่างกันตรงที่เล่าในมุมมองของชาวยิวคนนึงที่ต้องคอยหลบซ่อนอย่างน่าสงสาร และใช้ชีวิตทุกวันอย่างไร้ความหวังสุด ๆ 

3 รางวัลออสการ์ จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 สาขา กับเข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา การันตีความยอดเยี่ยมของเรื่องนี้จริง ๆ

15. หนัง ภาพยนตร์ Life is Beautiful - ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

นี่คือเรื่องราวง่าย ๆ แต่ไม่ง่ายเลยที่จะเล่า เหมือนดั่งนิทานมีส่วนที่เศร้า และมีส่วนที่สุขสม

นี่คือประโยคเปิดของหนังที่บอกเรื่องราวทั้งหมดนี้จริง ๆ ผลงานการกำกับ เขียนบท และแสดงอันยอดเยี่ยมเองของ Roberto Benigni 

หนังสัญชาติอิตาลีที่ถ่ายทอดสิ่งที่ชาวยิวต้องเผชิญในค่ายกักกันของนาซีคล้ายอย่างใน Schindler’s List และ The Pianist แต่ต่างกันที่วิธีการเล่าอย่างสิ้นเชิง บอกเล่าเรื่องราวของ Guido ชายผู้พบรักกับหญิงสาวสวยจนทั้งคู่มีลูกด้วยกัน ตลอดครึ่งเรื่องแรกจะเต็มไปด้วยความตลกและน่ารักจริงๆ ยิ้มได้ตลอดเลย แต่พอครึ่งเรื่องหลังยังกับหนังคนละม้วน ถึงแม้จะมีตลกอยู่บ้าง แต่มันยิ้มไม่ออกจริง ๆ มันดราม่า หดหู่และบีบหัวใจสุดๆ ตั้งแต่ครอบครัวโดนเหล่านาซีจับไปค่ายกักกัน ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อไม่อยากให้ลูกต้องรับรู้เหตุการณ์เลวร้ายนี้ เขาจึงเลือกที่จะโกหกลูกด้วยการที่บอกว่านี่คือเกมถ้าใครทำตัวดีปฏิบัติตามทหารจะชนะรางวัลนะ เขาโกหกลูกตลอดเวลาและทำให้ลูกเขายิ้มได้เสมอ มันเป็นการโกหกที่โกรธไม่ลง และความรักที่พ่อมีต่อลูกในเรื่องนี้มันยิ่งใหญ่จริง ๆ 

ความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้คว้ารางวัลออสการ์ไป 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 สาขา

16. หนัง ภาพยนตร์ Dunkirk ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

หนังที่อิงมาจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเหตุการณ์ที่อ่าว Dunkirk ผลงานการกำกับและเขียนบทเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวของ Christopher Nolan ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ 
กวาดรายได้และคำวิจารณ์ไปไม่น้อย และคว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 8 สาขา และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 3 สาขา

Dunkirk บอกเล่าเรื่องราวที่ทหารอังกฤษ เบลเยี่ยม แคนาดา เนเธอร์แลน และฝรั่งเศส มารวมตัวกันอยู่ที่หาดเดียวกัน เพราะถูกเหล่าทหารเยอรมันปิดล้อมอยู่ที่หาดดันเคิร์ก ทำให้ต้องมีการอพยพทหารกว่า 400,000 นายออกมาจากหาดกินระยะเวลาเกือบ 10 วัน และต้องอาศัยเรือพลเรือนเข้ามาช่วยด้วย

ถ้าสังเกตโลโก้ชื่อเรื่อง Dunkirk จะเห็นได้ว่ามันประกอบไปด้วย 3 สี คือ Sky Blue, Dark Blue และ White นั่นคือการออกแบบแบบจงใจเพราะมันสื่อถึงเนื้อเรื่องที่หนังแบ่งเล่าเป็น 3 ส่วน ท้องฟ้า, ทะเล และภาคพื้นดิน 

17. หนัง ภาพยนตร์ Darkest Hour - ชั่วโมงพลิกโลก ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

หาก Dunkirk บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าทหารที่เกี่ยวข้องกับหาดดันเคิร์ก Darkest Hour ก็เป็นหนังที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันแต่นำเสนออีกด้านนึงของสถานการณ์กับสงครามที่ Winston Churchill ต้องเผชิญในการรับตำแหน่งนายกช่วงแรก ผลงานการกำกับของ Joe Wright นำแสดงโดย Gary Oldman คว้า 2 รางวัลออสการ์จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา และคว้าอีก 1 ลูกโลกทองคำ

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับ Dunkirk เมื่อทั่วทั้งยุโรปโดนกองทัพเยอรมันเข้ายึดครอง รัฐมนตรี Neville Chamberlian จึงถูกบีบให้ลาออก ทำให้ Churchill เข้ามารับหน้าที่ต่อในช่วงสุดแสนวิกฤติ ต้องเผชิญหน้ากับความไม่ไว้วางใจของพระเจ้าจอร์จที่ 6 แถมยังต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับทหารที่ติดค้างกว่า 400,000 นายบนหาดดันเคิร์ก 

นี่เป็นหนังสงครามก็จริง แต่มันไม่ใช่สงครามแบบยิงกันตู้มต้าม หรือถ่ายทอดเรื่องราวบนสมรภูมิรบ แต่มันคือสมรภูมิเกมการเมืองสงครามที่ Churchill ต้องพบเจอ เพื่อฟันฝ่าวิกฤติในครั้งนี้เขาคือคนเดียวที่ไม่ยอมแพ้ และการแสดงของ Oldman ในเรื่องนี้ไร้ที่ติจริง ๆ 

18. หนัง ภาพยนตร์ Braveheart - วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

เปลี่ยนยุคมาช่วงสงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 13 กันบ้าง กับผลงานการกำกับและแสดงนำของ Mel Gibson ที่ดัดแปลงเรื่องราวมาจากชีวประวัติของ William Wallce ที่ได้ปลุกระดมชาวสกอตแลนด์ก่อกบฏไม่ยอมก้มหัวให้อังกฤษ เพื่อแลกมากับอิสรภาพ

จริง ๆ ในตอนแรก Mel Gibson ปฏิเสธจะรับบท William Wallace อยากจะกำกับอย่างเดียว เพราะตัวละครควรจะอายุ 20 ปีต้นๆ แต่เขาปาเข้าไปเกือบ 40 ปีละ แต่ทางค่าย Paramount จะให้เงินทุนก็ต่อเมื่อ Gibson แสดงนำเท่านั้น และแน่นอนว่าเขาตกลง (มันก็ต้องใช้เงินนิเนอะ)

นี่คือหนึ่งในสุดยอดผลงานของ Mel Gibson ทั้งในฐานะผู้กำกับและในฐานะนักแสดง ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีมากมาย ถึงมันจะมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ไปหลายจุดก็ตาม หากทนผ่านช่วงแรกไปได้ พอเข้าสู่ช่วงเริ่มกบฏ หนังก็เริ่มสนุกขึ้นทันที 

และความยอดเยี่ยมของเรื่องนี้ ส่งให้มันคว้ารางวัลออสการ์ทั้งหมด 5 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 10 สาขา แถมยังคว้า 1 ลูกโลกทองคำ จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขาอีกด้วย

19. หนัง ภาพยนตร์ The Patriot - ชาติบุรุษ ดับแค้นฝังแผ่นดิน ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

อีกหนึ่งหนังสงครามจากฝีมือการแสดงของ Mel Gibson ที่มี Heath Ledger ผู้ล่วงลับร่วมแสดงด้วย นี่คือผลงานการกำกับของ Roland Emmerich ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 สาขา

นี่คือหนังอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ในสงครามแบ่งแยกอาณานิคมช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ผ่านตัวละครนามว่า Benjamin Martin อดีตวีรบุรุษสงครามพ่อม่ายลูก 7 ที่ต่อต้านการรบกลัวบาปกรรมที่ทำจะกลับมาเล่นงาน เขามาอาศัยอยู่ที่ไร่เพื่อดูแลลูกทั้ง 7 คนเพียงลำพัง แต่ลูกชายคนโตกลับอยากเข้าร่วมรบเพื่ออิสรภาพ และถึงแม้เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงแค่ไหน สงครามก็มาหาเขาถึงที่และมันส่งให้ลูกชายคนที่ 2 ต้องโดนฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็นโดยทหารอังกฤษ ทำให้ Martin ไม่มีทางเลือกต้องเข้าสู่สงครามด้วยความแค้นและด้วยอุดมการณ์ความรักชาติ นำทัพเหล่าทหารอาสาต่อสู้เพื่ออิสรภาพ

นี่คือหนังสงครามที่อาจจะไม่ได้เที่ยงตรงเป๊ะ ๆ มีการบิดเบือนหลายจุด แต่มันก็เป็นหนังสงครามที่สนุก มีดราม่า ให้ข้อคิด พูดถึงเกียรติในการรบ ความเป็นมนุษย์ และสะท้อนให้เห็นภาพของสงครามในยุคนั้นได้ดีเลยทีเดียว

20. หนัง ภาพยนตร์ Letter from Iwo Jima - จดหมายจากอิโวจิมา ยุทธภูมิสู้แค่ตาย ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

หากใครไม่รู้คงคิดว่านี่เป็นหนังจากญี่ปุ่นแน่ ๆ เพราะทั้งภาษาและนักแสดงเป็นคนญี่ปุ่นหมดเลย แต่เปล่าเลย มันคือหนัง Hollywood มันคือผลงานการกำกับของปู่ Clint Eastwood ซึ่งเป็นฝรั่งที่สร้างหนังเกี่ยวกับญี่ปุ่นได้น่าประทับใจสุด ๆ และที่สำคัญเขาถ่ายทอดเรื่องราวของผู้แพ้ได้โคตรงดงาม 

จริง ๆ แล้วปู่ Clint แกได้สร้างหนังที่ชื่อว่า Flags of Our Fathers ในปีเดียวกันมาก่อนทำเรื่องนี้ ที่บอกเล่าเหตุการณ์เดียวกับ Letter from Iwo Jima แต่เป็นทางฝั่งอเมริกาแทน แล้วจึงมาทำเรื่องนี้ แต่เรื่องหลังก็ได้รับเสียงชื่นชมมากกว่า

นี่คือหนังที่เรารู้อยู่แล้วว่าญี่ปุ่นจะพ่ายแพ้ ความน่าสนใจมันจึงอยู่ที่หนังบอกเล่าอะไรกับเรา หนังเรื่องนี้บอกเล่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สมรภูมิบนเกาะอิโวจิม่า แน่นอนช่วงเวลานั้นญี่ปุ่นเข้าขั้นลำบากสุด ๆ พ่ายแพ้ไปหลายที่หลายเกาะ ซึ่งทหารหลายนายก็ถอดใจยอมแพ้แล้วด้วยซ้ำ รวมถึงนายพลที่มายังเกาะแห่งนี้เขารู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ต้องแพ้ แต่เขาพยายามวางแผนในการรบให้ทางฝั่งอเมริกาสูญเสียมากที่สุดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
นี่ไม่ใช่หนังที่เน้นการทำสงครามแต่หนังพาไปสำรวจสภาพจิตใจของทหารญี่ปุ่นที่ต้องเผชิญในเหตุการณ์นั้น ตั้งแต่ก่อนอเมริกาจะบุก ตอนปะทะกัน และตอนพ่ายแพ้ โดยเฉพาะในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตที่ทหารญี่ปุ่นไม่ยอมตกเป็นเชลยศึก

ความยอดเยี่ยมนี้คว้ารางวัลออสการ์ไป 1 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา และคว้าอีก 1 ลูกโลกทองคำ จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขา

21. หนัง ภาพยนตร์ Apocalypse Now - กองทัพอำมหิต ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)

21 หนังสงคราม ที่มีดีกว่าความมัน (21 Recommended War Movies)
ที่มาภาพ: imdb.com

นี่คือหนังสงครามในตำนานที่ได้รับการยกย่องว่าควรดูสักครั้งก่อนตาย ผลงานชั้นยอดต่อจาก The Godfather การกำกับและเขียนบทของ Francis Ford Coppola 

นี่คือหนังสงครามที่พาเราดำดิ่งไปสู่ด้านมืดภายในจิตใจสะท้อนผ่านตัวละครในสงครามเวียดนาม กับเรื่องราวของ Benjamin L. Willard ที่ได้รับภารกิจให้เดินทางไปเวียดนามเพื่อสังหารผู้พัน Walter E. Kurtz ทหารผู้เสียสติ เข่นฆ่าชาวบ้านมากมาย 

หนังถ่ายทอดการเดินทางของ Willard ที่เจอกับเหตุการณ์มากมาย ที่มันทั้งตั้งคำถามและกำลังเปลี่ยนสภาพจิตใจของเขาไปช้าๆ จนทั้ง Willard และ Kurt จิตใจของเขาแทบจะดำมืดด้วยกันทั้งคู่ และแน่นอนมันเป็นผลพวงมาจากสงครามอันเลวร้ายที่ตลอดทั้งเรื่อง เราพูดได้คำเดียวว่ามัน เลวร้ายจริง ๆ 

คว้าออสการ์ 2 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 8 สาขา กับลูกโลกทองคำอีก 3 สาขา จากการเข้าชิง 4 สาขา คงการันตีความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี


โอ้วเยอะชะมัด 555+ ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ 20 หนังสงครามที่อยากมาแนะนำให้ได้ดูกัน ถ้าใครมีเรื่องไหนนอกเหนือจากนี้หรือประทับใจเรื่องไหนในลิสต์นี้ก็คอมเม้นเข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ 


วิดีโอประกอบจาก Youtube

 

0 21+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99+%2821+Recommended+War+Movies%29
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :)
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น



 

รีวิวแนะนำ